หลังจากตลาดรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็กทวีความดุเดือดเลือดพล่านมากขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของฮอนด้า เอชอาร์-วี ล่าสุดเซกเมนท์รถเอสยูวีขนาดคอมแพกต์-มิดไซส์ก็มีแนวโน้มว่าจะแข่งขันกันสนุกมากขึ้นเช่นกัน เมื่อนิสสันเปิดตัวนิสสัน เอ็กซ์-เทรล (Nissan X-Trail) รุ่นใหม่ออกทำตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการ
ถึงแม้ตลาดรถคอมแพกต์-มิดไซส์เอสยูวีของบ้านเราจะมียอดขายไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับรถเซกเมนท์อื่นๆ แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญเพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มีอายุระดับปานกลางและมีกำลังซื้อค่อนข้างสูงซึ่งถ้ามีความประทับใจในตัวรถก็มักมีความภักดีต่อแบรนด์และสามารถบอกต่อหรือแนะนำให้เพื่อนฝูงตัดสินใจเลือกใช้แบรนด์นั้นๆ ต่อไปได้
การออกแบบ
นิสสัน เอ็กซ์-เทรล: เปิดตัวออกสู่ตลาดโลกตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ได้เปรียบในเรื่องความสดใหม่ในการทำตลาดประเทศไทย เอ็กซ์-เทรลใหม่ผลิตบนแพลทฟอร์ม Common Module Family ซึ่งเกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Nissan และ Renault รูปลักษณ์ถ่ายทอดจากรถต้นแบบนิสสัน ไฮครอส คอนเซ็พท์ซึ่งมีความโฉบเฉี่ยวและดูสปอร์ตมากขึ้น ลบภาพความบึกบึนและรูปทรงเหลี่ยมกล่องของรุ่นก่อนหน้าไปจนหมดสิ้น กรอบไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟเดย์ไลท์ ดีไซน์ในภาพรวมมีความทันสมัยอย่างมาก
ภายในห้องโดยสารของเอ็กซ์-เทรลถือเป็นจุดเด่นที่สุดของตัวรถเลยก็ว่าได้ สื่อต่างประเทศหลายแห่งยกให้เป็นวิวัฒนาการที่ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าอย่างเทียบกันไม่ติด มาพร้อมความหรูหราและบรรยากาศแบบพรีเมียม แต่ก็ถูกตำหนิว่าสูญเสียเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปมากทีเดียว อ็อปชั่นมีจอแสดงผลแบบสามมิติขนาดห้านิ้ว กล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา หลังคาซันรูฟพาโนรามิค ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ เบาะเป็นแบบ 5+2 ที่นั่ง ถือว่าเน้นทั้งความสะดวกสบายและบรรยากาศความหรูหรามากเป็นพิเศษ
มาสด้า ซีเอ็กซ์ 5: คงมีน้อยคนที่จะปฏิเสธความโดดเด่นด้านงานดีไซน์ของมาสด้าในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เริ่มประยุกต์ใช้เอกลักษณ์การออกแบบ Kodo Design ก็ทำให้รถมาสด้าทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก สำหรับซีเอ็กซ์-5 มีความสปอร์ตและทันสมัยผสมผสานกันอย่างลงตัว แฝงด้วยความดุดันและบึกบึน ล้ออัลลอยในรุ่นท็อปยัดมาให้ถึงขนาด 19 นิ้ว หุ้มยางโตโย 225/55 R19 หน้าตาภายนอกถือว่าสอบผ่านฉลุย
ก้าวเข้ามาดูในห้องโดยสารยังคงเน้นความสปอร์ตและเคร่งขรึมด้วยการใช้สีดำเป็นหลักที่น่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่เป็นอย่างดี เบาะตอนหลังพับได้แบบ 40:20:40 พร้อมกับสามารถพับให้แบนราบได้เพื่อเพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระเป็น 1,390 ลิตร ถึงจะไม่มากที่สุดในกลุ่มนี้แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานแบบไม่สมบุกสมบันจนเกินไป อ็อปชั่นถือว่าครบครันตามสูตร ทั้งเบาะปรับไฟฟ้า ระบบแอร์แยกส่วนดูอัลโซน ปุ่มสตาร์ท ครูสคอนโทรล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ หน้าจอตรงกลางคอนโซล
