โดยปกติแล้วในการขับขี่รถบนท้องถนน โดยเฉพาะในตัวเมืองที่มีรถคับคั่งนั้น เรื่องการใช้สัญญาณไฟ ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่มีใครเดาใจรถคันหน้าได้ว่า จะเปลี่ยนเลนเข้ามาเมื่อใด จะขับตรงต่อไป หรือจะเลี้ยวอย่างกระทัน หากพวกเขาไม่ยอมเปิดไฟเลี้ยว ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลายคนที่อาจจะใช้สัญญาณไฟรถไม่ถูกต้อง อย่างเช่น ไฟฉุกเฉิน หรือไฟตัดหมอก ซึ่งในวันนี้ลองมาดูกันสิว่า พวกคุณใช้สัญญาณเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องแล้วหรือยัง
- ไฟฉุกเฉิน ตามพรบ.จราจร นั้นให้ใช้ในกรณีที่รถเสียจอดหยุดนิ่งเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติ เราก็อาจอนุโลมใช้กันในบางกรณีที่เหมาะสม อย่างเช่นการจอดรถ เพื่อให้รถคันหลังทราบและไม่จี้ติดมากจนเกินไป, การเบรกกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเดี๋ยวนี้รถหลายคันมักมีระบบ ESS ติดตั้งมาให้, รถที่ขับนำขบวนหรือปิดท้าย ก็สามารถใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแทรกขบวน แต่ทว่า คนไทยเรามักชอบใช้กันผิด อย่างไม่เหมาะสมนัก ซึ่งอาจก่อเกิดอุบัติเหตุได้ อาทิเช่น เวลาฝนตกหนักหลายคนมักเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้รถที่แล่นมาด้านหลังมองเห็นได้ชีด ซึ่งว่าไปแล้วดูเหมือนจะเป็นการกระทำที่ดี แต่ทว่าหลายครั้งที่คุณต้องการเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยว นั่นจะทำให้รถด้านคันด้านหลังเกิดความสับสนและเสียงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะพวกที่สักแต่ว่าจะออกเปลี่ยนเลน โดยไม่ยอดดูรถด้านหลัง หรือเวลา ที่ขับมาชะลอจะผ่านทาง 4 แยก ซึ่งไม่มีไฟแดง และผู้ขับต้องการจะตรงไป หลายคนเลือกเปิดไฟฉุกเฉิน ซึ่งผู้ที่อยู่ทางขวามือของคุณ ก็จะคิดว่าคุณจะเลี้ยวขวา และผู้ที่อยู่ทางซ้ายมือของคุณก็คิดว่าคุณจะเลี้ยวซ้าย ซึ่งอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด จนเป็นสาเหตุแห่งการเกิดอุบัติเหตุได้
- ไม่ยอมเปิดไฟเลี้ยว ขณะเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวรถ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายอย่างแน่นอน เพราะหากว่ากันตามตัวบทกฏหมายแล้วนั้น จะต้องเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าก่อนถึงทางเลี้ยว 30 เมตร เป็นอย่างน้อย แต่ในทางปฏิบัติจริง ก็เข้าใจว่าคงไม่มีใครเป๊ะวัดกันได้ถึงขนาดนั้น แต่อย่างน้อยก็ควรที่จะเปิดไฟเลี้ยวแต่เนิ่นๆ ล่วงหน้าเพื่อให้รถคันที่ตามมาทราบ และไม่ขับชิดติดจนเกินไป รวมถึงการเปลี่ยนเลนก็เช่นเดียวกัน ซึ่งหลายคนมักจะชอบเปิดไฟเลี้ยวพร้อมกับหักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนทันที ซึ่งการกระทำดังกล่าว ไม่ถือเป็นประโยชน์แต่อย่างใด เพราะผู้ที่อยู่ด้านหลังไม่สามารถรับรู้ล่วงหน้าก่อนที่คุณจะหักเลี้ยว
- การใช้ไฟตัดหมอก ทั้งหน้า-หลัง โดยไม่เหมาะสม หลายคนที่ใช้รถยนต์ที่มีไฟตัดหมอก มักจะชอบเปิดไฟตัดหมอกไปพร้อมกับการเปิดไฟหน้ารถไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะสะดวกจากการบิดก้านเปิดไฟก็แล้วแต่ ซึ่งในทางปฏิบัติที่ถูกต้องนั้น ไฟตัดหมอกควรเปิดในกรณีที่สภาวะแวดล้อมไม่ดีทำให้วิสัยทัศน์ในการขับขี่แย่ เช่น กรณีที่หมอกลง หรือฝนตกอย่างหนักจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า โดยเฉพาะไฟตัดหมอกหลัง หลายคนมักเปิดไฟตัดหมอกหลังในยามกลางคืนที่ไม่มีเหตุการณ์ที่จำเป็นต่อการเปิด ซึ่งจะแยงตา แก่ผู้ขับที่ตามมาด้านหลัง หรือมองไกลๆ อาจทำให้เกิดความสับสน นึกว่าเป็นไฟเบรกได้
- ไฟ Pass หรือไฟให้ทาง ชื่อนั้นก็บอกอยู่แล้วเป็นสากล คำว่า Pass หมายถึงการให้ผ่าน แต่ทว่า คนไทยเรามักมีพฤติกรรม ที่เรียกว่า “ต๊อบไฟ” ใส่ผู้ที่กำลังจะข้ามถนน หรือรถคันที่จะเลี้ยวเข้ามา เพื่อแสดงว่า "ไม่ให้ไป" เป็นอันรู้กันสำหรับคนไทย ซึ่งหากเจอชาวต่างชาติที่เข้าใจตามหลักสากลแล้วล่ะก็ อาจเกิดการเข้าใจผิดจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นควรระมัดระวังกับการใช้สัญญาณไฟ pass ด้วย
LINE
ความคิดเห็น