ลองขับ 2013 นิสสัน พัลซาร์ เทอร์โบ มีดีที่เครื่อง...เรื่องอื่นต้องปรับปรุง Share this

ลองขับ 2013 นิสสัน พัลซาร์ เทอร์โบ มีดีที่เครื่อง...เรื่องอื่นต้องปรับปรุง

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 15 October 2557

ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 350 คัน สำหรับ 2013 นิสสัน พัลซาร์ เทอร์โบ ที่ทางค่ายนิสสัน ประเทศไทย ทำการพัฒนามาเพื่อเอาใจนักเลงรถซิ่ง ด้วยคุณสมบัติที่เหนือชั้นมากมายในเรื่องของการขับขี่

แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นรถที่มาแบบลุ่ม ๆ ดอน ๆ จะด้วยเพราะเหตุผลของราคาจำหน่ายที่ปาเข้าไป 1.07 ล้านบาทก็ตามที หรือจะเป็นเพราะความไม่นิยมในตัวของพัลซาร์อยู่แล้วก็ตามที แต่ผ่านมาเกินครึ่งปี รถรุ่นนี้ก็ยังมีขายอยู่ในโชว์รูม

จริง ๆ แล้ว นิสสันเองก็ไม่ได้ทำตลาดนิสสัน พัลซาร์ในประเทศไทยได้ดีเลิศสักเท่าใด เพราะอย่างที่รู้อยู่ว่าบรรดาคู่แข่งในตลาดซี-เซกเมนต์นั้น นอกจากจะมีอยู่เยอะแยะเต็มไปหมดแล้ว แต่ละรายยยังถือว่าอาวุธครบมือ ทำให้ยากต่อการตีตลาดเป็นยิ่งนัก

เราคงไม่ปฏิเสธว่ารถยนต์คันนี้แรงจริงสมแก่การพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นรถยนต์ที่แรงที่สุดในคลาส ที่ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยมในเรื่องของการขับขี่ แต่แน่นอนว่าเมื่อทุ่มกำลังไปที่การพัฒนาเครื่องยนต์เป็นหลัก ก็ทำให้เกิดความหละหลวมในการปรับปรุงด้านอื่น ๆ

ลองติดตามกันดูครับว่ามันจะคุ้มค่ากับค่าตัวที่ต้องเสียไปหรือไม่...

IMG_1430

ภายนอกเดิม ๆ เติมสติกเกอร์ที่ควรแกะทิ้ง

ถ้าจะให้พูดถึงภายนอกของรถคันนี้ก็ต้องบอกว่าไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากรุ่นท๊อปของพัลซาร์เดิมเลยแม้แต่น้อย แถมยังตัดซันรูฟซึ่งทำให้รถดูหรูหราออกไปอีกต่างหาก ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุผลทางด้านการควบคุมต้นทุนเป็นหลัก

สติกเกอร์ด้านข้างรถที่ติดมานั้น ให้อารมณ์และบรรยากาศที่เหมือนไปขอยืมฟอนท์ตัวอักษรมาจากรถสปอร์ตพันธุ์แท้ยังไงก็ไม่รู้ ดูแล้วไม่เข้ากับตัวรถอย่างแรง แนเะนำว่าถ้าใครซื้อมาแล้วควรลอกทิ้งเป็นอย่างยิ่ง

ไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน โปรเจคเตอร์ ที่มาพร้อมระบบเปิด-ปิดและปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ แถมด้วยระบบล้างทำความสะอาดไฟหน้า ด้านหลังมีไฟเบรกดวงที่ 3 ขณะที่กระจังหน้าโครเมียมดูลงตัวและตัดกันกับรถสีดำที่นำมาทดสอบ

IMG_1441

เครื่องยนต์แรงสุดในคลาส ตอบสนองดีแต่ไม่สนาน

หากมองในเรื่องของการพัฒนาเพื่อให้เป็นรถยนต์ที่แรงที่สุดในคลาส ก็ต้องบอกว่าพัลซาร์ เทอร์โบคันนี้สอบผ่านในหัวข้อนี้แบบฉลุย เพราะแรงดึงของรถขณะกดคันเร่งลงไปนั้นถือเป็นโมเมนต์ที่น่าสนใจสำหรับสิงห์นักขับทุกคน

เครื่องยนต์ MR16DDT ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ขนาด 1.6 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที พร้อมให้แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตรแบบแฟลตทอร์ค ตั้งแต่ 2,400-5,200 รอบต่อนาที

เกียร์อัตโนมัติที่นำมาสวมแม้จะเป็นเกียร์ซีวีที แต่ก็เป็นคนละรุ่นกับที่พัลซาร์ธรรมดาใช้อยู่ แถมยังมาพร้อมฟังชั่นส์การเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตนเองแบบ 6 สปีด ซึ่งก็ช่วยในเรื่องของการขับขี่มากพอสมควร แต่จริง ๆ โหมดขับขี่ธรรมดาก็เพียงพอแล้ว

นิสสันคุยว่าเครื่องยนต์มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายเพื่อช่วยในเรื่องของการขับขี่และระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบผิวเพลาลูกเบี้ยวด้วยเทคโนโลยีนาโน วาล์วไอเสียหล่อเย็นด้วยโซเดียม รวมถึงช่องหล่อเย็นพิเศษในลูกสูบ

IMG_1445

ภายในไม่แตกต่าง ใส่เทคโนโลยีเสริมปลอดภัย

ในภาพรวมของการออกแบบภายในแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย ที่เห็นได้ชัด ๆ ก็จะมีซันรูฟที่หายไป เกียร์แบบใหม่ มาตรวัดที่ปรับเปลี่ยนในรายละเอียดเล็กน้อย ที่เหลือนั้นเรียกว่ายกมาจากรุ่นเดิม ๆ เลยก็ไม่ผิด

