สำหรับช่วง Motor Drive ในสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปทดสอบสมรรถนะของ Honda Accord ใหม่ กันอีกครั้งในรุ่นท็อป 2.4 TECH ซึ่งดูเผินๆแล้วอาจมีหน้าตาที่ไม่ต่างจาก รุ่น 2.0 ที่เราได้ทดสอบไปแล้วก่อนหน้านี้ อะไรคือจุดเด่นที่ซ่อนอยู่ และทำให้มันมีค่าตัวโดดจาก รุ่น 2.0 ไปถึง 1,799,000 บาท วันนี้เรามีคำตอบ..
Design&Interior
เริ่มต้นกันที่รูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งถึงวันนี้ Accord ใหม่ ได้ฝ่าฟันเสียงวิภาควิจารณ์จนสอบผ่านและขึ้นแท่นเป็นรถซีดานไซด์กลาง ที่หล่อหรูและดูดีมีชาติตระกูลมากที่สุดคันหนึ่งในตอนนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะ รุ่น 2.4 TECH คันนี้ที่ซ่อนไม้เด็ดไว้เรียกคะแนนเพิ่มอีกเพียบ ตั้งแต่หัวจรดท้ายโดยเฉพาะประกายแวววาวประดุจอัญมณี ที่ส่องสว่างผ่านโคมไฟหน้าแบบ LED Headlight ซึ่งต่างจากไฟแบบ Projector รุ่น 2.0 ชัดเจน พร้อมไฟ LED Day Time ที่รวมอยู่ในโคมเดียวกันได้อย่างสวยงาม ซุึ่งถือเป็นระบบไฟหน้าที่ทันสมัยที่สุดเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นในคลาสเดียวกัน พร้อมเพิ่มไฟส่องด้านข้างขณะเลี้ยว ACL มาให้ในรุ่นนี้ด้วย
เช่นเดียวกับรองเท้าคู่ใหม่ไซด์ 18 นิ้ว ลายสวยหล่อแบบพอดีซุ้ม พร้อมยางขนาด 235/45R18 เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทำให้มันดูภูมิฐานและผสานกับอารมณ์สปอร์ตได้อย่างลงตัว กับหลังคา Sun-Roof แบบ One-Touch และที่ขาดไม่ได้คือฟังชั่นพิเศษที่มีเฉพาะในรุ่นนี้นั่นคือกล้องแสดงภาพมุมอับขณะเปลี่ยนเลน หรือ Honda Lane Watch ที่ใต้กระจกมองข้างฝั่งซ้าย ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปอดภัยได้ดี แต่ถ้าจะให้ดึน่าจะมีมาให้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนบั้นท้ายนั้นมีนอกจาก Logo 2.4i-VTEC ที่บอกว่าคันนี้คือ รุ่น 2.4 แล้ว ในส่วนอื่นนั้นเหมือนกับ รุ่น 2.0 เป๊ะ ไม่ว่าจะเป็นกล้องส่องภาพด้านหลังแบบ Multi-angle Rear view Camera ที่ปรับมุมุได้ 3 ระดับ สปอยเลอร์และสเกริร์ตล่าง ที่่สำคัญคือท่อไอเสียยังมีแค่ฝั่งเดียวเหมือนเดิม ซึ่งถ้าจัดคู่มาให้คงจะดูดีขึ้นกว่านี้อีกเยอะ
ห้องโดยสารยังคงเน้นความเรียบหรูดูดีและและอารมณ์สปอร์ตเคร่งขรึมด้วยการเลือกโทนวัสดุห่อหุ้มภายในสีดำ เฉพาะในรุ่น 2.4 TECH ตัวถังสีขาวกับสีเงิน แทนสีเบจแบบตัว 2.0 ประดับด้วยลายไม้และเมทัลลิกสีเงิน ส่วนในด้านของออฟชั่นต่างๆนั้น นอกจากจะยกชุดมาตรฐานมาจากตัว 2.0 ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (One Push Ignition System) , หน้าจออัจฉริยะ i-MID , พวงมาลัยมัลติฟังชั่น , รวมถึงจอแสดงผล TFT พร้อมระบบนำทาง ขนาด 8 นิ้ว ที่สั่งงานผ่านปุ่มควบคุม interface Dial แบบ JoyStic ที่คอนโซลกลาง
