เมื่อวันก่อน เราได้นำเสนอ ข่าวรถคอนเซ็ปต์น่าสนใจที่จะเปิดตัวในงาน Motor Expo 2013 และ รถใหม่ที่น่าสนใจที่จะเปิดตัวในงานนี้เช่นกัน ไปเมื่อวันก่อนเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ ขอนำเสนอในวงการ 2 ล้อกันบ้าง
เริ่มต้นกันที่ Honda ซึ่งช่วงหลังมานี้ ค่ายปีกนก ได้รุกตลาดขึ้นมามาก เพื่อจะหวังครองแชมป์ยอดขายทั้งรถใหญ่ และรถเล็ก
โดยรุ่นที่จะเปิด ภายในงานจะมีรุ่น 650cc 4สูบ ที่เปิดตัวไปที่มิลาน เมื่อ สัปดาห์ก่อน ชื่อรุ่น CBR650f โฉม Sport Touring และ CB650f โฉม Naked Bike ใช้เครื่องยนต์ความจุ 649cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 87 แรงม้า@11,000rpm แรงบิดสูงสุด 63 Nm @ 8,000rpm ขนาดยางสวมไซส์ 120/180 (หน้า/หลัง) โช้คอัพหน้าเป็นแบบ telescopic ขนาดแกน 41mm และโช้คอัพหลังเดี่ยวแบบปรับ Preload ได้ ระบบเบรกมาพร้อมระบบ ABS ในคู่หน้าใช้จาน Twin-Disc 320mm พร้อมคาลิปเปอร์จาก Nissin และเบรกหลังจานเดียว 240mm คาลิปเปอร์ Nissin ซึ่งมาพร้อมกับข่าวลือ ที่เตะหู ผู้รักเครื่องยนต์ 4 สูบ เพราะ ราคาจะมาไม่เกิน 3 แสนบาท
นอกจากนั้น อีกหนึ่งโมเดลที่น่าจับตา คือ CBR300 ซึ่งทำมาเป็นทางเลือกสำหรับ คนที่จ้องจะหา 1st Bigbike
CBR300 จะใช้เครื่องยนต์ 1 สูบ พื้นฐานโครงสร้างแชสซีส์ และช่วงล่างมาจาก CBR250
ราคาอยู่ที่ 1.29 แสนบาท พร้อมสี 2 สี คือ แดง และ ขาว
ทางค่ายเขียว Kawasaki หลังจากลดราคา Z1000 ไปเมื่อช่วง 3 เดือนก่อน ถึง 1.1 แสนบาท เพื่อต้อนรับการมาของ Ninja1000 ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 2014 Kawasaki Z1000 ถือกำเนิดขึ้น ที่มิลาน กันไปเรียบร้อย ซึ่งหน้าตาออกแนวประหลาดสุดแปลก เท่าที่ Kawasaki จะเคยทำ มา โดยมองเผินๆ อาจคลับคล้าย Ducati Street Fighter จากด้านหน้าของตัวรถ Z1000 โฉมใหม่นี้ ยังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บล็อกเดิม 4 สูบ ความจุ 1,043cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ ปรับปุรงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มการตอบสนองในช่วงรอบกลาง และปรับชุดเกียร์ให้ปรับเปลี่ยนได้เร็วยิ่งขึ้น
ระบบกันสะเทือนใหม่ SFF-BP ที่ให้ทั้งความสบายและสมรรถนะสปอร์ต ช่วงล่างหน้ามีสปริงคู่ที่สามารถปรับดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่าเดิม
ส่วนล้อแบบใหม่เบากว่าเดิม 1.5 กก.