ที่น่าสนใจก็คือการติดตั้งถุงลมมาเพิ่มให้ โดยในคู่หน้าเป็นแบบ SRS และใส่ถุงลมด้านข้าง พร้อมด้วยม่านถุงลมเข้ามา ขณะที่พวงมาลัยยังเป็นแบบมัลติฟังชั่นส์ เพื่อใช้คุมเครื่องเสียง โทรศัพท์และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

เบาะหนังที่ไม่ค่อยกระชับกับตัวสักเท่าไรนัก ขณะที่วัสดุที่ใช้ในการออกแบบคอนโซลหน้านั้นต้องบอกว่าให้บรรยากาศแบบรถยนต์เก่า ๆ ที่ไม่ได้เข้ากันกับเครื่องยนต์และสมรรถนะการขับขี่เลยแม้แต่น้อย

จริงอยู่ที่นิสสันเองก็ใส่เทคโนโลยีเกือบทั้งหมดที่มีอยู่มาให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกุญแจอัฉริยะ หรือระบบล็อครถตามความเร็วของรถ แต่เมื่อนั่งอยู่ในห้องโดยสารของรถแล้ว คำถามที่อยู่ในใจก็คือ นี่คือห้องโดยสารของรถคันละล้านจริงหรือนี่

IMG_1424

ชื่นชมในความพยายาม แต่ยังต้องทำเพิ่มอีกเยอะ

หลังจากเอามาลองขับอยู่ 2-3 วัน ผมได้ข้อสรุปว่าทำไมเราจึงไม่ค่อยเห็นพัลซาร์ เทอร์โบ วิ่งไปมาบนท้องถนนมากนัก ทั้งที่ในช่วงที่ยังไม่เปิดตัวหรือตอนที่เปิดตัว ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีอยู่เหมือนกันที่นิสสันตัดสินใจนำเข้ามาทำตลาด

ปัญหาแรกก็คือแม้เครื่องยนต์จะมีสมรรถนะที่เหนือชั้น ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมทั้งในเรื่องของการออกตัว การเร่งแซง การทำความเร็วสูง ๆ รวมไปถึงเรื่องการของการหยุดด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อพร้อมจานเบรกที่ใหญ่ขึ้น

แต่ปัญหาในเรื่องของการขับขี่กลับอยู่ที่ช่วงล่างของรถที่แม้นิสสันจะบอกว่าได้รับการปรับแต่งให้สปริงและโช๊คแข็งหนึบขึ้นแล้วก็ตาม แต่มันก็ดูไม่ค่อยจะรองรับกับเครื่องยนต์ที่ให้มาสักเท่าไรนัก

IMG_1447

ถ้าคุณกระโดดขึ้นรถคันนี้เป็นครั้งแรก แล้วกดคันเร่งพร้อมบอกกับตัวเองว่าช่วงล่างเหมือนจะเอาไม่อยู่ แล้วปลอบตัวเองว่าอาจจะแค่ไม่ชินกับรถหรือเปล่า คุณก็จะเกิดความรู้สึกแบบนี้ต่อไปอีกสักระยะ จนท้ายสุดมันก็จะกลายเป็นความเคยชินไป

ความรู้สึกหลอน ๆ นั้นจะเริ่มหายไปในช่วงความเร็วระดับปานกลางไปแล้ว จากนั้นการลากรถให้เลื่อยไปบนท้องถนนด้วยความสนุกสนานก็จะเข้ามาแทนที่ และรถเล็กที่มาพร้อมเกียร์ซีวีทีคันนี้ ก็จะพาคุณวิ่งผ่านความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปอย่างไม่ยากเย็น ถ้ามีที่ทางให้วิ่งพอ

เรื่องถัดมาก็คือความรู้สึกของลูกค้าที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงิน 7 หลัก เพื่อแลกกับรถยนต์ขนาดกลางทั้งที่บวกอีกนิดก็ขึ้นไปเล่นรถใหญ่กว่าได้แล้ว ความคาดหวังของลูกค้าคงต้องการอะไรที่มากกว่ารถรุ่นคล้าย ๆ กันที่ทำตลาดอยู่

IMG_1434

หันกลับไปดูรุ่นท๊อปของพัลซาร์ที่ถูกกว่า แต่กลับมีอุปกรณ์มาให้มากกว่าเสียด้วยซ้ำ เป็นลูกค้าที่กำลังจะเดินไปซื้อก็คงมีแอบขวัญเสียเบา ๆ ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะไปซื้อรถคันนี้เพราะความแรงของรถแท้ ๆ

จริง ๆ แล้วโดยส่วนตัวผมชื่นชมนิสสันที่ตัดสินใจเดินหน้าเอารถแบบนี้เข้ามาทำตลาดนะครับ เพราะถือเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย รายใหญ่บางรายยังไม่กล้าทำเลย แต่ก็แค่เสียดายที่รถอาจจะยังตอบสนองได้ไม่เต็มที่

ลองดูใหม่นะครับ มาถูกทางแล้วแต่ยังไม่ค่อยถูกใจลูกค้าคนไทยเท่านั้นเอง!!!

IMG_1448

รายละเอียดทางเทคนิค 2013 นิสสัน พัลซาร์ เทอร์โบ

ราคาจำหน่าย 1.07 ล้านบาท
เครื่องยนต์ เบนซิน เทอร์โบ 1.6 ลิตร
กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตรที่ 2,400-5,200 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติซีวีที 6 สปีด

IMG_1427

ขอขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับรถยนต์ทดสอบ

ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com และเฟซบุ๊ค Autospinn.Fans

ชมภาพ 2013 นิสสัน พัลซาร์ เทอร์โบ เพิ่มเติมได้ ที่นี่

IMG_1433


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