Lamborghini Huracan LP 620-2 Supertrofeo ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อวงการ Motorsport เตรียมประกาศความยิ่งใหญ่ในสนามแข่งระดับโลก ในการแข่งขันรายการ 2015 Lamborghini Blancpain Super Trofeo ทั้ง 3 Series ซึ่งจะจัดขึ้นในยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือ
โครงรถช่วงล่างติดตั้งโรลเคจน้ำหนักเบาเพียง 43 กิโลกรัมซึ่งคลุมไปจนถึงส่วนเพลาหลัง โดยสามารถรับแรงบิดได้มากกว่าเดิม 45% เมื่อเปรียบเทียบกับยานยนต์รุ่นก่อน โดยตัวเฟรมเป็นวัสดุไฮบริดผสมคาร์บอนอะลูมิเนียมซึ่งถูกออกแบบเพื่อรองรับพื้นที่สำหรับวางหม้อน้ำรุ่นใหม่ในส่วนหน้ารถและพื้นที่ติดตั้งกระปุกเกียร์สเปครถแข่งขันในส่วนท้ายให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ยานยนต์มีรูปทรงถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีน้ำหนักรถเปล่าเพียง 1,270 กิโลกรัม มีการกระจายน้ำหนักหน้า:หลังที่ 42/58
ขุมพลังเครื่องยนต์ เป็นแบบหัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่น V10 เช่นเดียวกับ Huracan LP 610-4 ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 620 แรงม้า ซึ่งเทียบมีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักตัว จะอยู่ที่ 2.05 กิโลกรัม/แรงม้า
ส่งกำลังลงสู่ล้อคู่หลังด้วยระบบ Triple Plate Clutch และระบบเกียร์แบบ XTrac Sequential Gearbox ซึ่งออกแบบมาสำหรับรถรุ่นนี้เพื่อใช้ร่วมกับหัวฉีดระบบไฟฟ้า
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ Huracan Supertrofeo คันนี้ได้จัดสรรพลังงานโดยกล่องควบคุมของ MOTEC M182 ที่สามารถควบคุมข้อมูล การเปลี่ยนเกียร์ และการแสดงผลบนจอแบบ TFT ซึ่งติดตั้งไว้ที่แผงหน้าปัดรถ พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานพิเศษอย่างระบบควบคุมล้อหมุนฟรี และระบบเบรกกันล้อล็อก (ABS) ของ Bosch Motorsport ซึ่งสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสภาพถนนและสภาพภูมิอากาศได้ถึง 12 รูปแบบอย่างง่ายดายจากปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย โดยพวงมาลัยยังถูกออกแบบให้เอื้อต่อการขับขี่ในสนามแข่งโดยเฉพาะ โดยเป็นผลงานการออกแบบร่วมกับ OMP
สำหรับไฟหน้าและไฟท้ายยังคงเป็นแบบแอลอีดี (LED) เช่นเดียวกับรุ่น LP 610-4
การออกแบบ ได้ดีไซน์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) พัฒนาขึ้นอย่างเหนือขั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในเรื่องแรงต้าน เพิ่มแรงฉุดและแรงกดสูงสุดในทุกสภาวะการขับขี่ รวมไปถึงการติดตั้งสปอยเลอร์ท้ายที่สามารถปรับได้ถึง 10 รูปแบบ อุปกรณ์ดิฟฟิวเซอร์ทั้งหน้าและหลัง และช่องลมเข้าด้านหน้าที่ปรับระดับได้ ยังช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับตัวรถได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับยางได้ใช้รุ่นพิเศษของ Pirelli ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อหลัง จึงต้องปรับใช้ยางขนาดใหม่ 305/660/18 ในด้นาหน้า และ 315/680/18 ทางด้านหลัง
นอกจากนี้ ช่วงล่างยังติดตั้งเหล็กกันโคลงแบบปรับได้ และ Damper Ohlins ปรับได้ 2 ทิศทาง ส่วนระบบเลี้ยวแบบไฮดรอลิคซึ่งใช้ปั๊มระบบไฟฟ้าในการช่วยบังคับ
สำหรับภายในห้องโดยสารตกแต่งสไตล์รถแข่ง ด้วยการเลือกใช้หนัง Alcantara สี Nero Ade ในการบุห้องโดยสารตลอดคัน
พบรถ Lamborghini มือ 2 ได้ที่ Thaicar.com
ความคิดเห็น