ฮุนไดเดินหน้าประสานความร่วมมือในอาเซียน ส่งชิ้นส่วน-รถยนต์ระหว่างประเทศผ่านอาฟต้าลดต้นทุนการแข่งขันท้าชนรถญี่ปุ่น เมินตั้งโรงงานในไทยแต่ดันเป็นฐานส่งออกชิ้นส่วนไปยังโรงงานในภูมิภาค มั่นใจหลังเปิดตัวเอลันทร้า สปอร์ต เคาะราคาช่วงแนะนำ 7.49-8.98 แสนบาท ดันยอดจำหน่ายฮุนไดในไทยกลับมาเติบโตเป็น 5,000-6,000 คันอีกครั้งในปีนี้
ฮิเดกิ ยานากิซาวา ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่าแนวทางที่บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นวางไว้สำหรับผู้ประกอบการในอาเซียน ก็คือการร่วมมือกันระหว่างประเทศต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในไทย, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของฮุนไดในภูมิภาค
ในปัจจุบัน โรงงานของฮุนไดที่มาเลเซียทำการผลิตรถอย่างทูซอน, ไอ10 และเอช-1 ขณะที่โรงงานที่อินโดนีเซียนั้นทำการผลิตเอช-1 เป็นหลัก ซึ่งประเทศไทยจะเริ่มต้นนำเข้ารถยนต์จากประเทศเหล่านี้มากขึ้น เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษาของอาฟต้า ซึ่งทำให้ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า โดยจะทำให้บริษัทมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบการนำเข้าสินค้าจากประเทศเกาหลี
“แม้ฮุนไดจะไม่มีแผนการที่จะเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทยในช่วงนี้ แต่ประเทศไทยก็จะเป็นฐานการส่งออกชิ้นส่วนที่สำคัญไปยังโรงงานในภูมิภาค ทั้งชิ้นส่วนตัวถังภายนอกและชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร ยกตัวอย่างเช่น เอช-1 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย ได้รับการพัฒนารูปแบบไปอย่างมาก ก็มีการส่งชิ้นส่วนเพื่อกลับไปผลิตที่อินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทแม่จะเป็นผู้ดำเนินยุทธศาสตร์ในการร่วมมือกันให้มากขึ้นในอนาคต”
ยานาสกิซาวาเปิดเผยว่า จากแผนการดังกล่าวทำให้บริษัทฯ สามารถนำเข้ารถยนต์ที่มีราคาจำหน่ายที่สามารถแข่งขันได้ และมีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น เพื่อให้ทำตลาดแข่งกับคู่แข่งรายอื่นในเซกเมนต์นี้ได้ โดยฮุนได เอลันทร้า สปอร์ต ที่เปิดตัวในวันนี้ มีราคาจำหน่ายในช่วงแนะนำ 1-2 เดือนแรกหลังการเปิดตัวเพียง 7.49-8.98 แสนบาทใน 3 รุ่นย่อย ซึ่งหากเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาถือว่าราคามีความเหมาะสม
ทั้งนี้ เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายของรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทย จากเดิมที่รถตู้ครองสัดส่วนมากกว่า 90% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด โดยฮุนไดตั้งเป้าหมายการจำหน่ายเอลันทร้า สปอร์ตเอาไว้ที่ 100 คันต่อเดือนไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งจะทำให้ยอดจำหน่ายของฮุนไดในปีนี้อยู่ที่ 5,000-6,000 คัน จากปีที่ผ่านมาที่ทำไปได้ราว 4,000 คันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ประธานฯ กล่าวว่ามีแผนงานที่จะนำรถยนต์รุ่นอื่น ๆ เข้ามาทำตลาดในรูปแบบนี้ในอนาคต แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นใด เพียงแต่ยืนยันว่าจะต้องมีความเหมาะสมกับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยรถยนต์บางรุ่นที่ทำการพัฒนาเพื่อตลาดยุโรปจะไม่นำเข้ามาทำตลาดเป็นอันขาด
“เรายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของรถที่จะนำมาทำตลาดได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการศึกษาในปัจจุบัน แต่เราเชื่อว่าแนวโน้มของประเทศไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้น จากความชัดเจนและความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ อันจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์เช่นเดียวกัน ซึ่งฮุนไดประเมินว่าตลาดรถยนต์จะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 และน่าจะทำได้ถึง 9.4-9.5 แสนคันในปีนี้” ยานากิซาวากล่าวสรุป
พบฮุนไดมือสองและฮุนได เอลันทร้ามือสอง ที่ไทยคาร์ดอทคอม
ความคิดเห็น