นอกจากนี้ในรุ่น 2.4 คันนี้ยังมีฟังชั่นเติมเข้ามาอีกหลายจุด เช่น แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift หลังพวงมาลัย Multi-Function ที่เพิ่มสวิทซ์ควบคุมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน หรือ Adaptive Cruise Control (ACC) แทนที่ Cruise Control เดิม พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (CMBS) ซึ่งจะส่งสัญญานทั้งแสงและเสียงเตือน พร้อมสัญลักษณ์คำว่า Brake ที่มาตรวัดเรืองแสง รวมถึงเข็มขัดนิรภัยที่เบาะนั่งฝั่งคนขับ ที่ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อม Memory 3 ตำแหน่ง มาตรฐานเดียวกับตัว 2.0 เช่นเดียวกับฟังชั่นอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ Entertainment ที่มีให้เล่นแบบครบชุด โดยมีการเพิ่มเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม พร้อมเสียงเบสที่ตึ่บขึ้นด้วยซัฟวูฟเฟอร์เฉพาะ รุ่น 2.4 ซึ่งโดยรวมแล้วยังถือว่าต่างจากตัว 2.0 ไม่มากนักสำหรับภาพรวมของงานดีไซน์และอฟฟชั่นต่างในส่วนของภายในและภายนอก
Engine&Performance
จากนั้นมาต่อกันที่ขุมพลังซึ่งน่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มันมีค่าตัวที่ต่างจากรุ่น 2.0 กว่า 3 แสนบาท โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รหัส K24W ที่ทาง Honda ได้เริ่มต้นผลิตด้วยเทคโนโลยี Earth Dreams เป็นครั้งแรก พร้อมเคลมไว้ว่าเจ้าเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน ช่วยประหยัดน้ำมัน และรองรับการใช้น้ำมัน E85 ได้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามนั้นทั้งหมดนี่คือเครื่องยนต์ในฝันแห่งโลกใบนี้สมชื่อแน่นอน
จากพื้นฐานของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC i-VTEC ความจุ 2.4 ลอตร ที่ผนวกกับนวัตกรรมที่ชื่อว่า Earth Dreams แล้วสามารถรีดพละกำลังสูงสุดออกมาได้ 174 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 225 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที โดยส่งถ่ายกำลังผ่านระบบส่งเกียร์ลูกเดียวกับตัว 2.0 แบบอัตโนมัติ 5 Speed แบบ Grade Logic Control พร้อม Direct Control และ Shift Hold Control ซึ่งมีการปรับอัตราทดให้ต่ำลงอีกเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับพละกำลังที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งจากการขับทดสอบจะรู้สึกได้ถึงอัตราเร่งที่ตอบสนองได้ดีขึ้นกว่า รุ่น 2.0 ชัดเจน แต่ไม่ถึงกับจัดจ้านนักตามสไตล์รถหรู ประกอบกับเกียร์ที่เปลี่ยนได้ค่อนข้าง Smooth จนสัมผัสถึงแรงดึงแต่ละช่วงค่อนข้างน้อยไม่เหมือนกับเกียร์แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ทั่วๆไป และทำความเร็วได้ค่อนข้างต่อเนื่อง
Honda Accord 2.4 ใหม่ สามารถทำอัตราเร่งในพิกัด 0 - 100 กม./ชม. ได้ด้วยเวลา 9.4 วินาที และวิ่งเขัาเส้นชัยในระยะทางควอเตอร์ไมล์ หรือ 4.2 ไมล์ ด้วยเวลา 16.9 วินาที ก่อนจะกดคันเร่งจนมิดต่อเนื่องไปจนเข็มไมล์กวาดไปมากกว่า 3 ใน 4 ของความเร็วที่มีบนมาตรวัด กับตัวเลข Top Speed ที่เกิน 205 กม./ชม.มานิดหน่อย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมากนักสำหรับรถในพิกัดนี้
ส่วนในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองนั้น Accord 2.4 TECH ใช้รอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงมากนัก โดยที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รอบจะอยู่ที่ 1,950 รอบ และที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ขยับขึ้นมาเป็น 2,200 รอบ ก่อนจะไต่ถึง 2,650 รอบที่พิกัด 140 กม./ชม. ส่งผลให้ทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง จากการขับทดสอบในโหมด ECON ได้ที่ 15.3 กม./ลิตร ซึงเป็นตัวเลขที่ดีกว่าตัว 2.0 และถือว่าประหยัดน้ำมันได้ดีในระดับต้นของรถในคลาสนี้เลยทีเดียว