แต่จุดด้อยที่มีเสียงบ่นลอยตามลมมาก็คือการขาดระบบแอร์ตอนหลัง พื้นที่โดยสารค่อนข้างแคบ แถมเบาะยังออกแบบให้แข็งแน่น เน้นอารมณ์สปอร์ตที่อาจไม่โดนใจผู้มีอายุเท่าใดนัก
ฮอนด้า ซีอาร์-วี: เปิดตัวทำตลาดเมืองไทยนานกว่าใครเพื่อน แต่เพิ่งได้รับการปรับไมเนอร์เชนจ์เล็กๆ เพิ่มความสดใหม่กันไปเมื่อไม่นานนี้ รูปลักษณ์ภายนอกของ CR-V ใหม่เน้นภาพลักษณ์หรูหรา ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวันแบบ LED เสริมความทันสมัยและสะดุดตาด้วยวัสดุโครเมียมรอบคัน ดีไซน์ในภาพรวมของซีอาร์-วีเหมาะสำหรับลูกค้าในวงกว้าง ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายในหลากหลายช่วงอายุ
ภายในห้องโดยสารถูกอัพเกรดอุปกรณ์มากมาย ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วแบบ Advanced Touch พร้อมรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และการเชื่อมต่อ Smart Phone (ในบางรุ่น) ช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 2 จุด พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น สวิตช์ควบคุมระบบ i-MID พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์บลูทูธและระบบนำทางเนวิเกเตอร์ รวมถึงระบบปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
อย่างไรก็ดี ลูกค้าที่มองหารถอเนกประสงค์ของฮอนด้าแต่ไม่อยากได้ซีอาร์-วีเพราะอาจดู “แก่” และ “ใหญ่” เกินไปก็สามารถขยับลงไปเลือกฮอนด้า เอชอาร์-วีได้ ซึ่งมีความสดใหม่กว่าและมีค่าตัวเฉียดล้านบาทในรุ่นเริ่มต้น
เครื่องยนต์:
นิสสัน เอ็กซ์-เทรล: มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัสเอ็มอาร์20ดีดีใหม่ พร้อมระบบหัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่นติดตั้งในรุ่นนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พละกำลัง 144 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร ขณะที่เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้พลัง 171 แรงม้า แรงบิด 233 นิวตันเมตร โดยรุ่น 2.0 ลิตร มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ส่วนรุ่น 2.5 ลิตรเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทีน่าเสียดายคือทางนิสสันไม่ได้ทำตลาดรุ่นดีเซลเหมือนกับประเทศอื่น
นิสสันเคลมว่าเครื่องยนต์เบนซินที่ติดตั้งในเอ็กซ์-เทรล ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ลดการเสียดสี และเพิ่มช่วงอัตราทดเกียร์เพื่อช่วยให้เสริมประสิทธิภาพอัตราเร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยมาพร้อมกับเกียร์เอ็กซ์-ทรอนิก CVT รุ่นใหม่ พร้อมระบบแมนวลโหมดแบบ 7 สปีด สำหรับสมรรถนะการขับขี่เราจะรายงานให้รับชมกันอีกครั้งในอีกไม่ช้า
มาสด้า ซีเอ็กซ์ 5: โดดเด่นกว่าใครเพื่อนเพราะมีเครื่องยนต์ให้เลือกสรรกันถึง 3 รุ่น เริ่มจากเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร SKYACTIV-G 2.5 ลิตร พละกำลัง 192 แรงม้า แรงบิด 256 นิวตันเมตร ปิดท้ายด้วยดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร พลัง 175 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หากพิจารณาจากยอดขายแล้วถือว่าทั้งรุ่นเบนซินและดีเซลได้รับความนิยมสูสีกันมาก โดยรุ่นเบนซินเหนือกว่าเล็กน้อย แต่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและระบบ i-Stop จะมีเฉพาะในรุ่นดีเซลเท่านั้น
