ซี-ดูหวังตลาดเจ็ตสกีโต 1 เท่าตัว เปิดรุ่นเล็กสปาร์คดูดลูกค้าค่าตัวเริ่มที่ 2.5 แสนบาท Share this

ซี-ดูหวังตลาดเจ็ตสกีโต 1 เท่าตัว เปิดรุ่นเล็กสปาร์คดูดลูกค้าค่าตัวเริ่มที่ 2.5 แสนบาท

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 17 December 2556

สยาม วอเตอร์คราฟ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเจตสกียี่ห้อซี-ดู เปิดเผยว่าหลังจากทำตลาดสินค้ากลุ่มดังกล่าวในประเทศไทยมานานกว่า 3 ปี ล่าสุด ได้ปรับแผนการตลาดไปเน้นที่การผลักดันเจตสกีเป็นอุปกรณ์เพื่อการสันทนาการมากขึ้น จากในอดีตที่จะเน้นเพื่อการแข่งขันเป็นหลัก

ทั้งนี้ ได้มีการนำเข้าเจตสกีรุ่นเล็กอย่างสปาร์ค ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 2.5 แสนบาท ซึ่งเป็นราคาที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ ซึ่งมีราคาถูกกว่ารุ่นเดิมที่ทำตลาดที่ราคาเริ่มต้น 5.3 แสนบาท โดยคาดว่าหลังการเปิดตัว จะทำให้ตลาดเจตสกีมีผู้ให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น

SEADOO_3

"เดิมที่ตลาดเจตสกีมีตลาดรวมทั้งสินค้าใหม่และมือสองที่ประมาณปีละ 500 ลำ แต่เราเชื่อว่าตลาดจะเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 1,000 ลำในปี 2557 เป็นผลจากการเปิดตัวรุ่นสปาร์ค ซึ่งคาดว่าจะมียอดจำหน่าย 350-400 ลำ รวมกับเจตสกีขนาดใหญ่อีก 150 ลำ ก็จะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 50%" กิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร บริษัท สยาม วอเตอร์คราฟ จำกัด กล่าว

นอกเหนือไปจากการจำหน่ายสินค้าที่มีการนำเข้าและเสียภาษีอย่างถูกกฎหมายแล้ว ซี-ดูยังให้บริการที่เกี่ยวข้องกับเจตสกีแบบครบวงจร ทั้งศูนย์บริการ คลังอะไหล่ รวมไปถึงบริการซ่อมบำรุง รับฝากเรือและจะพัฒนาไปสู่การจัดกิจกรรมสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มเติมในอนาคต

กิจจากล่าวว่าในปีนี้ได้ตั้งงบประมาณในการส่งเสริมการตลาดกว่า 10 ล้านบาท รวมถึงจะเน้นการพัฒนาศักยภาพและความสามารถในการดูแลลูกค้าให้กับตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ที่ปัจจุบันมีอยู่ 5 สาขาที่ กทม. สมุทรสาคร อยุธยา พัทยา ภูเก็ต และหาดใหญ่ โดยจะเน้นการเพิ่มยอดจำหน่ายด้วยตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่มากกว่าการขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่ม

Showroom

สำหรับสินค้าอื่น ๆ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ประกอบไปด้วยสปีดโบทยี่ห้อคราวน์ไลน์และโคบอลท์ คาดว่าจะมียอดจำหน่าย 30-40 ลำในปีหน้า จากที่มียอดจำหน่าย 30 ลำในปีนี้ เป็นผลมาจากการที่ผู้ที่ซื้อเจตสกีต้องต่อยอดในการเข้ากิจกรรมสันมนาการ ทำให้มองว่ายังมีโอกาส

ขณะที่รถจักรยานยนต์ 3 ล้อ ยี่ห้อแคน-แอมนั้น คาดว่าในปีหน้าจะมียอดจำหน่าย 30 คัน จากในปีนี้ที่มียอดขายไปแล้ว 14 คัน เป็นผลมาจากการที่บริษัทเดินหน้าให้สามารถจดทะเบียนเป็นรถยนต์หมวดพิเศษได้ ทำให้สามารถนำมาขับขี่บนท้องถนนได้ แม้สนนราคาจะขึ้นไปถึง 1.8 ล้านบาทก็ตาม

"สิ่งที่เราเน้นก็คือการทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่าการที่เราทำทุกอย่างให้ถูกต้องและต้องการให้ลูกค้าเข้าใจเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และเราเชื่อว่าเมื่อลูกค้าเข้าใจ เราก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อรออยู่ ซึ่งต้องบอกว่าตลาดกลุ่มนี้แทบไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองอยู่แล้ว" กิจจากล่าวสรุป


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