พรุ่งนี้แล้วที่จะเป็นรอบสื่อมวลชนสำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมงานในวันเสาร์ไปจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2557 นี้ ซึ่งงานนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยู่ในปัจจุบัน
แต่กับผู้จัดงานอย่าง ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014 ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมานับครั้งไม่ถ้วนกลับมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่
แถมยังประกาศความมั่นใจด้วยการตั้งเป้าหมายจำนวนผู้ชมที่จะเข้ามาชมงานมากถึง 1.5 ล้านคน พร้อมด้วยยอดจองรถยนต์ในงานไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคัน เมื่อรวมกับยอดจำหน่ายสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ ก็น่าจะสร้างเม็ดเงินสะพัดในงานถึง 6 หมื่นล้านบาท
"ปีนี้ตลาดรถยนต์ก็คงตกแหละนะ เพราะที่ผ่านมาตลาดหดตัวไปประมาณ 30% ซึ่งหากสถานการณ์เป็นแบบนี้ ตลาดรวมก็น่าจะปิดที่ระดับ 8 แสนกว่าคัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลัก ๆ ที่ได้รับผลกระทบก็คือระดับกลางลงไป ขณะที่กลุ่มบนยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ"
อย่างไรก็ตาม ในการจัดงานมหกรรมยานยนต์นั้น เขายืนยันว่ายังได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่ผู้ผลิตรถยนต์ 40 ยี่ห้อจาก 13 ประเทศ ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ 12 ยี่ห้อจาก 7 ประเทศ และผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องอีกกว่า 300 รายยังตบเท้าเข้าร่วมจัดงานในปีนี้
"เราได้รับเกียรติจากสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลกให้เข้าเป็นสมาชิก และให้การรับรองงานมหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าระดับโลก นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย"
ทัั้งนี้ ขวัญชัยประเมินภาพรวมของตลาดรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีว่า ผู้ประกอบการน่าจะเดินหน้าผลักดันตลาดอย่างเต็มที่ เห็นได้จากสินค้าและโปรโมชั่นที่จัดกันอย่างรุนแรงภายในงานนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการกระตุ้นตลาดในช่วงที่เหลือ
สำหรับในปี 2558 นั้น เขายังมั่นใจว่าอุตสาหกรรมยานยนต์น่าจะกลับมามีการเติบโตอีกครั้งหนึ่ง จากความเชื่อมั่นทางการเมืองและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายกลับมาได้ประมาณ 5-7%
และหวังว่า มอเตอร์ เอ็กซ์โป จะเป็นสปริงบอร์ดที่สำคัญในการส่งอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งนับจากนี้...
LINE
ความคิดเห็น