รีวิว ทดสอบขับ 2014 MINI Cooper และ Cooper S เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ยังขี้เล่นเหมือนเดิม Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว ทดสอบขับ 2014 MINI Cooper และ Cooper S เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ยังขี้เล่นเหมือนเดิม

Satapana
โดย Satapana
โพสต์เมื่อ 27 March 2557

ด้วยการแข่งขันในตลาดรถคอมแพกต์ระดับพรีเมียมที่ดุเดือดมากยิ่งขึ้น ทำให้ MINI ต้องเดินหน้าอัพเกรดคุณภาพและสมรรถนะของทุกโปรดักต์ไลน์อัพให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน 2014 MINI Cooper และ Cooper S เป็นคำตอบสุดท้ายที่พวกเขาปลุกปั้นออกมาหวังดึงดูดลูกค้าที่ชื่นชอบรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เวบไซต์ Live Life Drive เพื่อนบ้านของเราจากมาเลเซียเปิดเผยรีวิวการทดสอบขับ 2014 MINI Cooper และ Cooper S หากมองจากภายนอก รูปลักษณ์ยังคงสไตล์แบบเดิมเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระยะโอเวอร์แฮงที่สั้น กรอบไฟทรงกลมและกระจังหน้าที่จดจำได้ง่าย แต่แท้จริงแล้วแฮทช์แบ็กรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงทั้งภายนอกและภายในใหม่หมดจด

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2014-mini-cooper-cooper-s-2.jpg

มาดูที่สเปกกันก่อน

2014 MINI Cooper

เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5 ลิตร ไดเรคอินเจคชั่น เทอร์โบชาร์จ

ระบบเกียร์ ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า

แรงม้าสูงสุด 136 ตัวที่ 4,500 – 6,000 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตรที่ 1,250 – 4,000 รอบ/นาที (เพิ่มเป็น 230 นิวตันเมตรด้วยโอเวอร์บูสต์)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.

2014 MINI Cooper S

เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ไดเรคอินเจคชั่น เทอร์โบชาร์จ

ระบบเกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า

แรงม้าสูงสุด 192 ตัวที่ 4,700 – 6,000 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,250 – 4,750 รอบ/นาที (เพิ่มเป็น 300 นิวตันเมตรด้วยโอเวอร์บูสต์)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กม./ชม.

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2014-mini-cooper-cooper-s-4.jpg

ตัวถังภายนอกใหญ่โตขึ้นในทุกมิติ ความยาวมากกว่าเดิม 98 มม. กว้างขึ้น 44 มม. ระยะฐานล้อยาวขึ้น 28 มม. MINI เผยว่าแฮทช์แบ็กรุ่นใหม่นี้มีพื้นที่ช่วงขากว้างขวางกว่าเดิม 40 มม. ผู้โดยสารที่ตัวสูงหรือขายาวจึงได้รับความสะดวกสบายเต็มที่

การขับขี่ที่เน้นความสะดวกสบายไม่ใช่จุดเด่นของ MINI ในอดีต แต่สำหรับโมเดลใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการปรับปรุงความนุ่มนวลให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังรักษาความแข็งแน่นไว้ดังเดิม ไม่ใช่รถที่นุ่มจนย้วยเหมือนรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กทั่วไป บางคนอาจสัมผัสได้ว่าตัวรถมีความมั่นคงสูง ไม่สะดวกสบายจนเกินไป โดยยังให้ความแน่นหนึบในสไตล์ MINI

ภายในห้องโดยสารได้รับการอัพเกรดใหม่ เสียงรบกวนเบาลงอย่างชัดเจน การเลือกใช้วัสดุตกแต่งพื้นผิวดูดีระดับยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกพรีเมียม เมื่อบวกกับคุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย ทำให้ MINI ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากกว่าเดิม ไม่ได้เอาใจคนที่ชื่นชอบการขับขี่แบบดุดันแต่เพียงอย่างเดียวเหมือนกับรุ่นเดิม

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2014-mini-cooper-cooper-s-3.jpg

