ทดสอบขับประหยัดน้ำมันกับ Mazda Skyactiv ทั้ง Mazda3 และ CX-5 ลืมตัวเลขเคลมบนโบรชัวร์ได้เลยเพราะมันทำได้ดีกว่านั้น! Share this

ทดสอบขับประหยัดน้ำมันกับ Mazda Skyactiv ทั้ง Mazda3 และ CX-5 ลืมตัวเลขเคลมบนโบรชัวร์ได้เลยเพราะมันทำได้ดีกว่านั้น!

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 08 August 2557

หลังจากที่ Mazda ได้เปิดตัวเทคโนโลยี Skyactiv ใหม่ในรถยนต์รุ่นแรก กับ CX-5 เมื่อปีที่แล้ว   และตามมาด้วย Mazda3  ใหม่ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่าน     ได้ช่วย Mazda กวาดยอดขายรถในกลุ่ม C-Segment และรถ SUV   ได้อย่างท่วมท้น   จากกระแสตอบรับของคนไทย  ที่มีต่อรถยนต์เทคโนโลยีใหม่ระดับโลก  ซึ่ง CX-5 ที่สามารถการันตีทั้งรางวัล    Japan Car of the year ในปี 2012-2013  และรางวัล Car of The Year 2014  ในกลุ่ม SUV เครื่องยนต์ดีเซลไม่เกิน 2.5 ลิตร    ขณะที่   Mazda3  ใหม่ การันตีด้วย 1 ใน 3   WORLD CAR OF THE YEAR 2014 และ WORLD CAR DESIGN OF THE YEAR 2014

เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จ รวมถึงการสร้างการตอกย้ำภาพลักษณ์  ทั้งแรง และประหยัด กับเทคโนโลยี Skyactiv    ทาง Mazda เซลล์ ประเทศไทย   จึงได้จัดทริปทดสอบรถครั้งนี้ขึ้น  ซึ่งเป็นการแข่งขันขับประหยัด พร้อมการขับทดสอบแบบ Gymkhana

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun13

ในช่วงแรกกับการขับขี่แบบประหยัด    โดยจะแบ่งทีมออกเป็นกลุ่ม  กลุ่มละ 3 คน ต่อรถ 1 คัน  ซึ่งใช้วิธีจับฉลากเลือกรถ  4 แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท  ได้แก่

-          Mazda3 Hatchback  3 คัน   หมายเลข 1-3

-          Mazda3 Sedan     4 คัน    หมายเลข 4-7

-          Mazda CX-5 2.0  จำนวน 3 คัน หมายเลข 8-10

-          Mazda CX-5 Diesel 2.2  จำนวน 5 คัน  หมายเลข 11-15

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun22

โดยผู้ที่เข้าร่วมทีม 1 ท่าน  จะต้องไปนั่งรถของผู้เข้าแข่งท่าน อื่น

พร้อมทั้งใช้ความเร็วเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 60 กม./ชม.    กับระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 156 กม.  และเวลาตลอดการเดินทางประมาณ 2 ชม. 40 นาที

นอกจากนั้นยังมีกฏเกณฑ์ อื่นๆ  อาทิ   ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ  และห้ามเปิดกระจกด้านข้าง  และพับกระจกมองข้าง     และต้องเปิดไฟหน้าตลอดการแข่งขัน

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun10

สำหรับลงยางที่ใช้   Mazda3   (34/33)  หน้า/หลัง   และ CX-5  (36/36)  หน้า/หลัง

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun21

น้ำมันที่ใช้เติมเป็น E10 แก๊สโซฮอล์ 95 และดีเซล  (ปตท.)    การเติมน้ำมันเต็มถัง ให้เติมถึงหัวจ่ายตัด ปล่อยไว้ 30 วินาที  แล้วค่อยเติมติดต่อกันเป็นเวลา 1 นาที  โดยเขย่ารถตลอดเวลา ขณะเติม 1 นาทีนี้

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun23

การขับ Eco Run นี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วง    ช่วงแรกเริ่มต้น ตั้งแต่สถานีน้ำมัน ปตท. ชัยบาดาล  สิ้นสุดที่ ร้านไก่ย่างนิวบัวตอง (วิเชียรบุรี)  ระยะทางรวม   56.5 กม.     กำหนดเวลา 56 นาที

หลังจากนั้นในช่วงที่ 2 ได้เปลี่ยนมือขับออกจากร้านอาหาร ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำมัน ปตท. เพชรบูรณ์ ระยะทางรวม 92.2 กม.   กำหนดเวลา 90 นาที    เมื่อถึงปั๊มแล้ว จึงเติมน้ำมันเต็มถังเพื่อวัดปริมาณน้ำมันที่ใช้

