บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถบรรทุกหนักวอลโว่และยูดี ทรัคส์ แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้าขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายและศูนย์บริการ เปิดสาขาชลบุรีเพื่อรองรับการจัดหน่ายและให้บริการในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย
ฌาร์ค มิเชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สาขาชลบุรีถือเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ที่จะรองรับการเติบโตของตลาดที่มีการผสมผสานระหว่างเกษตร อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว โดยในภาคการเกษตร มีตลาดส่งออกสำคัญคือประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งต้องอาศัยภาคการขนส่งทางบกไปยังตลาดดังกล่าว
สำหรับภาคอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรีและระยองถือเป็นหัวใจสำคัญของภาคการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมทั้งในส่วนการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวในเขตพัทยาและเกาะต่าง ๆ ของทะเลแถบตะวันออก ก็เป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศเช่นกัน
“จังหวัดชลบุรีถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญต่อการขยายงานของวอลโว่ กรุ๊ป ไปยังอุตสาหกรรม การเกษตรและการท่องเที่ยว ซึ่งทำให้เราต้องเร่งสร้างศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานวอลโว่เพื่อรองรับภาคการขนส่งทางบก และยังเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 อีกด้วย"
ภายใต้แผนการขยายงานของวอลโว่ กรุ๊ป บริษัทฯ ตั้งงบประมาณไว้สูงถึง 3,000 ล้านบาทในการสร้างสาขาเพิ่มเติม 10 แห่งและขยายปรับปรุงสาขาปัจจุบันจำนวน 5 แห่ง ทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้มีสาขาที่ให้บริการ 11 แห่ง และวอลโว่ กรุ๊ป จะเร่งเปิดให้ครบตามแผนงานทั้งสิ้น 15 แห่งภายในต้นปีนี้
ทั้งนี้ วอลโว่ กรุ๊ป สามารถจำหน่ายรถบรรทุกหนักวอลโว่ 818 คัน ยูดี ทรัคส์ 362 คัน ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ โดยสาเหตุที่ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เล็งเห็นความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการในอนาคตของรัฐบาลที่มีแผนจะสร้างปัจจัยพื้นฐานของประเทศ
ด้าน ศักดิ์สิทธิ์ พรมวัง ผู้จัดการทั่วไป วอลโว่ กรุ๊ป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่าศูนย์บริการสาขาจังหวัดชลบุรีแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 21 ไร่ มีเป็นพื้นที่ให้บริการทั้งวอลโว่ และยูดี มีช่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจำนวน 2 ช่อง และช่องซ่อม 6 ช่อง ตามแบบมาตรฐานของวอลโว่ สามารถรองรับการให้บริการได้ 12 คันต่อวัน
ความคิดเห็น