ลองขับ Bentley The New Continental GT V8 S and GT V8 S Convertible แบบ 1st Impression Share this

ลองขับ Bentley The New Continental GT V8 S and GT V8 S Convertible แบบ 1st Impression

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 08 September 2557

บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม “Bentley Driving Experience 2014” กิจกรรมการทดสอบรถยนต์หรู สัญชาติอังกฤษ Bentley The New Continental GT V8 S and GT V8 S Convertible ทั้งโฉมคูเป้และเปิดประทุน ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2014 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งทางเราได้รับเกียรติเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ด้วย

2

ดีไซน์ภายนอก Bentley New Continental ยังคงการดีไซน์ที่มอบความหรูหราตามแบบฉบับของรถ 4 ที่นั่ง Coupe Gran Tourer ตระกูล Continental โดยมีโลโก้ V8 S อยู่ที่แก้มด้านข้างตัวรถ บ่งบอกรหัสความแรงเป็นอย่างดี ในตัว GT Coupe จะเป็นบอดี้หลังคาแข็ง และ GTC นั้นจะเป็นหลังคาแบบผ้าใบสามารถเปิดประทุนได้ด้วยกลไกไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้มันมีน้ำหนักตัวที่มากกว่า รุ่น Coupe อีก 175 กก. (2295กก. รุ่น Coupe และ 2,470กก. รุ่น Convertible)

1

สำหรับทั้ง 2 คันที่ใช้ทดสอบนี้ รุ่น GT Convertible คือ คันสีแดง St. James' Red (Pearlescent) และตัว GT Coupe คือ คันสีฟ้า Kingfisher

ทั้งคู่ใช้ล้ออัลลอยแบบ 7 ก้าน Black Limited Edition ขนาด 21” ซึ่งเป็นออปชั่นเสริม สวมยาง Pirelli P Zero ขนาด 275/35/21 สำหรับรุ่น Convertible จะเสริมความโดดเด่นด้วยการใช้คาลิปเปอร์เบรก เป็นสีแดง

12

11

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งหรูหราทันสมัยตามแบบฉบับของ Bentley โดยภายในของรุ่น Coupe นี้จะเป็นสีหนังดำ เดินด้ายสีฟ้า และ ในรุ่น Convertible ภายในเป็นสีทูโทน ดำ-แดง ซึ่งทั้งคู่ ตกแต่งเติมความสปอร์ตด้วย Trim คาร์บอนไฟเบอร์

4

ด้านขุมพลังของ The New Continental GT V8 S and GT V8 S Convertible นี้ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 4 ลิตร twin-turbo V8 ให้พละกำลังสูงสุดที่ 521 แรงม้า (528 PS@6,000rpm ให้แรงบิดสูงสุดที่ 680 Nm@1,700rpm ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด ลงสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่กระจายแรงบิด 40:60 หน้า:หลัง

GT V8 S coupe มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 309 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ส่วน GTC V8 S มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 308 กิโลเมตร/ชั่วโมง

5

การทดสอบขับในลานอเนกประสงค์ ราบ 11 ได้ถูกเนรมิตให้กลายเป็น Track ทดสอบอย่างง่าย โดยให้ขับรุ่นละ 2 รอบด้วยกัน เส้นทางการทดสอบเริ่มต้นด้วยการออกตัวทดสอบอัตราเร่งทางยาว

ทันทีที่กระแทกคันเร่งลงมิดจะพบช่วง Lag ของเทอร์โบ เพียงสั้นๆ หลังจากนั้นแรงบิดที่มีมาแบบ Flat Torque ที่ลากยาวตั้งแต่ประมาณช่วง ก่อน 2,000rpm ก็จะส่งแรง G-Force ให้เราสัมผัสดึงหลังติดเบาะกันถ้วนหน้า ลากยาวไปจนถึงรอบเครื่องประมาณ 6,500rpm ก่อนที่จะตัดขึ้นเกียร์ใหม่ ซึ่งในทางตรงที่เราได้ทดสอบนี้ สามารถขึ้นได้ถึงเกียร์ 4 กับความเร็วที่ระดับประมาณ 130 กม./ชม. จุดสังเกตุของทั้ง 2 คันนี้ ที่รู้สึกได้ คือ รุ่น Coupe ดูจะมีอัตราเร่งที่ดีกว่ากว่า เนื่องจากบอดี้ตัวถังที่ดูเบากว่า จึงอาจทำให้มีอัตราเร่งที่ดีกว่าอยู่เพียงเล็กน้อย

7

หลังจากสิ้นสุดทางตรง ที่ซัดมาด้วยความเร็วจะต้องลงเบรกอย่างหนัก ตรงตำแหน่ง Pylon ที่วางนอนไว้เพื่อเป็นสัญญาณให้เบรก และ U-turn รถ

ในด้านการตอบสนองของเบรกนั้น พบว่า มันเซ็ตออกมาเน้นให้ตอบสนองแบบนุ่มนวล จึงเซ็ตตำแหน่งแป้นเบรกที่ต้องลงน้ำหนักเท้าค่อนข้างลึกถึง แม้เบรกหน้าจะเป็นคาลิปเปอร์แบบ 8 pot และจานโตถึง 420มม. หากลงเบรกในช่วงที่ขับมาด้วยอัตราเร่งนั้น อาจต้องระมัดระวัง เผื่อระยะสักเล็กน้อย ด้วยน้ำหนักตัวรถราว 2 ตัน และการเซ็ตเบรกแบบขับขี่สบาย จึงไม่เหมือนเบรกของพวกรถที่เน้นเป็นหลักสปอร์ต ที่แตะแป้นเบรกเพียงตื้นๆ ก็เบรกได้อย่างหน้าจิกหัวทิ่มกันแล้ว

