รีวิว ขับทดสอบ 2013 Mazda CX-5 เบนซิน 2.5 S Group Test (2.0 ปล่อยอีกทีพรุ่งนี้จ้า) Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว ขับทดสอบ 2013 Mazda CX-5 เบนซิน 2.5 S Group Test (2.0 ปล่อยอีกทีพรุ่งนี้จ้า)

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 18 December 2556

หลังจากที่ Autospinn เราได้ทำการทดสอบ Mazda CX-5 ในรุ่นท๊อปไลน์ กับเครื่องยนต์ดีเซล กันไปแล้ว วันนี้ทาง Autospinn เราได้รับเชิญให้ไป ทำการทดสอบในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินกันอีกครั้ง ซึ่งมีพิกัดไซส์ 2.0 และ 2.5 ลิตร

โดยในวันนี้ มีรถทั้งสิ้น 20 คัน เป็นรุ่น 2.0 S จำนวน 10 คัน หมายเลข 01-10 และ 2.5 S อีก 10 คัน หมายเลข 11-20

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_55

สำหรับการขับขี่ในเส้นทางวันนี้ เริ่มเดินทางออกจาก โรงแรม Imperial Queen Park ไปจนถึงที่พัก เทวัญดาราบีช กุยบุรี ซึ่งใช้ระยะทางทั้งสิ้น 327km มีการสลับรถ 1 ครั้ง และ สลับผู้ขับอีก 2 ครั้ง คือ รถคันหนึ่งมีผู้ขับ 2 คน ทุกคนจะได้ขับทั้ง 2.0 และ 2.5 ทางเราได้ขับรถหมายเลข 17 ก่อนในช่วงแรก เครื่องยนต์ 2.5 คันสีฟ้า หลังจากนั้นมีการสลับขับเป็นหมายเลข 07 เครื่อง 2.0 คันสีบรอนซ์เงิน

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_22

ขอพูดสรุปแบบรวดรัด กับ Mazda CX-5 คันนี้ ก่อนจะเข้าในส่วนทดสอบกันสักนิด

CX-5 ยังคงยึดการออกแบบตามหลัก KODO Design ที่มีเอกลักษณ์จากเส้นสาย ไฟหน้า-ท้าย กระจังหน้า และได้รับรางวัลการันตีรถยนต์ยอดเยี่ยมในประเทศญี่ปุ่นประจำปี 2012-2013 ด้วย

สำหรับจุดเด่นของ Skyactiv Technology นั่นคือ การที่ Mazda คิดค้นเทคโนโลยี เอกสิทธิ์ของค่าย โดยใช้ชื่อว่า Skyactiv ทั้ง บอดี้ตัวถัง, เครื่องยนต์, เกียร์, ช่วงล่าง สำหรับในการมาเทสรุ่นเบนซิน Skyactiv-G ที่มีเครื่องยนต์ 2 ขุมพลัง ทั้ง 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังอัดสูงที่สุดในโลก 14:1 มีแรงม้า 165 ตัว และแรงบิด 210Nm กับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ที่มีกำลังอัดสูงถึง 13:1 มีแรงม้า 192 ตัว และแรงบิด 256Nm

โดยในรุ่นเบนซิน นี้ จะมีเพียงระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หน้าเท่านั้น ถ้าต้องการขับเคลื่อน 4WD จะมีในรุ่น ดีเซลเท่านั้น รวมถึงระบบ i-Stop ก็จะมีเฉพาะในดีเซลเช่นกัน

