หลายคนมักมีคำพูดติดปาก “ซื้อรถไว้จ่ายตลาดสักคัน” เมื่อกล่าวถึงรถราคาย่อมเยาและมีขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการใช้งานในตรอกซอกซอยอันคับแคบ ขับขี่ง่าย จอดสบายและมีอุปกรณ์มาตรฐานพอตัว
ปัจจุบันหลายค่ายรถยนต์มุ่งทำตลาดรถขนาดเล็กหลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ทั้งคนต้องการซื้อรถคันที่สองไว้ใช้งานสบายๆ หรือลูกค้าที่มีกำลังซื้อไม่มากนักที่กำลังมองหารถคันแรก วันนี้ Autospinn ขอเลือกบางรุ่นที่คิดว่าเหมาะสำหรับแม่บ้านแม่เรือนมานำเสนอกัน โดยเน้นที่ราคาค่าตัวที่ไม่สูงมากนัก ดีไซน์ที่น่ารักน่าชังและตอบโจทย์การใช้งานของคุณผู้หญิง
รถอีโคคาร์รุ่นบุกเบิกของเมืองไทย Nissan March เปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2010 ก่อนปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อกลางปีที่แล้ว พร้อมกับการยกระดับดีไซน์ให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ยังคงความน่ารักไว้เช่นเดิม ด้วยเรือนร่างที่ค่อนข้างเล็กกะทัดรัดและมีความโค้งมนที่น่าจะเข้าตาสุภาพสตรีหลายคน
ด้วยค่าตัวเริ่มต้นที่ 388,000 บาทในรุ่น S MT ไปจนถึงตัวท็อป E CVT Smart Edition 484,500 บาท ราคาระดับนี้จะได้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร พละกำลังสูงสุด 79 แรงม้า โดยมีทั้งระบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT ให้เลือกใช้ อย่างไรก็ตาม อ็อปชั่นต่างๆ อาจแตกต่างกันมากพอสมควรซึ่งควรจะเลือกสรรกันให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ
สีสันตัวถังภายนอกมีให้เลือกกันถึง 7 เฉดสี ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีเข้มเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าวงกว้างจึงน่าจะถูกใจทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พื้นที่ในห้องโดยสารอาจไม่มากเท่ากับรถระดับซับคอมแพกต์ชั้นนำอย่าง Honda Jazz (ซึ่งแพงกว่าหลักแสนบาท) แต่ก็ถือว่ากว้างขวางพอตัวและสามารถพับเบาะแถวหลังลงได้
พวงมาลัยที่ค่อนข้างเบาให้ความคล่องตัวสูง โดยมีรัศมีวงเลี้ยวที่แคบ การกลับรถใช้พื้นที่เพียง 4.5 เมตรเท่านั้นเหมาะสำหรับการมุดเข้าออกตลาดที่มักมีการจราจรหนาแน่นได้อย่างสบาย
ถ้า Suzuki Swift เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่วัยเริ่มทำงาน Suzuki Celerio ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็น่าจะเหมาะสำหรับทั้งวัยรุ่นและพ่อบ้านแม่บ้านมากที่สุด ด้วยการใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร ให้พละกำลัง 68 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิง E20
Celerio มีขนาดตัวถังที่เล็กกว่าคู่แข่งแต่ระดับความสูงถือว่ามากที่สุดในระดับเดียวกัน นั่นทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูสูงโหย่งแต่ข้อดีคือพื้นที่เหนือศีรษะค่อนข้างโปร่งสบาย พวงมาลัยเป็นแบบเพาเวอร์ไฮโดรลิคมีรัศมีวงเลี้ยว 4.7 เมตร กว้างกว่า March เล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าคล่องตัวในพื้นที่คับแคบ ตัวถังภายนอกมีให้เลือกกันถึง 8 สี
ราคาจำหน่ายของ Celerio แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย เริ่มจาก GA เคาะ 359,000 บาทซึ่งถือว่าถูกที่สุดในประเทศไทย ถัดมาเป็นรุ่น GL เคาะราคาจำหน่ายที่ 439,000 บาท และรุ่นท็อปไลน์ GLA ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 488,000 แสนบาท ค่าตัวระดับนี้ต้องยอมรับว่าไม่เพียงจะเหมาะสำหรับแม่บ้านเท่านั้น แต่ยังถูกใจกลุ่มนักศึกษาอีกด้วย
ทาง Suzuki เน้นเปิดแคมเปญให้ลูกค้าเข้ามาทดลองขับเพื่อพิสูจน์สมรรถนะขุมพลัง 1.0 ลิตรของ Celerio พ่อบ้าน-แม่บ้านคนใดสนใจลองควงแขนกันเข้าไปที่โชว์รูมได้เลย
รุ่นสุดท้ายเป็นแบรนด์ยอดนิยม Honda Brio อีกหนึ่งรถอีโคคาร์ที่มีแฝดคนละฝาอย่าง Brio Amaze แต่วันนี้ขอพูดถึงแต่รุ่นแฮทช์แบ็กที่มีดีไซน์ออกไปทางน่ารักมากกว่า วางเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดบล็อก 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร สร้างกำลังได้ 90 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตรที่4,800 รอบ/นาที สามารถรองรับน้ำมัน E20
Brio มีขนาดตัวถังใหญ่กว่า Celerio เล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าเล็กกะทัดรัดและคล่องแคล่ว โดดเด่นด้วยพวงมาลัยแบบผ่อนแรงไฟฟ้า EPS มีรัศมีวงเลี้ยว 4.5 เมตร มีทั้งระบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์ CVT ให้เลือกใช้ตามต้องการ
ที่น่าสนใจก็คือ Honda นำเสนอ Brio ใหม่ให้เลือกกันถึง 5 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น S MT ราคา 436,500 บาท รุ่น S AT ราคา 475,500 บาท รุ่น V MT ราคา 472,500 บาท รุ่น V AT ราคา 511,500 บาท และรุ่นท็อปไลน์ V Limited AT ราคา 533,500 บาทซึ่งมีระบบนำทางเนวิเกเตอร์ติดมาให้ด้วย
ภายในห้องโดยสารของ Brio อาจดูหวือหวาน้อยที่สุด นั่นทำให้ Honda ต้องส่งเวอร์ชั่นสีดำแนวสปอร์ตออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว พร้อมกับเพิ่มความทันสมัยด้วยวัสดุเมทัลลิกบริเวณมือจับและบนพวงมาลัยแบบสามก้าน
พบรถ Honda Brio, Suzuki และ Nissan March มือสองคุณภาพเยี่ยมที่ไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น