ในช่วง 2 ปีหลังมานี้ เราจะพบว่า ตลาดของ Bigbike ได้โตขึ้น สวนทางกับตลาดรถยนต์ และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และประจวบกับ ทาง Honda ได้จัดตั้งศูนย์จำหน่ายรถยนต์ Bigbike Honda Bigwing ขึ้น พร้อมกับ โมเดลรถในพิกัด 500cc ที่เปิดไลน์ พิกัดนี้ก่อนเจ้าอื่น ซึ่งเน้นจับตลาด Mass Product มากขึ้น ส่งผลให้ Market Share Honda ในกลุ่ม Bigbike เติบโตขึ้นอย่างมาก และ ครั้งเมื่อปลายปี 2013 Honda ก็ได้สร้างมาตรฐานใหม่ ของวงการ Bigbike อีกครั้ง กับการผลิต รถ Midsize 650cc ในรุ่นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงเป็นรายแรก ซึ่งทำมาเพื่อเอาใจขาใหญ่ ที่ชอบเสียงเครื่องยนต์ 4 สูบ อันมีความไพเราะเสนาะ หูได้กลับมาอีกโอกาส เป็นเจ้าของอีกครั้ง นั่นก็ คือ CBR650f และ CB650f ซึ่งมาให้เลือกทั้งสไตล์สปอร์ต และ Naked
ทาง BigWing ได้วางกลุ่มเป้าหมาย CBR650f ช่วงอายุ 30-40 ปี รักชอบแนวสปอร์ต มีรายได้มากกว่า 50000 บาท ในขณะที่ CB650f อายุ 30-45 ปี ชอบความชิลล์ และท่าทางการนั่งที่ดูสบายๆ
ซึ่ง การมาของรถ 2 คันนี้ จะต้องตอบโจทย์ ในความเป็น 4 สูบ ที่มีความเพรียวคล่องตัวแบบ Compact ท่านั่งที่ได้หลักสรีระศาสตร์ และ เท้าต้องเหยียบเต็มพื้น สำหรับผู้ที่มีสัดส่วนไม่สูงมาก จึงทำให้โดยรวมเป็นรถที่ Control ได้ง่ายดาย และมีความคุ้มค่าทางด้านราคา
และในวันนี้ (5/4/2014) เราได้มีโอกาสทดสอบ เจ้า 4 สูบ 650cc จาก Honda กัน 2 รุ่น ทั้ง CBR650f และ CB650f โดยขับกัน ในสนามฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัย Honda สุขาภิบาล โดยได้ขับกันคนละ 10 นาที ในรุ่นภายในสนาม โดยได้รับเกียรติจาก ฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักแข่ง Moto2 ของไทยเรามาร่วมทดสอบด้วย
การดีไซน์ ของตัวรถ หลายคนอาจสงสัย F ที่ต่อท้ายคืออะไร ที่จริงแล้วมันมีความหมาย ว่า street fighter โดยจะแตกต่างกับรถตระกูล R ที่เป็นเบาะตอนเดียว และลักษณะของการขับขี่ และสมรรถนะที่จะเน้นในตีนต้น ตามแบบฉบับ Street bike
ทั้งรุ่น CBR650f และ CB650f ได้ดีไซน์ออกให้ดูแข็งแกร่งบึกบึน โดยที่ไม่ทิ้งความเพรียวในรูปแบบ ของรถ Compact และต้องเป็นรถที่ใช้งานได้อย่างสะดวก ทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อน เบาะจึงได้ทำเป็นเบาะตอนเดียว แต่แบ่งระดับ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถในตระกูบ f Series ไฟหน้าได้ใช้รูปทรง V Shape แบบ Multi Reflector พร้อมไฟหรี่ LED และไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน ท่อดีไซน์ออกด้านล่าง ซึ่งถือเป็นเทรนด์ใหม่ของรถ Bigbike ขนาดกลาง ในส่วนของมาตรวัดเป็นแบบ Digital LCD นอกจากนั้นยังใช้กุญแจนิรภัย HISS และ Wave Key ตัวถังน้ำมันมีความจุ 17.3 ลิตร มีน้ำหนักตัว Curb Weight 209 กก./ 211 กก. CB650f/CBR650f โดยจุดแตกต่างของทั้ง 2 คือ แฟริ่งหน้า แบบสปอร์ต และ Naked กับแฮนด์รูปแบบ Separate Handle และ Handbar