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_47

การเริ่มต้นขับขี่ในช่วงแรกด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ที่ต้องเริ่มเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ออกจากซอยสุขุมวิท 22 นั้นทำให้ผมรู้สึกเฉยๆ กับขุมพลัง 2.5 ลิตร ที่ใครหลายคน โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศว่ากันนักหนาว่าอัตราเร่งมันดี…. แต่หลังจากได้ จ่ายเงินค่าทางด่วนเสร็จสิ้นแล้ว ได้ลองกดคันเร่งมิด ผมจึงเริ่มเชื่อแล้วว่า อัตราเร่งนั้น ทำได้น่าประทับใจจริงๆ รอบกวาดขึ้นไปที่ ราว 6,500rpm ก่อนตัดขึ้นเกียร์ใหม่ มันทำให้ได้อรรถรสการขับขี่ ในแบบที่ไม่เหมือน SUV ทั่วไป อัตราเร่งช่วงออกตัวทำได้อย่างน่าประทับใจจัดจ้าน ดี แต่สำหรับช่วงความเร็วกลาง ขึ้นไป ก็ ยังทำได้ดี แต่ในจังหวะที่มีการ Kick Down เพื่อเร่ง แซงที่ความเร็ว ระดับ 100 กม./ชม. ขึ้นไป รอบจะไต่ขึ้นแบบเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับการแซงรถสัญจร ทั่วไปแล้วยังถือว่าเพียงพอ แต่ความรู้สึกตื่นเต้น น่าประทับใจนั้น จะไม่เท่ากับช่วงอัตราเร่งตีนต้นนัก ด้านอัตราสิ้นเปลืองตามเคลมอยู่ที่ 15.2 กม./ลิตร กับน้ำหนักตัว 1,521 กก. นั่นก็ยังถือว่า อัตราสิ้นเปลืองค่อนข้างดีพอตัว เมื่อเทียบกับพละกำลังเครื่องยนต์ และน้ำหนักตัวที่หนักพอควร

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_58

ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed Skyactiv ใหม่นี้ พร้อมระบบ Manual Activematic ใช้ + - ควบคุมเกียร์ได้เอง การเล่นเกียร์ในโหมด S พบว่าการเปลี่ยนเกียร์นั้น ยังมีจังหวะหน่วงช้าอยู่ ราว ครึ่งวินาที เช่นต้องการสับเกียร์ที่ Redline พอดี 6,500rpm จะต้องโยกคันเกียร์ตั้งแต่ รอบ 6,000rpm เล็กน้อย เกียร์ถึงจะตัดขึ้นที่ราว 6,500rpm พอดี และ สิ่งที่ทำให้ผมดูจะหงุดหงิดไปหน่อย และดูจะขัดแย้งกันเองนั่น คือ การลด เกียร์ลง ด้วยการดันคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง – จะลงได้เพียง ทีละ 1 เกียร์เท่านั้น ซึ่งทำให้การเข้าโค้งด้วยการใช้ E-Brake นั้น ทำไม่ได้อย่างที่นักต้องการ เนื่องจากระบบ safety ป้องกันรอบเครื่องขึ้นสูงเกินไป แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ขับได้ลองลากเกียร์ในโหมด M จนไปชนแถบ Redline ที่รอบเครื่องยนต์ 6,500rpm ปรากฏว่า เกียร์ไม่ตัดขึ้นเกียร์ใหม่ เข็มแช่อยู่ที่ Redline ตื้ออยู่อย่างนั้น ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า ควรจะกลับกัน ก็คือ ควรถนอมเกียร์หากลากเกียร์ชนถึง Redline ควรที่จะตัดเกียร์ขึ้นให้ แต่ในขณะที่เบรก และลดเกียร์ลง เพื่อทำ E-Brake ก่อนเข้าโค้ง ควรที่จะลงเกียร์ให้ได้ถึง 2 เกียร์ขึ้นไป

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_12

สำหรับเกียร์ Skyactiv นี้ ต้องบอกตามตรงว่า มันก็คือเกียร์รูปแบบ AT ดีๆนี่เอง นั่นคือ รอบกวาดขึ้น และ ฟาดลงในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ แต่สิ่งที่พบเห็นแตกต่างนั้นก็คือ รอยต่อในจังหวะที่เปลี่ยนเกียร์จะไม่กระตุก และในจังหวะ E-Brake ด้วยการลดเกียร์ลง แรงฉุดของกำลังเครื่องยนต์จะไม่มากจนเกินไป นอกจากนั้นโดยรวมก็แทบจะเหมือนเกียร์แบบ AT 6 Speed แทบทุกอย่าง

