เมื่อวันที่ 27 พย. ที่ผ่านมา TC Subaru ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถยนต์ ซูบารุ 2 โมเดลใหม่ 2015 ซูบารุ เอาท์แบ็ค และ 2015 ซูบารุ เลกาซี่ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในอาเซียน โดยรุ่นที่จะขายในไทยนั้น จะมีเพียง เอาท์แบ็ค เพียงโมเดลเดียวเท่านั้น ในพิกัดเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร เพียงเท่านั้น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ 2.5i และ 2.5i-S
และในงานครั้งนี้เอง ทาง เราก็ได้มีโอกาสได้ทดสอบ สมรรถนะของรถยนต์ Crossover ที่แฝงความอเนกประสงค์ในรูปแบบ SUV หรู คันนี้กันก่อน การเปิดเผยโฉมจริงในงาน Motor Expo ครั้งนี้ด้วย
2015 เอาท์แบ็ค ใหม่ มีดีไซน์ที่ดูหรูหรา และ ดูจะได้รับการถอดแบบมาจากโฉมคอนเซ็ปท์เป็นอย่างมาก ทั้งจากดีไซน์กรอบไฟหน้าที่ดูโฉบเฉี่ยว กระจังหน้ารูปทรงหกเหลี่ยมที่กลมกลืนกับกันชนเป็นชิ้นเดียว ฝากระโปรงทำด้วยอลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนักบนเพลาล้อหน้า นอกจากนั้นระยะ Ground Clearance (ที่ระยะห่างจากพื้นถนน) ยังมีมากถึง 220 มม ซึ่งเหนือกว่ารถเอสยูวีเต็มรูปแบบบางรุ่น
สำหรับการขับทดสอบใน Track จำลองครั้งนี้ ได้แบ่งการขับออกเป็น 2 ช่วง ช่วงทดสอบสมรรถนะบนทางเรียบ ซึ่งประกอบไปด้วย ช่วงอัตราเร่ง, Slalom, Lane Changed ก่อนที่จะไปขับในรูปแบบ Off-road ซึ่งจะต้องเปิดระบบ X-Mode เข้าช่วย
ในรถคันนี้ ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบเรียงนอน DOHC กำลัง 175 แรงม้า@5,800rpm แรงบิด 235Nm@4,000rpm ส่งกำลังด้วยเกีย์ Lineartronic CVT ลงสู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 7.7 ลิตร/100 กม. ขณะที่โฉมเก่ามีอัตราบริโภค 9.1 ลิตร/100 กม. พร้อมคายไอเสียก็น้อยกว่าเดิม ด้วยที่ระดับ 177 กรัม/กม. ขณะที่รุ่นเดิมอยู่ที่ 214 กรัม/กม.
ในช่วงแรก ทันทีที่ออกตัวกดคันเร่งจนสุด จะพบว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรที่ปรับใหม่ ให้มีพละกำลังมากกว่าเดิม อยู่ที่ 175 แรงม้า โดยส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT ยังคงให้การตอบสนองที่สมูทราบรื่น จากความรู้สึกในส่วนของอัตราเร่ง มันทำได้ดีในระดับรถยนต์ Midsized ซีดาน พิกัด 2.4-2.5 ลิตร เมื่อความเร็วถึงระดับ 80 กม./ชม. ก็จำต้องถอนคันเร่งและ เบรกเพื่อทำการเลี้ยว U-Turn ในวงแคบ ซึ่ง การเบรกก็ถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับรถยนต์นั่งหรู ที่เน้น Riding Comfort ทั้งการเบรก และอาการของช่วงล่างที่ผ่อนคลายนั่งสบายยิ่งกว่ารถยนต์ SUV คันไหนๆ แต่จุดสังเกตุหนึ่ง คือ พวงมาลัย ดูจะค่อนข้างหนักไปสักเล็กน้อยกับการควบคุมที่ความเร็วต่ำ ต้องออกแรงเพิ่มขึ้นหน่อย ในช่วงการเลี้ยว U-Turn ในวงแคบเช่นนี้ และต่อมาที่การทดสอบ Slalom Handling ซึ่ง Instructor ได้แนะนำ ให้เราใช้ความเร็วที่ระดับ 40 กม./ชม. เนื่องจาก พื้น Track เปียกฝน ซึ่งการเข้าที่ความเร็ว 40 กม./ชม. นั้นดูจะช้าเกินไป