สำหรับสี นั้น CBR650f มีให้เลือก 2 สีแบบ Monotone คือ แดง และ ดำ ขณะที่ CB650f มี3 สี ได้แก่ Tricolor ล้อทอง, ดำ และ เหลือง
ในด้านสมรรถนะการขี่ ด้วยขุมพลัง 4 สูบเรียง ความจุ 648.7cc DOHC 16 วาล์ว หัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์แบบคลัชมือ 6 Speed ซึ่งอัตราทดเกียร์ แต่ละเกียร์ไม่มี Overdrive เลย เน้นจัดจ้านเป็นหลัก อาจไม่เน้นประหยัดนัก สำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้ ได้ถูกตั้งรอบเดินเบาไว้ที่ 1,250rpm ทาง Honda ได้เคลม อัตราเร่ง จาก 0-400 ม. ได้ใน 12 วินาที จากกำลัง 87 แรงม้าที่ 11,000rpm และแรงบิด 63Nm ที่ 8,000rpm
มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 21 กม./ลิตร (จากข้อมูลของเว็บ Honda EU)
ทันทีที่กำคลัช ออกตัว พบว่า ระยะคลัช ของตัว CBR650f และ CB650f ดูต่างกัน (เทียบจากคันที่ทางเราได้ลองขี่) ในตัว CB พบว่า จะมีช่วงคลัชที่สั้นกว่า ซึ่งในการออกตัวอาจต้องเติมคันเร่งเพิ่มเข้าไปเล็กน้อย ตอนออกตัว และพบว่า แรงบิด ที่ดึงแบบสัมผัสได้ อาจมาช้ากว่าเครื่องยนต์ 2 สูบเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อแรงบิดมาแล้ว มันมายาว สมูทต่อเนื่องในทุกรอบเครื่องยนต์ กำลังในช่วงต้น ถือว่าจัดกว่าที่คาดคิดไว้ในตอนแรก มันตรงไปตามที่ทาง Honda ตั้งเป้าให้มันเป็นรถแบบ Street Fighter มีสมรรถนะ ในการออกตัว ที่ดีเยี่ยม ในช่วงที่มีทางตรงยาว อาจลองลากไปได้ถึงเกียร์ 4 เราพบว่า การลากจาก 2->3->4 ทำได้ต่อเนื่อง และรอบไต่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องลากกันจนสูงถึงเกือบเข้า Redline ก็เพียงพอต่อการเรียกกำลังใช้งานแล้ว ช่วงความเร็วต้น ถึงปานกลาง ถึงว่าทำได้ดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย แต่ด้วยพื้นที่ในสนามทดสอบ มีจำกัด ทำให้เราอาจไม่ได้ลองลาก เค้นความเร็วกันมากนัก และนอกจากนั้น การประคองคันเร่งในโค้งกว้างยาวๆ ก็ทำได้เนียนทีเดียว จากเครื่องยนต์ที่สมูท
ระบบกันสะเทือนและ บังคับเลี้ยว ทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้ระบบกันสะเทือน เหมือนกัน คือ โช้คอัพหน้าแบบ Telescopic แกน 41mm มีระยะยุบที่ 120mm ขณะที่ด้านหลังแบบ Monoshock แกน 43.5mm มากับสวิงอาร์มอลูมีเนียม ทั้งชิ้น
และอีกจุดที่ช่วยให้ การขับขี่ทำได้อย่างมั่นใจจาก ขนาดยางหลังที่กว้างใหญ่โต 180mm ซึ่งถือว่าให้มากว้างสุดในพิกัดเดียวกัน ซึ่งช่วยให้ การเข้าโค้งยาวๆ สามารถเข้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