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_09

ด้านระบบบังคับเลี้ยวและ ช่วงล่างนั้น โดยส่วนตัวถือว่าเป็นจุดที่น่าประทับใจรองจากเครื่องยนต์เลย พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ให้น้ำหนักที่ออกมาดี ที่ช่วงความเร็วต่ำน้ำหนักเบาพอดีมือ ไม่ถึงขั้นเบาโหวงเกินไป พวงมาลัยตอบสนองได้แม่นยำในการเข้าโค้ง หรือการหักวงเลี้ยวในช่วงขับเคลื่อนตัวในตัวเมือง ซึ่งนั่นทำให้รถ SUV คันนี้ มีความคล่องตัวในตัวเมืองไม่แพ้รถ Compact เลย เนื่องจากการควบคุมพวงมาลัยทำได้คล่องแคล่ว ด้านช่วงล่างออกมาสไตล์แน่นหนึบ ตามแบบฉบับของ Mazda หลากหลายรุ่น โดยการยึดเกาะที่ความเร็วสูงนั้น ยังทำได้ดี เมื่อเทียบกับรถ SUV ด้วยกัน แต่เมื่อความเร็วเกิน 140 กม./ชม. ขึ้นไปก็จะพบอาการเหินๆ ของตัวรถเข้ามา และจะเริ่มมากขึ้นที่ 150กม./ชม. ขึ้นไป ด้านการควบคุม ความเร็วในทางโค้งนั้นนี่ล่ะใช่เลย เพราะจากที่ลองเล่นดู ทำความเร็วได้สูงกว่ารถ SUV คันอื่นๆ โค้งลึกๆ เข้าที่ 100 กม./ชม. ยังทำได้ดี แต่เมื่อเข้าที่ประมาณ 120 กม./ชม. ขึ้นไป อาการรถจะเริ่มออกเริ่มจากการได้ยินเสียงกรีดร้องของยางเข้ามาบ้าง และด้วยตัวรถที่สูง ซึ่งนั่นอาจทำให้ความรู้สึกโยนตัวเป็นปกติ โดยรวมแล้วถือว่าทำได้ดีเกินกว่า SUV ด้วยกันจะทำได้

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_52

ในด้านความนุ่มนวลของช่วงล่าง สัมผัสได้เด่นชัดบนทางลูกรัง มันดูจะกระด้างแข็งตึงตังไปหน่อย กับล้อขอบ 19” ที่ถึงแม้ แก้มยางจะใช้ซีรีส์ 55 แล้วก็ตาม เนื่องจากระยะยุบตัวและดีดตัวกลับ นั้นมีไม่สูงมาก เพราะช่วงล่าง จะเซ็ตออกมาสไตล์เน้นเฟิร์มกระชับ หนักแน่นมากกว่า ซึ่งจะช่วยลดอาการโยนตัวออกมาได้มาก และเพิ่มเติมกับ เบาะนั่งที่กระชับโอบลำตัวได้ดีในรุ่น 2.5 เนื่องจากมีปีกที่โอบไหล่ออกมากว้างกว่า รุ่น 2.0 ทำให้ การเข้าโค้งลำตัวไม่ไถลหลุดออกจากเบาะ แต่หากต้องการเอนเบาะนอน นั้นจะพบว่ามันแข็ง และไม่สบายต่อการนอนเอาเสียเลย

