รีวิวทดสอบ 2015 มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ดี (Mazda2 Skyactiv D) ครั้งแรกในไทย กับการขับในสนามโบนันซ่าฯ Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิวทดสอบ 2015 มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ดี (Mazda2 Skyactiv D) ครั้งแรกในไทย กับการขับในสนามโบนันซ่าฯ

Pon Piantanongkit
โดย Pon Piantanongkit
โพสต์เมื่อ 13 November 2557

เมื่อสัปดาห์ก่อนทาง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ได้เปิดตัว มาสด้า2  ใหม่ที่โรงงาน AAT  ระยอง   ถือเป็นการเปิดไลน์การผลิตรถยนต์อีโคคาร์ เฟส 2 คันแรกของเมืองไทยอย่างเป็นทางการ  ซึ่งประเทศไทยจะถือเป็นฐานการผลิต และส่งออกที่สำคัญของโลก

มาวันนี้  (12 พย. 2014)  มาสด้า ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมทดสอบ มาสด้า2   ใหม่  ในรุ่น 5 ประตู Hatchback  ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร  สกายแอคทีฟ  ดี  Clean Diesel    ณ สนามโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

2015-Mazda2-Skyactiv-EcoCar-Test-Bonanza10

มาสด้า2  หรือ Demio  ในเวอร์ชั่น ญี่ปุ่น     ในรุ่นใหม่นี้ถือเป็นเวอร์ชั่นที่ 2   หลังจากที่ประสบความสำเร็จในเวอร์ชั่นแรก บ้านเราที่จำหน่ายได้มากถึง 1.2 แสนคัน   ซึ่งช่วยทำให้ยอดขายรถยนต์นั่งของ มาสด้า เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก

สำหรับการกลับมาของ มาสด้า2 ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ จะถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ให้กับวงการรถยนต์ Sub-Comapct (B-Segment) เพราะว่า  จะเป็นรถยนต์ที่ตอบสนองให้กับทุกกลุ่มลูกค้า    ทั้งประหยัด   หรือ จะเน้นสมรรถนะความแรง   ซึ่งจะสามารถสร้างรอยยิ้ม และความสุขให้แก่ ผู้ขับขี่ได้   โดยที่ผู้อยากจะได้รถ  มักจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างแรง กับความประหยัด  แต่  เทคโนโลยี สกายแอคทีฟ  นี้จะมอบทั้ง 2 สิ่งให้แก่คุณ  โดยไม่ต้องลำบากใจ

Exterior

ภายนอก  มาสด้า2 ใหม่  ที่นำมาให้ทดสอบกันในคราวนี้ยังคงมีเพียงรุ่น 5 ประตู   ซึ่งหากมองกันแบบผิวเผิน  รูปทรงและมิติรถจะดูคล้ายมาสด้า2  ตัวเก่า   แต่เมื่อมามองถึงรายละเอียด  จะพบว่าได้รับการออกแบบมาจาก KODO Design  ทั้งเส้นสายไฟหน้า  และไฟท้าย  และกระจังหน้า    ซึ่งคันที่ได้นำมาให้ทดสอบนั้น  มี 4 คัน  สีแดง, ดำ,  น้ำเงิน  และสีชมพู  Smoky Rose Mica    เป็นเวอร์ชั่นส่งออกหมดเลย   เพียงแต่เปลี่ยนยางมาใช้เป็นยาง Eco Series  Dunlop  Enasave EC300+ แบบตัวขายบ้านเรา เพื่อให้ได้ฟีลลิ่งในการขับขี่ที่ใกล้เคียงของเรามากที่สุด      สำหรับรายละเอียดภายนอกในเวอร์ชั่นบ้านเรานั้น  เท่าที่ทราบ  จะยังคงใช้ไฟหน้าแบบฮาโลเจน    ในขณะที่ล้ออัลลอยจะมีทั้งขอบ 15 และ 16”