และถือเป็นครั้งแรกที่ Kawasaki ใช้โคมไฟหน้าแบบ LED ซึ่งมีดีไซน์สวยงาม ช่วยให้ตัวรถดูล้ำอนาคต แผงมาตรวัด LED ขนาดกะทัดรัดติดตั้งอยู่ที่ตัวแฮนด์ แสดงผลบนหน้าจอ LCD มาพร้อม Economical Riding Indicator บอกอัตราบริโภคน้ำมันเพื่อสนับสนุนให้ขับขี่อย่างประหยัด
อีกหนึ่งโมเดล คงถูกใจสาวก Big Scooter ไม่น้อย กับ Kawasaki J300 รถสกูตเตอร์ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA รูปลักษณ์ ดีไซน์มาจาก ตัวสปอร์ตอย่าง นินจา
J300 ใช้ขุมพลังขับเคลื่อนขนาด 299cc SOHC 4 วาล์ว ที่มาพร้อมการคำนวณที่แม่นยำ ทั้งความดันอากาศ ความเร็วรถ องศาเพลาและระบบหัวฉีดเพื่อการจ่ายเชื้อเพลิงที่เหมาะสมที่สุด ให้การขับขี่ที่ดีต่อเนื่องในทุกสถานการณ์
ระบบเบรกแบบดิสก์สี่ล้อ ด้านหน้าใช้ขนาด 260 มม. พร้อมคาลิปเปอร์แบบสองสูบ ขณะที่ด้านหลัง 240 มม.คู่กับคาลิปเปอร์สองสูบเช่นกัน เพียงพอต่อการหยุดรถอย่างมั่นใจ
Ducati หลังจากที่ได้ออกสื่อ ว่า จะมีการเผยโฉมรถอีก 2 โมเดลภายในงาน ซึ่งทางเราได้วิเคราะห์กันไปเรียบร้อยแล้วว่า น่าจะเป็นโมเดลอะไรบ้าง
คาดการณ์ โมเดลแรกอาจจะเป็น 899 Panigale ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือน กย. ที่ผ่านมา ภายในงาน Frankfurt Motor Show 2013
899 Panigale แฝดผู้น้องของ 1199 Panigale ที่จะมาทดแทน 848 Evo ที่ได้หลุดจากไลน์การผลิตไปเรียบร้อยแล้ว
มีจุดที่แตกต่างจาก 1199 นั้นได้แก่ Swingarm หลังที่ใช้เป็นแบบ Dual-Side แทน Single-Side และเครื่องยนต์ Superquadro ตัวใหม่ให้กำลัง 148 แรงม้า นอกจากนั้นยังใช้เทคโนโลยี หลายอย่างในแบบเดียวกับ สายพันธุ์ Panigale ทั้ง Ride-by-Wire, ABS, DTC (Ducati Traction Control) และ EBC (Engine Brake Control)
มีให้เลือก 2 สี คือ แดง ซึ่งจะใช้ล้อสีดำ และ ขาว ซึ่งจะใช้ล้อสีแดง
หรืออีกโมเดล กับเจ้า M1200 Monster ตัวใหม่และแรงที่สุด เพิ่งถูกเผยตัวที่มิลานเมื่อสัปดาห์ก่อน M1200 ใหม่นี้มากับเครื่องยนต์ Testastretta 11° แบบ L-Twin 4 วาล์ว, ระบบวาล์วแปรผัน Desmodromic ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 1198.4cc มีกำลัง 135 แรงม้า และแรงบิด 118 Nm มีน้ำหนักตัว KERB weight ที่ 209 กก. ระบบกันสะเทือนโช้คคู่หน้าแบบ UpSideDown ขนาดแกน 43mm ด้านหลังใช้โช้ค monoshock พร้อมสวิงอาร์มเดี่ยว อลูมีเนียม เบรกคู่หน้า Twin-Disc 320mm คาลิปเปอร์ 4 สูบแบบ Radial Monobloc จาก Brembo พร้อมระบบ ABS ด้านหลังใส่จานเดี่ยวขนาด 245mm คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ ใส่ล้ออัลลอย 5 ก้านคู่ สวมยางขนาด 120mm คู่หน้า และ 190mm คู่หลัง มาพร้อมระบบ Ducati Safety Pack ที่มี ABS และ DTC ร่วมกับการขับขี่ Power Mode