ระบบเบรก แบบดิสก์ 4 ล้อ ซึ่งเป็นเบรกขนาดไซส์เดียวกันทั้งหมด 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น 2.0 2.5 และดีเซล 2.2 ด้วยการเซ็ตเบรกที่ออกมาลึก และเน้นนิ่ม ทำให้ดูแล้ว จะเบรกไม่อยู่เท้านัก ทั้งในช่วงหยุดจอดไฟแดง หรือการเบรกเมื่อ มีรถตัดผ่านเลนเข้ามา จะต้องลงน้ำหนักให้มากกว่าปกติ ซึ่งจากการสอบถามของเราพบว่า เบรกนั้น ทาง Mazda จงใจทำให้ออกมาเป็นเช่นนี้เพื่อ ลดอาการเทตัวไปข้างหน้า ซึ่งจะช่วยลดอาการเมารถของผู้โดยสาร ต้องใช้เวลาสักนิดเพื่อปรับให้ชินคุ้นเคยกับน้ำหนักเท้าในการลงแป้นเบรกนี้ สำหรับส่วนตัวนั้น ผมมองว่า Mazda ซึ่งถือเป็นรถที่เน้น Performance มากกว่าการขับขี่ที่สะดวกสบาย น่าจะเซ็ตเบรกให้ออกมาแนว Mazda 2, 3 ที่ค่อนข้างมั่นใจได้ ในทุกครั้งที่กดแป้นเบรก

ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย มีมาให้ครบครัน ระบบไฟหน้าเลี้ยวตามการเลี้ยวของรถ AFS ถุงลมนิรภัยถึง 6 ลูก กล้องมองหลัง กุญแจ Keyless พร้อม Immobilizer ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ DSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน HLA, ระบบเตือนแรงดันลมยาง เป็นต้น

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_05

สรุปเบื้องต้น Mazda CX-5 2.5 S เป็นรถ SUV สไตล์สปอร์ต เมื่อเทียบกับรถยนต์ในกลุ่ม SUV ด้วยกัน ถือว่าสมรรถนะ มาแรง แซงหน้า แบรนด์อื่น แต่สำหรับออปชั่นภายในนั้น บางอย่างอาจดูด้อยกว่า คันอื่น เช่น แอร์ตอนหลังที่ไม่มี พื้นที่โดยสารตอนหลังที่แคบกว่าคันอื่น หน้าจอแสดงผลพร้อมควบคุมเครื่องเสียงที่มีขนาดเพียง 5.8” และน่าเสียดายที่ไม่มีระบบ Navigation เมื่อเปรียบเทียบข้อดีของรถคันนี้ นั่น คือ เทคโนโลยี Skyactiv ที่ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ และยอดเยี่ยมการันตีด้วยรางวัลรถยนต์แห่งปีของญี่ปุ่น นั่นหมายความว่า Mazda CX-5 นี้จะขายให้กับผู้บริโภค ที่มีความรู้ในเรื่องของรถยนต์พอสมควร และผู้ที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ มากกว่าการขับขี่แบบเน้นสะดวกสบาย ซึ่งนั่น ทำให้ผู้ที่จะซื้อรถคันนี้ส่วนใหญ่ น่าจะเป็นเพศชาย มากกว่าเพศ หญิง ราคา ของ CX-5 2.5 S คันนี้อยู่ที่ 1.44 ล้านบาท เทียบกับรุ่น ท๊อปของ SUV ด้วยกันแล้ว ยังถือว่าราคาดี และดูน่าสนใจกว่าคันอื่นๆ ในรุ่นท๊อปด้วยกัน สำหรับผู้ที่รักในการขับขี่รถสไตล์ SUV แต่ไม่ลืม สมรรถนะการขับขี่ในแบบรถ Comapact และการประหยัดน้ำมัน ไม่ควรพลาดกับการลองขับ เจ้า CX-5 เบนซิน 2.5 S คันนี้

2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest_65

สำหรับรุ่น 2.0 ลิตร และ รายละเอียด เพิ่มเติม อื่นๆ จะมาลงแบบเก็บตกให้อีกที พรุ่งนี้ครับ

ชมภาพเพิ่มเติม http://photos.autospinn.com/2013-Mazda-CX5-Gasoline-GroupTest/

ขอขอบคุณ Mazda เซลล์ ประเทศไทย สำหรับการเชิญไปร่วมทดสอบในครั้งนี้

ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