Handling&Ride&Brake
Honda Accord ใหม่ มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบเดียวกันทั้ง 2.0 และ 2.4 ซึ่งเปลี่ยนจากโมเดลก่อนแบบอิสระดับเบิลวิชโบนที่ด้านหน้า มาให้แบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังยังเป็นแบบอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลงเหมือนเดิม พร้อมปรับเซ็ตช่วงล่างให้ออกแนวสปอร์ตมากขึ้น แต่ยังคงไม่ทิ้งความนุ่มนวลด้วยการเสริม Hydro Bush กับ Rebound สปริงเพิ่มเข้าไป ซึ่งให้ความรู้สึกที่ไม่ต่างจากตัว 2.0 มากนัก แต่ดูจะกระด้างกว่าเล็กน้อยจากยางแก้มเตี้ย รวมถึงวงเลี้ยวที่กว้างขึ้นเป็น 5.9 จากล้อไซด์ 18
ซึ่งโดยรวมแล้วยังคงให้ความรู้สึกนุ่มนวลแต่ไม่ถึงกับยวบย้วยจนออกอาการ โดยเฉพาะที่ความเร็วสูงจะรู้สึกได้ทันทีถึงความหนึบทั้งทางตรง และช่วงเข้าโค้งที่ให้การยึดเกาะได้ดี ประกับตัวถังที่ไม่เอียงตามโค้งจนเสียสมดุลแม้จะลองความเข้าที่ความเร็วสูง
ประกอบกับพวงมาลัยแบบไฟฟ้า EPS ซึ่งควบคุมทิศทางได้ Smooth นุ่มนวล ดูดี และให้น้ำหนักเป็นธรรมชาติ ทั้งความเร็วตำ่ที่ขับง่ายเบามือและความเร็วสูงที่ขับได้มั่นใจและถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ประทับใจสุดๆ เช่นเดียวกับระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ ที่หยุดได้มั่นใจด้วยน้ำหนักที่พอดีทั้งช่วงกดเท้าและจังหวะการชะลอตัวที่ลงตัวสุดๆ พร้อมระบบกระจายแรงเบรก LSD และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSA และระบบป้องกันล้อลื่นไถล (Traction Control) มีมาให้ในทุกรุ่น พร้อมเพิ่มระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA มาให้เฉพาะในรุ่น 2.4
Safety Highlight
พร้อมเพิ่มฟังชั่นด้านความปลอดภัยมาให้อีกหลายรายการในรุ่น 2.4 TECH คันนี้ ตั้งแต่ระบบควบคุมความเร็วและระยะห่างจากคันหน้าแบบแปีผัน ACC หรือ Adaptive Cruise Control ซึ่งจะมีเรดาห์ที่ด้านหน้ารถเป็นตัวตรวจจับ ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ CMBS หรือ Collision Mitigation Brake System โดยสามารถปรับตั้งระยะห่างจากรถคันหน้าได้ 4 ระดับ ตามสเกลที่มาตรวัด ซึ่งคิดเป็นหน่วยวินาที ตั้งแต่ 1 วินาที , 1.35 , 2 และ 2.8 วินาที ตามลำดับ
นอกจากนี้ระบบ CMBS ยังคอยช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้อยู่ในพิกัดที่ปลอดภัย เมื่อวิ่งด้วยความเร็วเกิน 15 กม. ขึ้นไป และพร้อมเตือนเมื่อเข้าใกล้มากเกินไป ด้วยไฟกระพริบตามด้วยเสียงเตือน จนถึงขั้นช่วยดึงเข็มขัดนิรภัยด้านผู้ขับ เพื่อเป็นการเตือนพร้อมการเบรกเบาๆ เพื่อชะลอความเร็วของรถลง ในกรณีที่รถยังคงเข้าใกล้รถคันหน้ามากขึ้น จะมีการรัดเข็มขัดนิรภัยด้านผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าให้แน่น พร้อมการเบรกที่แรงเพื่อความปลอดภัย