3

หลังจากที่ลงน้ำหนักเบรก และต้องหักวงเลี้ยวซ้ายเพื่อ U-Turn ระบบบังคับเลี้ยวพวงมาลัยแบบผ่อนแรงไฟฟ้านั้น พบว่าในรุ่น Coupe น้ำหนักพวงมาลัยจะเบากว่า นั่นจึงทำให้ในช่วง U-Turn นี้รุ่น Convertible จะมีน้ำหนักพวงมาลัยที่หนักแน่นมือมากกว่า แต่การตอบสนองนั้นคล้ายกัน คือผ่อนแรงเบามือ ตอบสนองได้ว่องไวในระดับหนึ่ง ให้ความรู้สึกอาการหนืดหน่วงมือเพียงเล็กๆ ในแบบฉบับของพวงมาลัยไฟฟ้า แต่จะดูมีชีวิตชีวาในการควบคุมที่ดีเป็นมิตร ความไวของพวงมาลัยยังไม่ได้รู้สึกไวจนเกินไป เหมือนพวกรถสปอร์ตจ๋าทั้งหลายที่อาจจะต้องระมัดระวังในการสาววงเลี้ยวให้ดี ซึ่งอาการของพวงมาลัยแบบนี้ คล้ายกับพวกรถซีดานขนาดกลางที่เน้นความสะดวกสบายในการควบคุมรถ แต่ก็สามารถควบคุมรถได้อย่างดีเยี่ยมไปด้วยกัน

9

เมื่อ U-Turn ผ่านพ้นมา กับเข้าสู่ Track ในช่องที่ Pylon ตั้งไว้ ซัดตรงต่อมาอีกนิด จะพบกับโค้ง Zig-Zag ขวา-ซ้าย (Chicane) ซี่งมีขนาดช่องที่กว้าง ไม่แคบมาก ซึ่งแตะเบรกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถที่จะหักวงเลี้ยวหลบหลีก ออกไปได้อย่างง่ายดาย แล้วจึงซัดทางตรงต่ออีกช่วงสั้นๆ ซึ่งในช่วงนี้ เราสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของโหมด D และ โหมด S อยู่อีกเล็กน้อย นั่นก็คือ รอบที่เราขับในโหมด D การตอบสนองในการเติมคันเร่งต่อ ดูจะช้ากว่าเพียงเสี้ยววินาที และในช่วงที่เราไม่ได้กดคันเร่งเต็มเท้า รอบเครื่องจะลากไปได้ไม่สูงนัก ในขณะที่โหมด S จะช่วย Hold รอบเครื่องให้เราลากได้ต่อจนไปชน Redline หลังจากสิ้นสุดทางตรงสั้นๆ นี้ ก็เตรียมตัวเบรกและ U-Turn ซ้ายอีกครั้งเป็นอันครบรอบ Track อย่างง่ายนี้

6

อีกจุดสังเกตุหนึ่งนั้นคือ ช่วงล่างของ Continental GT Coupe และ GTC นี้ น่าจะปรับเซ็ตต่างกัน ให้ตัว GTC ดูสปอร์ตมากขึ้น เพราะ ช่วงล่างของ GTC จะดูแข็งและแน่นกว่าในช่วง U-Turn เนื่องจาก ตัว Coupe นั้น ดูจะนิ่ม และตัวถังรถมีการโยนตัวออกมาให้เห็นมากกว่า

8

สรุปสั้นๆ Bentley The New Continental GT V8 S and GT V8 S Convertible รถสปอร์ตคูเป้ และ เปิดประทุน หรูหรามีระดับ สำหรับบรรดาเศรษฐี ผู้ต้องการความมีระดับจากดีไซน์ของตัวรถ และความสุนทรีย์ในการขับขี่โดยสาร พร้อมเบาะ 4 ที่นั่ง แม้เบาะหลังอาจจะแคบไปสักนิด แต่ก็เพียงพอที่จะพาลูกๆ นั่งไปด้วยได้นั่นจึงทำให้ New Continental GT นี้ จะแตกต่างจากรถสปอร์ตหรูทั้งหลาย ที่อาจจะนั่งได้ไม่สะดวกสบาย และเน้นการขับขี่ที่ตอบสนองในรูปแบบสปอร์ตเต็มขั้น

แต่สำหรับ New Continental V8 S นี้ ในด้านพละกำลัง เรียกได้ว่าไม่เป็นรองใคร แต่คุณสามารถขับขี่ควบคุมรถได้อย่างง่าย พร้อมให้คุณขับขี่ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ที่ไม่จำเป็นต้องเอาไปซัดแรงใน Track หรือเส้นทางที่ต้องขับขี่ด้วยความรวดเร็วเพียงอย่างเดียว

Bentley New Continental GT V8 S ราคา 20.99 ล้านบาท

Bentley New Continental GTC V8 S ราคา 22.6 ล้านบาท

ขอขอบคุณ AAS Auto Service สำหรับกิจกรรมการทดสอบในครั้งนี้

ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver

13

ข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากเอเอเอสฯ ภายในงาน

• รับดอกเบี้ย 0 % นาน 3 ปี

• รับทันทีประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษนาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

• พร้อมทั้งรับการบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package)

พบ Bentley มือ 2 ได้ที่ Thaicar.com


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