เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จัดงาน “Add Another Star” นำทัพรถหรู S 300 BlueTEC HYBRID Exclusive จำนวน 60 คัน ส่งมอบครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อใช้เป็นรถลิมูซีนบริการลูกค้าคนสำคัญของ 8 โรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาวของประเทศไทย
The new S-Class ถือเป็นยนตรกรรมหรู ที่คาดจะสามารถจำหน่ายได้สูงถึง 110,000 คันทั่วโลก ด้วยตัวเลขจำนวนนี้ ถือเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และยังทำให้ S-Class เป็นรถยนต์ซาลูนระดับพรีเมี่ยมที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยอัตราการเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก จึงยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์หรูในหลายประเทศทั่วโลก ทั้ง เยอรมนี, รัสเซีย, ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์เครื่องยนต์ไฮบริด เนื่องจากเป็นแบรนด์รถหรูรายเดียว ที่สามารถผลิตรถไฮบริดหรูภายในประเทศ จึงทำให้ลูกค้าสามารถซื้อ S Class Bluetech Hybrid ใหม่นี้ได้ในราคาที่เหมาะสม
สำหรับด้านธุรกิจฟลีทโรงแรม ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้รับความไว้วางใจจากผู้ให้บริการรถฟลีท (Fleet provider) รายใหญ่ของเมืองไทย อย่าง บริษัท เบลล์ ทรานสปอร์ต และบริษัทโอเรียนเต็ล ทรานซ์ แอนด์ คาร์ เซอร์วิส ที่เลือกใช้รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นที่ดีที่สุด มาให้บริการแก่โรงแรมระดับ 5 ดาวทั่วประเทศไทย นั่นก็คือ S 300 BlueTEC HYBRID Exclusive จำนวนทั้งสิ้น 60 คัน ถือเป็นการส่งมอบขบวนรถฟลีทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Mercedes-Benz โดยมีโรงแรมระดับ 5 ดาวของเมืองไทยทั้งสิ้น 8 โรงแรม ได้แก่ โรงแรมแชงกรี-ลา, โรงแรมโฟว์ ซีซั่นส์, โรงแรมเดอะ สุโขทัย กรุงเทพฯ,โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ, โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ, โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส โรงแรมชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท และโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ โดยให้ S Class Exclusive นี้มาเพิ่มเป็นดาวดวงที่ 6 ที่แสดงถึงมาตรฐานและคุณภาพขั้นสูงที่ทางโรงแรมเพื่อมอบแก่ลูกค้าคนพิเศษ
รถยนต์ S300 BlueTEC HYBRID Exclusive ใช้เครื่องดีเซล 4 สูบแบบไฮบริด มาพร้อมความพิถีพิถัน ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 7 สี และ 5 ระดับ ด้วยหลอดไฟแบบ LED จัดเต็มชุดเครื่องเสียงคุณภาพ Burmester® surround sound system โดยจะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับระบบ frontbass system ซึ่งเป็นระบบที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้พัฒนาเทคโนโลยีนี้และได้นำมาใช้ในรถยนต์ซาลูนเป็นครั้งแรก
S300 BlueTEC HYBRID ได้รวบรวมสุดยอดนวัตกรรม ที่เป็นครั้งแรกของโลกมาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น AIR-BALANCE package ระบบ active perfuming system ที่จะเพิ่มความสดชื่นและความรื่นรมย์มากขึ้น โดยการผลิตกลิ่นหอมที่มีให้คุณเลือกถึง 4 กลิ่น ซึ่งคุณสามารถปรับระดับความหอมได้ด้วยตนเอง ENERGIZING Massage ระบบนวดแบบผ่อนคลาย ที่ใช้หลักการนวดเหมือนการใช้หินร้อน ซึ่งสามารถเลือกโปรแกรมนวดได้ถึง 6 แบบ สำหรับเบาะนั่งด้านหลัง ซ้าย-ขวา โดยระดับความเร็ว และความหนัก-เบาของแรงกดจะแตกต่างกัน ตามแต่ละโปรแกรม
ในเบาะที่นั่งด้านหลังฝั่งซ้ายเป็นแบบ Executive Seat สามารถปรับเอนพนักพิงเพิ่มขึ้นได้ถึง 43.5 องศา ซึ่งเป็นองศาของการปรับเอนพนักพิงที่มากที่สุดในเซ็กเมนต์ของรถยนต์รุ่นนี้ ส่วนที่นั่งตอนหลังได้มีการเพิ่ม Chauffeur package ที่สามารถปรับเลื่อนเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าออกไปได้มากถึง 77 มม. ทำให้มีพื้นที่วางขาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นมาตรฐานใหม่ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ในเรื่องการพักผ่อนแบบสะดวกสบายตลอดการเดินทาง อีกด้วย
ความคิดเห็น