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun14

หัวใจสำคัญของการขับประหยัดนี้นอกจากจะต้องเติมน้ำมันออกมาน้อยที่สุดแล้ว   การบริหารเวลาก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ   ผู้ขับขี่จะต้องบริหาร  คำนวณความเร็วที่ต้องใช้เพื่อให้มาถึงที่หมายภายในเวลาที่กำหนดให้ได้ใกล้เคียงที่สุด   แต่ก็ต้องเผื่อเวลาหากติดไฟแดง  หรือ ติดรถช้าด้วย

การแข่งขันแบบ Eco Run  นี้บรรดาผู้แข่งทั้งหลายทีม  ต่างงัดเทคนิคของแต่ละบุคคลมาใช้กันอย่างเต็มที่  ตั้งแต่การดับเครื่องยนต์ขณะติดไฟแดง,   การเข้าเกียร์ N  ขณะขึ้น-ลง ทางชัน,   การขับตามท้ายรถใหญ่  เพื่อให้ได้ Aerodynamics     เทคนิคทั้งหลายนี้  อาจมีส่วนช่วยได้เพียงเล็กน้อย  แต่ความสำคัญ  อยู่ที่ความเนียนของการเดินคันเร่ง เพื่อรักษาความเร็วให้คงที่  และการใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำที่สุด

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun12

ผลการแข่งขันผู้ที่ชนะเลิศ ในแต่ละรุ่น  ได้อัตราสิ้นเปลืองดังนี้

-          Mazda3 Hatchback         27.8 กม./ลิตร

-          Mazda3 Sedan                 26.32 กม./ลิตร  

-          Mazda CX-5 2.0             18.33 กม./ลิตร 

-          Mazda CX-5 Diesel 2.2    23.4 กม./ลิตร

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun5

หมายเหตุ   ทีมของผู้เขียนจับฉลากได้รถ Mazda3 Sedan  หมายเลข 4  รุ่น  2.0S  ใช้ล้อแม็กขนาด 18”   ผู้เขียนได้ขับในช่วงที่ 2   ระยะทาง 92.2 กม.    ขับเน้นใกล้เคียงการใช้งานจริงมากที่สุด    เปิดแอร์ 25 องศา  พัดลมแอร์เบอร์ 2    ขับออกตัวไม่เกิน 2,000rpm  ใช้เกียร์สูงที่สุดที่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,700-1,800rpm   รักษาคันเร่งให้คงที่ความเร็ว 80 กม./ชม.  บางจังหวะที่แซงรถช้าความเร็วขึ้นไปประมาณ 90 กม./ชม.      และมาถึงเป็นคันแรกทั้ง 2 ช่วงการแข่ง      ได้อัตราสิ้นเปลืองที่ราว 22 กม./ลิตร

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun29

หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันในส่วนของ Eco Run กันไปเรียบร้อย  ก็ได้เคลื่อนย้ายขบวนออกจากปั๊ม ปตท. เพชรบูรณ์ย้อนกลับมา  ที่ลานจอดรถ ไทวัสดุ   ซึ่งได้ถูกเซ็ตให้กลายเป็น   สนามขับทดสอบสมรรถนะของเทคโนโลยี Skyactiv Body และ Skyactiv Chassis  แบบ Gymkhana    โดยสมาชิกในกลุ่ม จะต้องเลือกตัวแทนออกมา 2 คน  เพื่อขับรถ  Mazda CX-5   2.5  และ  Mazda3 Hatchback

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun25

ซึ่งเงื่อนไขการแข่งขันเป็นแบบ Bracket  จับเวลาให้ใกล้เคียง ตัวเลขที่ตั้งไว้คือ 30 วินาที    ผู้ที่ขับเข้าก่อนเวลาและ หลังเวลาที่กำหนด  จะต้องถูกตัดคะแนนออกตามเวลาที่ห่างจากเป้าไป    ซึ่งหากขับชน pylon จะถูกบวกเวลา อีก pylon ละ 2 วินาที

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun28

ในการขับทดสอบสมรรถนะแบบ Gymkhana นี้  ผู้ที่ได้รถ Mazda3  จะได้เปรียบกว่า CX-5   เนื่องจากรถที่มีขนาดเล็กกว่า  เตี้ยกว่า   วงเลี้ยวแคบ  คล่องตัวสูงกว่า   ทำให้การควบคุมรถโดยรวมง่ายกว่า    และที่สำคัญแรงบิดไม่ทะลักจนล้น เหมือนกับ CX-5  2.5  ที่เติมคันเร่งมากไป  กำลังมามากเกิน  ทำให้การโยน Slalom  นั้นควบคุมได้ยากยิ่งกว่า

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun32

ดังนั้นผู้ที่ขับ Mazda3  อาจจะไม่ต้องขับเครียดกับเวลาจนเกินไปนัก   เวลาก็จะออกมาได้ดีกว่า CX-5  2.5  หรือใกล้เคียง  30 วินาที  ได้ง่ายกว่านั่นเอง