ตามด้วยระบบเตือนจุดบอดด้านข้าง (Honda Lane Watch) ช่วยแสดงภาพมุมอับขณะเปลี่ยนเลนจะกว้างขึ้นอีกประมาณ 4 เท่า หรืออยู่ที่ประมาณ 80 องศา แถมช่วยในการกะระยะด้วยบนหน้าจอจะมีการแสดงเส้นที่ใช้ในการอ้างอิงระยะอยู่ 3 เส้น โดยจะทำงานเมื่อทุกครั้งที่เปิดไฟเลี้ยวซ้าย หรือ กดปุ่มตรงก้านไฟเลี้ยวก็จะแสดงผลได้เช่นกัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยถุงลมนิรภัยที่มีมาให้ถึง 6 จุด ทั้งด้านหน้า และด้านข้าง รวมถึงม่านนิรภัยทั้งที่เบาะหน้าและหลังมาให้เพื่อความปลอดภัยที่เหนือระดับ
Tester Verdict
สรุปแล้วเมื่อเทียบส่วนต่างค่าตัวกับ รุ่น 2.0 แล้ว Accord 2.4 TECH คันนี้ถือเป็นรถที่คุ้มค่าและอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในขั้นที่สามารถแซงหน้าคู่แข่งในคลาสเดียวกันได้สบาย โดยเฉพาะออปชั่นด้านความปลอดภัย รวมถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่ลงตัวแต่ไม่จัดจ้านมากนัก เพื่อตอบสนองการขับขี่ที่ประหยัดได้มากขึ้นจนเห็นได้ถึงความแตกต่าง สุดท้ายคือหน้าตาที่ถือเป็นแรงดึงดูดให้หลายๆคนหันมาเลือก Accord คันนี้ ดังจะเห็นได้จากจำนวนประชากรของ Accord บนท้องถนนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทีนี้ก็อยู่ที่ทุนทรัพย์ของแต่ละท่านว่าสามารถเอื้อมถึง Honda Accord 2.4 คันนี้หรือไม่ ถ้าไม่ทางเลือกสำรองอย่างตัว 2.0 ก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน
Specification : Honda Accord 2.4 TECH
รายละเอียดการผลิต
รุ่นปี: 2013
ประเทศผู้ผลิต: ประเทศไทย
ผู้จำหน่ายในประเทศไทย: บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
ประเภทรถยนต์: Mid-Size Sedan
ราคา (ล้านบาท) 1.799
Dimension: ( mm.)
Length: 4,870
Width: 1,850
Height: 1,465
Wheelbase: 2,775
Front/Rear track: 1,584/1,586
Weight : (kg.) 1,575
Wheel+Tire
ล้ออัลลอย ขนาด 18x8J
ยาง 235/45R18
Engine
รหัส
แบบ เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) 2,356
ความกว้างกระบอกสูบxช่วงชัก(มม.) 87.0x99.1
อัตราส่วนกำลังอัด 10.1:1
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง PGM-FI
กำลังสูงสุด(hp.@rpm.) 174 @ 6,200
แรงบิดสูงสุด(Nm.@rpm.) 225 @ 4,300
เชื้อเพลิง เบนซิน E85 Ron
ความจุถังน้ำมัน(ลิตร) 65
Drivertrain
ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วย Grad Logic Control พร้อม Direct Control และ Shift Hold Control
Steering แร็คแอนด์พิเนียนพร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS)
วงเลี้ยวแคบสุด (ม.) 5.9
Suspension
หน้า อิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
Break
หน้า ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก
Test Result : Honda Accord 2.4 TECH
รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วต่างๆที่เกียร์ 5
km./h rpm.
100 1,950
120 2,200
140 2,650
Acceleration (km./h) sec.
0-100 9.4
Quarter Mile 0-402m. (sec./km./h.) 16.9
Top Speed (km./h.) 205+
Consumption (km./l.)
AVR. 15.3
ขอบคุณ
บริษั้ท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
เอื้อเฟื้อรถทดสอบ
เรื่องโดย : อาณัติ สุทธิบุตร
ความคิดเห็น