กลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่สำหรับค่ายรถยนต์ตราดาวอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย เมื่อรถยนต์ไซส์เล็กอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล จนมียอดจองถล่มทลายทำให้ลูกค้าต้องร้องเพลงรอกันอยู่นานหากต้องการเป็นเจ้าของ
พอได้นำมาทดการทดสอบอย่างเป็นทางการแล้ว จึงได้เข้าใจว่าทำไมรถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่ลูกค้ารอกันมาอย่างเนิ่นนานที่สุด เพราะถือว่าเป็นรถที่พร้อมด้วยรูปร่างหน้าตา สมรรถนะและของเล่นรอบคัน ในระดับราคาที่พอเอื้อมถึงที่ระดับ 2.64 ล้านบาท
ว่ากันว่าในช่วงแรก ๆ ของการเปิดตัวนั้น ในบางสีลูกค้าจำเป็นที่จะต้องรอกันข้ามปี จนกระทั่งเมื่อมีการจัดการอะไรกันได้อย่างลงตัวมากขึ้น ทำให้สามารถจัดหารถมาส่งให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ระยะเวลาที่ลูกค้าต้องรอลดลงเหลือราว 6 เดือนในปัจจุบัน
นอกจากรอนานแล้ว รถคันนี้ยังไม่มีทางเลือกในเรื่องเครื่องยนต์ให้มากนัก โดยหากเป็นการทำตลาดของบริษัทแม่เองแล้ว จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรในรุ่นซีแอลเอ250 เท่านั้น หากเจอเครื่องยนต์ประเภทอื่นวิ่งผ่าน ให้แบะปากใส่แล้วบ่นในใจว่า "รถเกรย์" ได้ทันที
รูปลักษณ์ภายนอกสะกดตา
แม้จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่มีพื้นฐานมาจากเอ-คลาส แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ารูปร่างหน้าตาของซีแอลเอนั้นดูลงตัวกว่าพอสมควร ทำให้รถเล็กคันนี้ดูสปอร์ต ปราดเปรียวและดุดันมากกว่ารุ่นพี่ที่ออกมาก่อนพอตัว
กระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมโลโก้ดาวสามแฉกบนกระจังหน้าออกแบบมาให้มิติที่ชัดเจน กระจังหน้าทรงเพชรทำให้รถดูหรูหราขึ้น ผสานกับโคมไฟหน้าแบบสปอร์ตที่มาพร้อมไฟเดย์ไทม์แบบแอลอีดี กระจังหน้าของชุดแต่งเอเอ็มจี ทำให้รถดูสปอร์ตแบบเต็มพิกัด
เส้นสายด้านข้างของรถลากผ่านจากกระจังและกรอบโคมไฟ เห็นมิติของลายเส้นอย่างชัดเจน ทำให้ตัวรถด้านช้างดูมีมัดกล้าม และแม้จะเป็นรถซีดาน แต่ก็ถูกออกแบบในรูปแบบของคูเป้ ด้วยหลังคาหลังที่ลาดเอนมากกว่าปกติ และมาพร้อมหลังคากระจกเพื่อเพิ่มความเนี๊ยบของรถ
ไฟท้ายที่ออกแบบมาแบบแปลก ๆ นั่น ในตอนแรก ๆ เป็นจุดที่มองแล้วไม่ค่อยจะลงตัวเท่าไรนัก แต่เมื่อมองไปนาน ๆ ก็จะเริ่มรู้สึกว่าออกแบบมาลงตัวกับรถดี โดยเฉพาะเมื่อขับตามหลัง จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ล้ออัลลอยของเอเอ็มจีแบบ 5 ก้านคู่ขนาด 18 นิ้วที่ใส่มาทำให้รถดูหล่อเหลาเอาการมากขึ้น แถมมาพร้อมยางแก้มต่ำแบบรันแฟลตที่สอดคล้องกับตัวรถ ผสานกับชุดแต่งรอบคัน เอาเป็นว่าเมื่ออยู่บนท้องถนนแล้ว ความหล่อของรถไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน
เครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม
ซีแอลเอ250 เอเอ็มจี สปอร์ตที่นำมาทำการทดสอบนั้น แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะโดดเด่นด้วยชุดแต่งที่ใส่เข้ามาเต็มที่ แต่ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นไม่ได้มีการปรับจูนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากเมอร์เซเดส-เบนซ์มองว่าสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีอยู่แล้ว
เครื่องยนต์ที่ถูกนำมาติดตั้งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1,991 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,200 - 4,000 รอบต่อนาที
เมอร์เซเดส-เบนซ์ บอกว่ารถยนต์คันนี้สามารถวิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาแค่ 6.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตรเลยทีเดียว
การส่งกำลังทำผ่านเกียร์อัตรโนมัติ 7 สปีดรุ่นใหม่ (7จี-ดีทีซี) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการควบคุมรถ มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต ที่ตอบสนองในการขับขี่เป็นอย่างดี
ภายในที่หรูหรา สปอร์ตและดูดีอย่างลงตัว
ในรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์หลาย ๆ รุ่น การออกแบบภายในที่เน้นความหรูหรามากเกินไปทำให้ความสปอร์ตหายไปพอสมควร แถมบางทีก็ทำให้ความสวยงามถูกบดบังไปด้วยความหรูหราที่ดูมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ แต่รูปแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับซีแอลเอสคันนี้แต่อย่างใด
