เชลล์มั่นใจผู้บริโภคมองหาน้ำมันเครื่องระดับพรีเมียม ทำสัดส่วนการขายเพิ่มเป็น 30% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สวนทางแนวโน้มตลาดน้ำมันเครื่องในไทยที่อาจจะไม่เติบโตในปีนี้
ทรอย แช็ปแมน กรรมการบริหาร ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มน้ำมันเครื่องระดับพรีเมียมมีเพิ่มขึ้น และน่าจะมีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของตลาดรวมในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 15-20% เท่านั้น
กลุ่มน้ำมันเครื่องพรีเมียมถือเป็นกลุ่มธุรกิจน้ำมันเครื่องที่มีการเติบโตสูง เมื่อเทียบกับภาพรวมของตลาดที่ไม่เติบโตในช่วงที่ผ่านมา โดยความต้องการของน้ำมันเครื่องในประเทศไทยอยู่ที่ระดับปีละ 680 ล้านลิตร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตในมาตรา 7 (บริษัทน้ำมันที่มีสถานีบริการน้ำมันในประเทศ) 380 ล้านลิตรคิดเป็น 55% ของตลาดรวม
ตลาดรถยนต์นั่งยังเป็นตลาดหลักสำหรับน้ำมันเครื่องโดยมีสัดส่วนการใช้งานราว 47% ตลาดรถบรรทุกใหญ่ 44% และตลาดรถจักรยานยนต์ประมาณ 9% ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัวในช่วงต้นปีจะไม่ส่งผลกับตลาดน้ำมันหล่อลื่นมากนัก เนื่องจากมองว่าตลาดรถในประเทศที่มีขนาดกว่า 13 ล้านคันยังมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
"อย่างไรก็ตาม ในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมาตลาดมีการหดตัวไปประมาณ 2% ตามภาวะของเศรษฐกิจ ขณะที่เชลล์นั้นหดตัวไปราว 1% ซึ่งถือว่าภาพรวมของธุรกิจยังดีกว่าตลาดรวมอยู่ และเราเชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนั้น แนวโน้มของตลาดน่าจะดีขึ้นมาเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา ขณะที่เชลล์จะเติบโตอีกเล็กน้อย"
ทั้งนี้ เชลล์คาดว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมันเครื่องในตลาดรวมปีนี้ได้ จากปีที่ผ่านมาที่มีส่วนแบ่งราว 29% คิดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเครื่องที่ไม่ใช่แบรนด์ในประเทศไทย โดยล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเพียวพลัส เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับพรีเมียม
ความคิดเห็น