และมาแน่กับ Ducati 1199 Superleggera สุดยอด Superbike ที่มีน้ำหนักเบามาก Supercar อย่าง Lamborghini จากอิตาลียังมี Superleggera (ภาษาอิตาเลียนแปลว่า น้ำหนักเบา) ได้ แล้วทำไม Ducati จากแดนมะกะโรนีเหมือนกันจะมีไม่ได้ Ducati 1199 Superleggera ได้ใช้วัสดุไทเทเนียม แม็กนีเซียมและคาร์บอนไฟเบอร์ผสมผสานกันซึ่งถือเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมรถสองล้อสมรรถนะสูง
มันมาพร้อมน้ำหนักตัวเพียง 155 กิโลกรัม Dry Weight แรงม้าระดับ 200 ตัว ส่งผลให้มันเป็น Superbike ที่มีสัดส่วนกำลังต่อน้ำหนักตัวที่ดีที่สุด ตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวได้มีรายงานว่า 75% ของยอดจำนวนการผลิตทั้งหมด 500 คันถูกจับจองไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางเราได้ข่าวลือ มาว่าในประเทศไทย มีผู้จับจองเป็นเจ้าของไปเรียบร้อย 2 คัน ค่าตัวคันละ 4.5 ล้านบาท!
KTM และ MV Agusta ภายใต้การทำตลาดของ Kunka Corp ก็ยังมีโมเดลใหม่ ที่จะเปิดตัวในสิ้นปีนี้ ซึ่งคุณพิสิทธิ์ ผู้บริหาร ได้ให้สัมภาษณ์กับเราไว้ว่า เหลืออีก 2 โมเดล สำหรับ KTM ที่จะเปิดสิ้นปีนี้
โมเดลแรก เราได้เดาผิดคาดไปว่า Duke 390 จะเปิดตัวในงาน The Promenade Bigbike Show 2013 ที่ เจ้ารถ Naked ตัวเล็กนี้ ใช้เครื่องยนต์ สูบเดียว ความจุ 373cc มีกำลัง 43 แรงม้า เจ้า Duke 390 ตัวจี๊ดนี้ มีแชสซีส์รูปทรงเดียวกับ Duke 200 ที่ทำตลาดอยู่ปัจจุบันนี้ มันมีความคล่องตัวกับการใช้งานในตัวเมืองอย่างสูง ด้วยทรวดทรงที่กระทัดรัด และน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 139 กก. (Dry Weight)
และพลาดไม่ได้กับ ที่สุดของ Super Naked Bike อย่าง 1290 Super Duke R ที่ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบแบบ V ที่มาพร้อมความจุถึง 1,301cc ให้พละกำลังถึงมหาศาล 180 แรงม้า ถึงแม้รถจะมีความจุที่มาก แต่ น้ำหนักตัว กลับไม่เยอะอย่างที่คิด อยู่เพียง 189 กก.(Dry Weight) เท่านั้น และนั่นทำให้มันกลายเป็นรถที่สุดของ Superbike ในรูปแบบ Naked
ด้านแบรนด์สุด Hi-So ที่ได้ขึ้นชื่อด้านการดีไซน์รถจักรยานยนต์ว่าทำได้สวยที่สุด อย่าง MV Agusta ก็ได้จัด รถที่ได้รับการโหวตว่าเป็นรถที่สวยที่สุดในงาน EICMA 2012 นั่นคือ MV Agusta Rivale รถแบบ Fun to Ride สไตล์ Motard ความจุ 800cc อีกคันที่ถือเป็นคู่แข่งตัวสำคัญของ Ducati Hypermotard SP ที่ได้รับรางวัล รถที่สวยงามในงาน EICMA 2012 เป็นลำดับที่ 2
ความคิดเห็น