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun40

สำหรับในช่วงการขับแบบ Free Run   ทางเราได้ขับรถ Mazda3 Sedan   ในวันแรก  และ Mazda CX-5  2.0  ในวันที่สอง    ซึ่งรถทั้ง 2 รุ่นนี้   ให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่ใกล้เคียงกัน  เนื่องจากใช้เครื่องยนต์  และเกียร์ลูกเดียวกัน  แต่มีการปรับใช้อัตราทดเฟืองท้ายที่ต่างกันเพียงเท่านั้น   ทำให้บุคลลิก  การขับขี่ดูคล้ายคลึงกัน      อาจต่างกันบ้างในบางจุด  ได่แก่  ระยะของแป้นเบรกที่ CX-5  จะเซ็ตออกมาตื้นกว่า Mazda3   รวมถึงความแรงของรถ  ที่อาจดูไม่จี๊ดจ๊าดเท่า Mazda3  ในช่วงเร่งแซง  หรือออกตัว  เนื่องจากน้ำหนักตัวที่มากกว่าราว 200 กก.  และบอดี้รถที่สูงต้านลมมากกว่า      แต่ในการใช้งานจริง  รถทั้ง 2 รุ่นสามารถขับเดินทางไกลที่ใช้ความเร็ว   หรือจะขึ้นเขาที่มีทางลาดชัน    กำลังของเครื่องยนต์นั้น ก็เพียงพอต่อการลุยเส้นทางเหล่านั้น        แถมด้วยระบบ Hill Launch Assist  ซึ่งมีมาให้ในทุกรุ่นของ Mazda CX-5  ช่วยให้รถไม่ไหลขณะออกตัวบนทางชันอีกด้วย

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun48

เมื่อเจอกับทางโค้ง  จะถือเป็นเรื่องสนุกทุกครั้งไป   ไม่ว่าจะควบรถ Mazda3  หรือ  CX-5   ก็สามารถที่จะบังคับพวงมาลัยเลี้ยวเข้าโค้ง   ให้เนียนด้วยความเร็ว  โดยที่ไม่มีอาการของตัวรถโคลงเคลงออกมาให้เห็น     ซึ่งบอกได้เลยว่า นี่คือ อีกหนึ่งจุดเด่นของรถ Skyactiv  ที่เหนือกว่าคู่แข่ง  แม้อาจต้องแลกด้วยกับความแข็งตึงตังไปบ้างในบางจังหวะก็ตาม

ในทริปการขับขี่นี้  เราได้เจอกับพื้นถนนที่เปียก และฝนตกตลอดทั้ง 2 วัน  แต่ผู้ขับทั้งหลายก็ยังให้ความอุ่นใจได้  จากระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS และ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว  DSC  ที่มีให้ในทุกรุ่นย่อย

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun38

กล่าวโดยสรุป  Mazda  ตระกูล Skyactiv  ใหม่นี้   ถือเป็นรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่   และให้ความโดดเด่นกว่าเพื่อนในระดับเดียวกัน  ทั้งจากตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ทางกลุ่มสื่อมวลชนได้พิสูจน์  ซึ่งทำออกมาได้ดีเทียบเท่า (หรือมากกว่า)  รถ Hybrid ใน Class เดียวกัน       นอกจากประหยัดแล้ว  ด้านความแรงนั้น  ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวแม้อาจไม่ได้แรงที่สุดในพิกัดเดียวกัน    แต่ต้องถือว่าอยู่ลำดับหัวแถว   นอกจากนั้นจุดเด่นที่ยังคงความยอดเยี่ยมของ Mazda เอาไว้ก็คือ เรื่องของการควบคุมตัวรถ  ที่ทำได้อย่างแม่นยำ  และการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม     แม้จะต้องแลกกับข้อด้อยที่อาจจะนั่งไม่สบายนักจากช่วงล่าง  และพื้นที่ของเบาะโดยสารที่อาจแคบไปหน่อย     แต่ด้วยข้อดีที่ล้นหลาม  นั่งจึงเป็นสิ่งที่ยืนยันความสำเร็จทั้งยอดขาย และการันตีรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมในหลากสาขา  ของ Skyactiv ได้เป็นอย่างดี    เอาเป็นว่าสำหรับหลายคนที่ไม่เคยสัมผัสกับเทคโนโลยี Skyactiv  และติดกับภาพลักษณ์เดิมๆ  ของ Mazda    ให้ลืมภาพที่เป็นรถกินน้ำมันเทคโนโลยีเก่าๆ  ออกไปซะ!     และลองไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองกับเทคโนโลยีที่คว้ารางวัลระดับโลกนี้

ขอขอบคุณ Mazda Sales ประเทศไทย สำหรับทริปทดสอบ Mazda Skyactiv Family ในครั้งนี้

ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun35

ชมภาพเพิ่มคลิ๊ก

2014-Mazda-Skyactiv-EcoRun51

พบรถ Mazda มือ 2 ได้ที่ Thaicar.com


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