นิสสัน ประเทศไทย เดินหน้าส่งทัพสินค้าใหม่บุกตลาดที่เหลือปีนี้ เริ่มด้วยเอสยูวีที่ขายดีที่สุดของญี่ปุ่น 2014 นิสสัน เอ็กซ์-เทรล พร้อมรุ่นพิเศษ 3 รุ่น หวังรักษาแชร์ 9% ในปีงบประมาณนี้ ฟากอีโคคาร์มั่นใจสามารถปิดโครงการแรกตามกำหนด พร้อมเดินหน้าโครงการ 2 ภายใน 2-3 ปี
ประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นิสสันพร้อมที่จะเดินหน้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้ประเมินว่าตลาดรถยนต์จะซบเซาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และน่าจะมียอดจำหน่ายไม่เกิน 9 แสนคัน
นิสสันเองตั้งเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาด 9% ของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยในปีงบประมาณ 2557 (เมษายน 2557 - มีนาคม 2558) ดังนั้น จึงเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ 2014 นิสสัน เอ็กซ์-เทรล ที่จะเปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ 2 รุ่น ขนาด 2.0 ลิตรและ 2.5 ลิตรในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปีจะเดินหน้าทำตลาดด้วยรถยนต์รุ่นตกแต่งพิเศษอีก 3 รุ่น ประกอบไปด้วย นิสสัน มาร์ช สีฟ้า คาปริ บลู ที่เปิดตัวไปในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซลส์ ตามมาด้วยนิสสัน มาร์ช ลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนกระจังหน้าแบบประเทศญี่ปุ่น จำนวนจำกัดเพียง 600 คัน และปรับราคาเพียง 9,000 บาท
รวมไปถึงนิสสัน จู๊ค ชาโคล เกรย์ เอดิชั่น ซึ่งปรับในส่วนของห้องโดยสารสีแดงเป็นสีเทาและเงิน สำหรับลูกค้าที่ไม่ชอบห้องโดยสารเดิม รวมถึงมีการติดตั้งชุดแต่งและสติกเกอร์เพิ่มเติม โดยรุ่นพิเศษนี้จะจำหน่ายในราคาเดียวกับราคาของจู๊คในปัจจุบัน
สำหรับโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติโครงการลงทุนเพิ่ม 6,860 ล้านบาท เพื่อการผลิตรถยนต์เพิ่มอีกปีละ 1.23 แสนคันของนิสสันเป็นที่เรียบร้อย ก็คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ปี ก่อนที่จะเดินหน้าโครงการดังกล่าว
"สำหรับนิสสันเอง เราเชื่อมั่นจะสามารถทำตามข้อกำหนดของโครงการอีโคคาร์เฟสแรกที่จะต้องผลิตรถยนต์ 1 แสนคันในปีที่ 5 ของการผลิตได้อย่างแน่นอน จากนั้นเราก็จะเดินหน้าโครงการเฟสสองต่อ ซึ่งเชื่อว่าข้อกำหนดที่รัฐบาลตั้งไว้เป็นสิ่งที่เหมาะสมและอยู่ในขอบเขตที่ทำได้"
นิสสันเป็นผู้ประกอบการรายแรกของประเทศไทยที่ตัดสินใจเดินหน้าโครงการอีโคคาร์เฟสแรกอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัวนิสสัน มาร์ชและนิสสัน อัลเมร่า สำหรับโครงการที่ 2 นั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดในเรื่องของรถและเทคโนโลยีที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ประพัฒน์กล่าวว่าเชื่อว่าการอนุมัติโครงการอีโคคาร์ เฟสสองจะทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป โดยรถยนต์ขนาดเล็กจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และเชื่อว่าตลาดอีโคคาร์จะกลายเป็นตลาดใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ เหมือนในญี่ปุ่นที่เค-คาร์ครองส่วนแบ่งกว่า 40%
ความคิดเห็น