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ MINI คือการใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ถ่ายทอดมาจากบริษัทแม่อย่าง BMW โดยตรง 2014 Cooper ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จบล็อกเดียวกับที่วางอยู่ในรถสปอร์ตไฮบริด BMW i8 ให้พละกำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตรที่รอบต่ำเพียง 1,250 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.อยู่ที่ 7.8 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วพอตัวสำหรับมาตรฐานรถเล็กที่มีขุมพลังเพียง 3 สูบ

ขณะที่รุ่น 2014 Cooper S ใช้เครื่องบล็อกใหญ่ขึ้น 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 192 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่เร็วกว่า Cooper มากนัก แต่อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ภายใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กม./ชม. จุดเด่นของ Cooper S อยู่ที่เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจกว่า หากกดโหมด “Sport” เสียงท่อไอเสียและเครื่องยนต์จะได้ยินชัดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ให้อารมณ์สปอร์ตเท่าที่ควร

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2014-mini-cooper-cooper-s-6.jpg

ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ขณะที่เกียร์อัตโนมัติทอร์กคอนเวอร์เตอร์ให้ความนุ่มนวลและฉับไว

นอกจากการเป็น “แฟชั่นไอคอน” แล้ว MINI ยังสร้างชื่อด้วยการมีบุคลิกคล้ายกับ “รถโกคาร์ต” ซึ่ง Cooper เจนเนอเรชั่นที่สามนี้ก็ยังเปี่ยมด้วยสไตล์ดังกล่าว พวงมาลัยให้ความแม่นยำและตอบสนองอย่างทันท่วงทีถึงแม้เราจะยัดเข้าโค้งแคบๆ ด้วยความเร็วสูงก็ตาม รถมีอาการโยนตัวเพียงเล็กน้อย พวงมาลัยไฟฟ้าอาจให้ความนุ่มนวลมากไปนิด แต่ทำให้ตัวรถมีความเบาและควบคุมง่าย

ภายในห้องโดยสารพรั่งพร้อมด้วยของเล่นมากมาย อย่างระบบ keyless ที่ไม่จำเป็นต้องถือกุญแจอยู่ในมือในการเปิดประตูและสตาร์ทรถ นอกจากนี้ยังมี iDrive ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมตัวรถได้เหมือนกับ BMW (เฉพาะรุ่น Cooper S) สามารถสั่งงานมัลติมีเดียผ่านหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 8.8 นิ้วที่ฝังอยู่บริเวณคอนโซล โดยมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ในรุ่นเดิมถูกถอดทิ้งไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีระบบไฟ LED ที่เปลี่ยนสีสันได้ตามความเร็วของตัวรถ กราฟฟิกต่างๆ มีลูกเล่นมากมายตามสไตล์ MINI

https://img.icarcdn.com/autospinn/body/2014-mini-cooper-cooper-s-5.jpg

หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญคือการแสดงผลขึ้นด้านหน้าหรือ heads-up display ทั้งความเร็วขณะขับขี่และข้อมูลของระบบเนวิเกเตอร์ อย่างไรก็ตาม การแสดงผลของ MINI ต่างจาก BMW เพราะไม่ได้แสดงผลขึ้นบนกระจกหน้าโดยตรง แต่ขึ้นบนแผงพลาสติกที่พับเก็บได้คล้ายกับ Peugeot และ Citroen ซึ่ง MINI เผยว่ามีต้นทุนถูกกว่าเนื่องจากไม่ต้องออกแบบกระจกหน้าเป็นพิเศษ

ฟันธง!

ถึงแม้เราจะได้ขับขี่ Cooper และ Cooper S ในระยะทางสั้นๆ แต่เราสามารถบอกได้ว่า MINI เติบโตขึ้นในทุกมิติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มาพร้อมกับความสะดวกสบาย กว้างขวาง อ็อปชั่นครบครัน การตกแต่งภายในดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแต่ไม่แก่ขรึมจนเกินไป เสน่ห์ในการขับขี่ยังคงเปี่ยมด้วยบุคลิกปราดเปรียว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้ MINI เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนหลายเจนเนอเรชั่นมานานนับสิบปี ยังคงเป็นไอคอนเหมือนที่แล้วมา

พบรถ MINI, MINI Cooper และ MINI Cooper S มือสองคุณภาพเยี่ยมที่ไทยคาร์ดอทคอม


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