แต่มีจุดที่แตกต่างกัน อยู่ที่แฮนด์บังคับเลี้ยว ที่ใช้เป็น Separate Handle หรือ แฮนด์ยึดแผงคอ ในตัวสปอร์ต CBR650f และ แบบ Handbar ในตัว Naked CB650f นั่นส่งผลให้ท่าทางการนั่งเปลี่ยนไป CBR650f จะต้องโค้งหลังลงมากกว่าจากตำแหน่งแฮนด์ที่ต่ำลง มีรัศมีช่วงแฮนด์ที่ดูแคบ ทำให้การเข้าโค้งยาวๆ นั้นทำได้ง่ายกว่า และดูมั่นคงกว่า ในขณะที่ตัว CB650f แฮนด์บาร์ที่ถึงแม้จะดูไม่กว้างมาก แต่ตำแหน่งแฮนด์จะสูงกว่า ทำให้ท่านั่งไม่ต้องคร่อมหลังลงมากนัก และช่วยให้การบังคับเลี้ยว ในวงแคบ สามารถหักองศาได้มากกว่า และหัวรถที่เป็นแบบ Naked ทำให้แฮนด์ดูจะว่องไวกว่า ซึ่งอาจจะคุมยากกว่า CBR650f เล็กน้อย
ระบบเบรก แบบจานดิสก์คู่หน้า ขนาด 320mm พร้อมคาลิปเปอร์ 2 สูบ จาก Nissin และ จานดิสก์เดี่ยวหลังด้านหลัง ขนาด 240mm คาลิปเปอร์ 1 สูบ จาก Nissin พร้อม ABS ซึ่งการเบรกยังคงให้ความมั่นใจได้ดี ในช่วงทางตรงซัดยาวๆ และต้องชะลอความเร็วก่อน U-Turn สามารถที่จะหน่วงความเร็วลงมาได้รวดเร็วจาก ความเร็วราว 100 กม./ชม. ลงมาเหลือ เพียงประมาณ 30 กม./ชม. ได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งฟีลลิ่งจะแตกต่างจาก ตระกูล 500cc อย่างเห็นได้ชัด เพราะจะออกทื่อๆ ด้านๆ กว่า แต่ในตัวนี้ปั๊มเบรก รู้สึกจับตัวกับจานได้ค่อนข้างรวดเร็ว ฉับไว แม้แตะเลียๆ เบรก ในตอน Slalom หลบทางคดเคี้ยว ก็รู้สึกได้ว่า เบรกหนึบจิกติดมือทีเดียว
สรุปเบื้องต้น รถจักรยานยนต์ขนาด 650cc 4 สูบ ตระกูล f ของ Honda ถือเป็นรถ Bigbike ขนาดกลาง สไตล์ Street Fighter ซึ่งเป็นรถที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ มันสามารถขี่ได้อย่างสมูทนุ่มนวล เสียงหล่อ และ ด้วยขนาด และ น้ำหนักตัวที่ไม่มาก รวมถึงความสูงเบาะ ที่ไม่สูงจนเกินไป ทำให้มันเป็นรถรองรับกับผู้ขี่หลายสรีระ
และ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยตรงแล้ว ด้วยสเป็ก ที่ให้มาดีกว่า ทั้ง สวิงอาร์มอลูมีเนียม ที่ช่วยให้น้ำหนักเบา และล้อหลังขนาด 180mm ที่สำคัญเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ให้ซุ่มเสียงในแบบแรงสุภาพชน ในราคา 2.85 – 3 แสนบาท นั่นหมายความว่า + เพิ่มอีกนิด แต่ได้สเป็กเต็มกว่า และจะพาให้ รถ Bigbike เครื่องยนต์ 4 สูบ 600cc อย่าง BN600 เหนื่อยยิ่งขึ้น แต่ทว่า อาจจะเสียเปรียบกว่าค่ายยักษ์เขียว ไปนิดในเรื่องของศูนย์บริการที่ยังน้อยกว่า (ณ ขณะนี้)) กับ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ดูจะสูงกว่า แต่ถ้านับจากกลุ่มเป้าหมายของ Honda ที่ตั้งไว้ ซึ่ง เป็นผู้ที่มีรายได้ค่อนข้างสูง อาจไม่สนใจมากนัก หรือคิดว่านานๆ ครั้งนำรถเข้าศูนย์บริการ แค่นี้เพื่อรถที่รักแล้วล่ะก็ จัดเลยไป
ผู้ที่สนใจ Bigbike ขนาดกลาง 4 สูบ คันนี้ ขอเชิญ ร่วมทดสอบ สัมผัสสมรรถนะได้ที่ Big Wing Center ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
Honda CBR650f ราคา 300,000 และ CB650f ราคา 285,000 บาท และ 288,000 บาท สำหรับ สี Tricolor
ขอขอบคุณ AP Honda สำหรับการทดสอบในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
ความคิดเห็น