ซึ่งรถสามารถขับขี่ผ่านไปได้อย่างสบายโดยที่ไม่มีอาการเหวี่ยงโยนตัวแต่อย่างใด ซึ่งผู้เขียนคาดว่า น่าจะเข้าได้ถึงระดับความเร็ว 60 กม./ชม. ได้โดยไม่เสียการยึดเกาะ และต่อมาที่การทดสอบ ในช่วง Lane Changed Instructor ได้แนะนำ ให้ใช้ความเร็วที่ระดับ 40 กม./ชม. เช่นกัน ซึ่งได้แนะนำให้หักวงเลี้ยวในระยะประชิดกับไพล่อน เพื่อทดสอบระบบ Symmetical AWD และระบบ VDC จากการเข้าค่อนข้างกระชั้นชิด กับ ไพล่อนที่ระดับความเร็ว 40 กม./ชม. หักหลย ขวา-ซ้าย เราพบว่า อาการโยนตัวเนื่องจากเป็นรถยกสูง นั้นมีมาให้เห็น แต่ในช่วงที่ตวัดพวงมาลัยกลับมาทางขวา ระบบ VDC ได้ทำงาน และการหักพวงมาลัยกลับแบบ Counter Steer ทำให้รถกลับมาตั้งตรงได้อย่างง่ายดาย ต้องบอกได้เลยว่า แม้ช่วงล่างจะ Ride Comfort นั่งสบายได้ผ่อนคลาย มากกว่ารถยนต์ SUV หรูจากยุโรป และ รถ SUV จากญี่ปุ่นหลายค่าย แต่มันไม่ทิ้งความยึดเกาะถนนในแบบฉบับของ ดาวลูกไก่ แต่อย่างใด
ต่อมาจะเข้าสู่ Station ของทาง Off-Road ซึ่งจะต้องกดปุ่มเปิดระบบ X-Mode เสียก่อน ซึ่งระบบนี้จะเน้นการทำงานของระบบ Traction Control ที่ Sensitive มากกว่าเดิม และจะลากเกียร์ 1 ยาวขึ้น เพื่อให้มี Engine-Brake ในการหน่วงชะลอความเร็วรถ จากการขับทดสอบในช่วงนี้อาจรู้สึกหวาดเสียวได้นิดๆ จากการโยกเยกของตัวรถ ในช่วงที่ขึ้นฐานล้อยก แต่ระบบก็สามารถช่วยตัดกำลังจากล้อฟรี ทำให้เพิ่ม Grip การยึดเกาะในล้อที่อยู่บนพื้นได้อย่างมี ประสิทธิภาพ แต่ในช่วงจังหวะที่ทดสอบ Traction Control บนหลุม พบว่าอาจต้องระวังในการเติมคันเร่งเสียหน่อย ต้องค่อยๆ คลอคันเร่งออก เพราะหากเติมคันเร่งมากไป ระบบ Traction จะตัดการทำงานทันที และการที่ล้อหมุนฟรีอาจทำให้ตัวรถส่ายเอียงได้ ถัดมาที่การทดสอบระบบ HDC (ช่วยลงทางลาดชัน) ซึ่งระบบนี้เราสามารถยกเบรก และปล่อยรถไหลลงได้ทันที เพราะระบบจะใช้ Engine Brake ของเกียร์ 1 และหากชันมากๆ ระบบก็จะเสริมแรงเบรกเข้าช่วยอีกด้วย
สรุปเบื้องต้น 2015 ซูบารุ เอาท์แบ็ค ใหม่ ดีไซน์ทันสมัย กว่าเดิม สมรรถนะดีเหมือนเดิม แต่ไม่ทิ้งความสบายในการโดยสาร ขณะที่ออปชั่น มาแบบจัดเต็ม และดูดีกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าจะเป็นรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน และทำให้มีราคาสูง แต่ทว่า หากเทียบกับรถ SUV หรูจากฝั่งยุโรป แล้ว เอาท์แบ็ค ชนะในด้านความสบายจากการผ่อนคลายของช่วงล่าง หากผู้ที่รักความสบาย และต้องการรถอเนกประสงค์ ที่แท้จริง ไปพร้อมกันได้ยกครอบครัวแล้วล่ะก็ 2015 ซูบารุ เอาท์แบ็ค ถึงเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ต้องการรถในระดับพรีเมี่ยม ที่ไม่เหมือนใคร
ด้านราคาโมเดลเก่า รุ่น 2.5i 2,590,000 บาท และรุ่น 2.5i Navi ราคา 2,690,000 บาท
สำหรับโมเดล ใหม่ นี้ ราคาเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้ง ทันทีที่เปิดราคาในงาน Motor Expo 2014
ชมภาพเพิ่มคลิ๊ก
ขอขอบคุณ TC Subaru สำหรับการทดสอบรถยนต์ 2015 ซูบารุ เอาท์แบ็ค ในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
ความคิดเห็น