ต้องยอมรับว่ามาสด้าประสบความสำเร็จในการสร้างชื่อเสียงให้เทคโนโลยี SKYACTIV (จนสื่อนอกถึงกับล้อเลียนว่าคิดอะไรไม่ออกให้บอก SKYACTIV) ทั้งขุมพลัง โครงสร้างตัวรถ เกียร์ ช่วงล่างและระบบอื่นๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความโดดเด่นในตัวของเทคโนโลยีนี้ที่สัมผัสได้จริง อย่างไรก็ตาม นักทดสอบของเราหล่นความเห็นว่าขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตรอาจจะอืดอาดไปสักหน่อย ถ้าต้องการความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมืองและการพาครอบครัวออกเที่ยวต่างจังหวัดได้อย่างสะดวกสบาย อาจต้องพิจารณารุ่นเบนซิน 2.5 ลิตรหรือดีเซล 2.2 ลิตรที่มีแรงบิดสูง
ฮอนด้า ซีอาร์-วี: โฉมไมเนอร์เชนจ์ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ขนาด 2.4 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์วที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dream) ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT ใหม่ ให้สมรรถนะและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีดให้เลือกสรรกันด้วย
บุคลิกการขับขี่ของซีอาร์-วีเน้นที่ความนุ่มนวลและลื่นไหลตามสไตล์รถฮอนด้าเกือบทุกรุ่น เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั้งในเมืองและนอกเมือง บรรยากาศภายในห้องโดยสารเน้นความเงียบสงบและให้ความรู้สึกพรีเมียม ซึ่งตรงกับกลุ่มลูกค้าของเอ็กซ์-เทรล แต่แตกต่างกับลูกค้าส่วนใหญ่ของซีเอ็กซ์-5 ที่ชื่นชอบคาแร็คเตอร์แนวสปอร์ตมากกว่า
สรุป
นิสสัน เอ็กซ์-เทรลเคาะราคาจำหน่ายสุดกระชากใจเริ่มต้นที่ 1.172 ล้านบาทเท่านั้นไปจนถึงรุ่นท็อปไลน์ 1.551 ล้านบาท สำหรับฮอนด้า ซีอาร์-วีเคาะเริ่มต้นรุ่น 2.0S อยู่ที่ 1.2 ล้านบาทถึงรุ่นท็อป 2.4 EL 4WD ที่ 1.58 ล้านบาท ปิดท้ายด้วยมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 รุ่นเบนซินเริ่มต้น 1.2 ล้านบาทถึง 1.44 ล้านบาท ขณะที่รุ่นดีเซลตัวท็อปมีค่าตัวแพงสุดในคลาสนี้ 1.67 ล้านบาท
รถเอสยูวีทั้งสามรุ่นมุ่งทำตลาดลูกค้าสองกลุ่มหลัก ฝั่งหนึ่งเป็นแนวหรูหราพรีเมียมคือซีอาร์-วีและเอ็กซ์-เทรล อีกฝั่งเน้นแนวสปอร์ตอย่างซีเอ็กซ์-5 ซึ่งน่าจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ควรตัดอ็อปชั่นการเลือกรุ่นเล็กลงไปอย่างฮอนด้า เอชอาร์-วีที่มีอ็อปชั่นจัดเต็มด้วยราคาถูกกว่า แต่ก็มีขนาดเล็กกว่าพอสมควรซึ่งควรชั่งใจให้รอบคอบ
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนถ้าจะเลือกรถเอสยูวีกลุ่มนี้ คือ ความสะดวกสบายในการใช้งานและความอเนกประสงค์ในห้องโดยสารที่ควรจะเป็น “จุดเด่นหลัก” ของรถเอสยูวีระดับนี้ ซึ่งหนทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้คือการสัมผัสตัวจริงเสียงจริงกันที่โชว์รูม
ที่น่าสนใจก็คือนิสสันนำเสนอแคมเปญสำหรับเอ็กซ์-เทรล “โปรเทคชั่นแพลน” ฟรีค่าบำรุงรักษาเป็นเวลา 3 ปีหรือ 6 หมื่นกิโลเมตร ถือเป็นแต้มต่อที่น่าสนใจอย่างมาก เชื่อว่าฮอนด้าและมาสด้าคงไม่อยู่เฉยๆ อย่างแน่นอน
ความคิดเห็น