[Advertorial] Better Race Better tyre for Better Future กับการแข่งขัน Formula E Share this

[Advertorial] Better Race Better tyre for Better Future กับการแข่งขัน Formula E

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 01 November 2557

การแข่งขันรถ Formula E ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้แก่วงการแข่งรถ เนื่องจากเป็นการปฏิวัติการแข่งที่ขัดแย้งกับการแข่งรถทั่วๆไปที่จะสิ้นเปลืองทั้งพลังงานและการใช้ยางที่สร้างมลพิษ Formula E จึงถูกจัดแข่งขึ้นบนแนวคิดที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากรถเป็นพลังงานไฟฟ้า 100% ไร้ซึ่งมลพิษและจำกัดปริมาณยางในการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้ใช้ยางน้อยลงด้วยโดย การแข่งขัน Formula E นั้นจะมีขึ้นทั้งหมด 10 สนามใจกลางเมือง ซึ่งรถแต่ละคันจะเปลี่ยนยางได้เพียง10 เส้นเท่านั้น นับรวมรอบซ้อม, Qualified และการแข่งจริง

รูปแบบการแข่งขันที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่กลับท้าทายทุกอย่างของคนในวงการรถยนต์ตั้งแต่นักแข่ง วิศวกร รวมถึงผู้ผลิตยางรถยนต์เพื่อการแข่งขันครั้งนี้ เพราะการผลิตยางเพื่อรถเครื่องยนต์ไฟฟ้าถือว่าเป็นสิงใหม่ที่ยากอยู่แล้ว แต่การผลิตยางบนเครื่องยนต์แบบใหม่และให้การวิ่งได้ยาวนาน บนที่ใช้กันทั่วไป ไม่ใช่สนามแข่ง และต้องวิ่งได้ทุกสภาวะไม่ว่าจะแห้งหรือเปียกและเน้นการเปลี่ยนยางให้น้อยที่สุด คือโจทย์สุดหิน ที่ต้องใช้ความทุ่มเท และประสบการณ์ที่คัดกลั่นมาอย่างดีถึงจะทำได้

formula-e-electric-race-car_100433286_l

MICHELIN จึงได้ถูกเลือกให้เป็น Official Partnership ตลอดการแข่งขันด้วยประสบการณ์อันมากเหลือบนเวทีมอเตอร์สปอร์ตบวกกับการเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมใหม่บนวงการยางรถยนต์ MICHELIN ได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อคิดค้นเทคโนโลยี ในการผลิตยางที่ใช้แข่งขัน Formula E โดยเฉพาะ

ความท้าทายของ MICHELIN คือการผลิตยางบนการแข่งขันที่รูปแบบของกฏกติกาต่างจากความคุ้นเคย ทั้งเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่ง จำนวนยางที่เปลี่ยน หรือสนามทีใช้ ยางต้องมีประสิทธิภาพดีทุกการแข่งบนเครื่องยนต์ไฟฟ้า100% นอกจากนี้ การแข่งถูกจำกัดด้วยจำนวนยางที่สามารถใช้ได้ หมายความว่ายางต้องเด่นเรื่อง Longevity มากๆและการวิ่งนั้นยังต้องทำได้ดีทั้งบนพื้นแห้งและเปียก รวมไปจนถึงทุกสภาวะอากาศในยางเส้นเดียว ทั้งหมดข้างต้น กลายเป็นโจทย์ที่ทีมออกแบบยาง MICHELIN Sport EV ค่อยๆเรียบเรียงหาวิธีพัฒนาอย่างเป็นสัดส่วน โดยได้อาศัยวิศวกรผู้มีประสบการณ์จากการออกแบบยางสำหรับรถ American Le Mans มาเป็นคนดูแล จากประสบการณ์บน Endurance racing สิ่งที่ท้าทายอีกสิ่งคือสนามแข่งจริงเป็นถนนหลวงที่ไม่สามารถไปวิ่งทดสอบกันบนพื้นแข่งจริงได้ รวมถึงสภาพพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบ อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อจากเส้นแบ่งเลนถนน MICHELIN จึงได้จำลองการออกแบบทดสอบบนเครื่อง Simulator ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วกับการออกแบบยางสำหรับรถ Delta Wing ปี 2012

FIA_Formula_E_Championship_unveiling_IAA_rear_left

จนกลายมายาง MICHELIN Sport EV ที่ผสานความสามารถทั้งยาง Slick และ ยาง Wet เข้าด้วยกัน ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ายางแข่งรถปกติที่ 18” และมีหน้ากว้างที่แคบลง เพื่อลดแรงเสียดทาน และช่วยให้การหมุนล้อต่อรอบมีระยะทางที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น MICHELIN ยังได้บุกเบิกวงการยางครั้งใหม่ ด้วย MICHELIN Sport EV ได้รับการฝังชิพ RFID (Radio Frequency Identification Device) ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามสภาพยางตั้งแต่ออกจากโรงงานจนส่งกระทั่งส่งกลับไปยังโรงงาน และในเทคโนโลยีใหม่นี้ MICHELIN ได้อนุญาติให้นำเทคโนโลยีลิขสิทธ์นี้ไปใช้งานได้ เพื่อสร้างให้เป็นมาตราฐานเดียวกัน

ทั้งหมดเป็นเครื่องพิสูจน์ความก้าวล้ำของยาง MICHELIN และทีมงาน ที่ไม่หยุดคิดถึงสิ่งที่ดีกว่า เพื่อการแข่งขัน เพื่อคนที่ชื่นชอบความเร็ว เพื่อโลกของเรา และได้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้พัฒนายางจริงๆลงสู่ถนนจริงๆ เพื่อเป็นยางให้ผู้บริโภคทุกคนได้งานจริงๆ


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