มาตรวัดแบบสปอร์ตที่ตกแต่งพื้นหลังด้วยสีเงินและก้านบอกตำแหน่งสีแดง ช่องปรับอากาศแบบโครเมียม เบาะที่นั่งแบบสปอร์ตที่เดินด้ายแดงตัดกับเบาะหนัง รวมไปถึงชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต ต่างก็มีส่วนช่วยทำให้ภายในรถดูดีขึ้นแบบแผงอารมณ์สปอร์ตในตัว
ไม่ใช่แค่บรรยากาศในรถที่ดูดีขึ้น แต่ในซีแอลเอนั้นยังอัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขับขี่มาแบบเต็มพิกัด พวงมาลัยมัลติฟังชั่นส์ หลังคากระจกแบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เบาะนั่งปรับไฟฟ้า ระบบกล้องมองหลังช่วยในยามถอย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และอื่น ๆ อีกมากมายถูกติดตั้งมาแบบเต็มที่
นอกจากนี้ ในซีแอลเอยังติดตั้งระบบด้านความปลอดภัยมาเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยด้านหน้า ด้านข้างและม่านถุงลมบริเวณศีรษะ ระบบช่วยเหลือในการขับขี่ติดตั้งมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ เรียกว่าซื้อไปแล้วอุ่นใจไปไหนไปกัน
การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมคุ้มค่าน้ำมัน
ซีแอลเออาจจะไม่ใช่รถยนต์รุ่นที่แรงที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่มันก็เป็นหนึ่งในรถแบบบ้าน ๆ ที่ขับได้อย่างสนุกสนานและใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีที่สุดคันหนึ่ง เรียกว่าเป็นรถยนต์ที่เซตอัพมาอย่างลงตัวก็คงไม่ผิดอะไร
หลาย ๆ คนอาจจะติติงว่ารถคันนี้รูปร่างหน้าตาไม่ลงตัว ดูแปลก ๆ ไปบ้าง แต่รถยนต์หน้าตาประหลาดนี้ก็ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำสุดในโลกที่ 0.22 ซึ่งหากลองนั่งหลังพวงมาลัย ก็จะรู้ว่าข้อดีจากการออกแบบนั้น ทำให้มองข้ามคำว่าหน้าตาแปลก ๆ ไปได้โดยสิ้นเชิง
ด้วยเครื่องยนต์ที่ให้การตอบสนองอย่างดุเดือดและทำงานสอดผสานกับเกียร์อย่างดีเยี่ยม แถมช่วงล่างแบบสปอร์ตที่เซตอัพมาอย่างลงตัวไม่แข็งกระด้างจนเกินไป ก็ทำให้ตัวรถพุ่งทะยานไปได้ตามการกดคันเร่งแบบเรื่อย ๆ และทำหน้าที่ได้ดีในช่วงของการเร่งแซง
ความดีงามของค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำนั้น ส่งผลในเรื่องของการทรงตัวของรถที่ย่านความเร็วกลางถึงสูงที่ยังมั่นคงเป็นอย่างมาก แถมพ่วงไปด้วยความเงียบของรถที่มากกว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็กทั่วไป ทำให้คนขับไม่รู้สึกเครียดนั่งเมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย
การออกตัวทำได้อย่างดีเยี่ยม การเร่งแซงไม่ได้ก่อให้เกิดความเหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซงด้วยการกดคันเร่งหรือจะเปลี่ยนเกียร์ช่วยที่ด้านหลังพวงมาลัย แถมยังได้ข้อดีของตัวรถที่ค่อนข้างนิ่งเข้ามาช่วยเหลือในการขับขี่อีก
0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำการทดสอบแบบง่าย ๆ บนถนนเมืองไทยที่พื้นไม่เรียบและมีลมแรงอยู่ที่เฉียด 7 วินาที โดยท๊อปสปีดไม่ได้ทำการทดสอบมา แต่ยืนยันว่าที่ความเร็วสูงนั้น ตัวรถยังพุ่งแหวกลมไปอย่างไม่มีอาการวูบวาบให้รู้สึกหวาดกลัว
อัตราการสิ้นเปลืองในการขับขี่แบบธรรมดาในเมืองอยู่ที่ระดับ 11-12 กิโลเมตรต่อลิตร แต่เมื่อขับเร็วขึ้นก็ย่อมต้องยอมรับถึงผลที่ตามมา แต่หากบอกว่ารถที่วิ่งอย่างดุดันแต่ใช้น้ำมันที่ระดับ 9-10 กิโลเมตรต่อลิตร ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่รับได้อย่างสบาย ๆ สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้
แลกกับค่าตัว 2.64 ล้านบาท ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะหาใครมาเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อดี!!!
รายละเอียดทางเทคนิค 2014 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ250 เอเอ็มจี สปอร์ต
ราคาจำหน่าย | 2.64 ล้านบาท |
เครื่องยนต์ | เบนซิน 4 สูบ แบบแถวเรียง |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,991 ซีซี. |
กำลังสูงสุด | 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 350 นิวตันเมตรที่ 1,200 – 4,000 รอบต่อนาที |
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง | 6.7 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย | 6.1 – 6.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร |
ขอขอบคุณ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) สำหรับรถยนต์ทดสอบ
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans
ขมภาพ 2014 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ250 เอเอ็มจี สปอร์ต เพิ่มเติมได้ ที่นี่
พบเมอร์เซเดส-เบนซ์มือสองที่ไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น