Interior

ภายใน  มาสด้า2   ใหม่นี้  ได้มีการออกแบบและการใช้ชิ้นงาน ที่ดูเหมือนกับ มาสด้า3 ใหม่   ภายในโทนสีดำ  ตกแต่ง trim  เคฟล่า  ดูให้ความสปอร์ตเป็นอย่างยิ่ง     และการออกแบบที่เน้นคนเป็นศูนย์กลางทำให้ตำแหน่งการจัดวาง  ใช้งานต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

สำหรับภายในนั้น ทั้ง 4 คันที่ได้นำมาทดสอบนี้  จะแบ่งออกเป็น  2 รุ่น คือ คันสีแดง และชมพู  จะเป็นรุ่นท๊อป   จะมี Paddle Shift  และใช้วัสดุเบาะหนังซึ่งมีลายปักสีแดงพาดกลางเพิ่มความสปอร์ต    รวมถึงเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ     แต่ทว่าในเวอร์ชั่นที่จะเปิดขายจริงเราคงต้องมารอชมสเป็กบ้านเรากันอีกครั้งว่าจะจัดรุ่นย่อยมากี่รุ่นและลงออปชั่นอะไรบ้าง  แต่ที่แน่ๆ ระบบ DSC, i-Stop, Blind Spot   จะเป็นออปชั่นพื้นฐานที่ให้มาในทุกรุ่น

2015-Mazda2-Skyactiv-EcoCar-Test-Bonanza15

หลังจากนี้เราจะขอเข้ามาพูดกันถึงในส่วนสมรรถนะการขับขี่รอบสนามโบนันซ่าฯ  กันต่อ  

ในวันนี้ทางทีมงานมาสด้า ได้จัดเตรียม Track ให้เราขับแบบ Full Lap  แต่จะวางไพล่อนไว้ตลอดเส้นทาง  เพื่อให้ขับขี่ได้ง่ายตาม Racing Line   รวมถึงการปรับแต่ง Track เสริมเติมแต่ง  ช่วง Slalom,  Lane Change, Chicane  เพื่อให้ได้ทดสอบถึงความคล่องตัว   และ หยุดรถเพื่อทดสอบระบบ i-Stop   อีกด้วย

2015-Mazda2-Skyactiv-EcoCar-Test-Bonanza16

สำหรับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟใหม่ ในมาสด้า 2  ที่จริงมีถึง 3 บล๊อกด้วยกัน  แต่ที่วางตลาดบ้านเราตอนนี้เพื่อให้ผ่านมาตรฐานอีโคคาร์ เฟส2  จะใช้เครื่องยนต์  Skyactiv D 1.5 ลิตร    มากับเกียร์ Skyactiv-Drive  ทั้งเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ เครื่องยนต์บล๊อกนี้มีกำลัง  105 แรงม้า@4,000rpm  แต่แรงบิดที่ให้มากถึง 250Nm@1,500-2,500rpm ซึ่งมากเท่ากับระดับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร เลยทีเดียว    โดยในเครื่องดีเซล 1.5 ลิตร นี้  ได้พัฒนามาจากรุ่นดีเซล 2.2 ลิตร  ในหลายด้านด้วยกัน  ได้แก่

- Compression Ratio  ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในโลกของเครื่องยนต์ดีเซล  แต่ ในบล๊อก 1.5 ลิตรนี้ จะมี CR  ที่ 14.8  ต่างจากรุ่น 2.2 D  ที่เป็นเครื่องยนต์ที่มี CR ต่ำสุดเพียง 14.0    เนื่องจากพิกัดขนาดเล็กจึงจำเป็นต้องมีกำลังอัดที่สูงกว่าพิกัดใหญ่

- การใช้เทอร์โบแปรผันเดี่ยว  ซึ่งในรุ่น 2.2 จะเป็นเทอร์โบ 2 stage

- หัวฉีดแบบโซลีนอยด์  แทนแบบ Piezo   ซึ่งช่วยให้ฉีดน้ำมันได้ละเอียดมากขึ้น

- การเพิ่มชั้น Layer รูปไข่ ตรงพื้นที่หน้าตัดของลูกสูบ   ซึ่งจะลดการไหลวนอากาศ  ช่วยไม่ให้ก๊าซเผาไหม้เสียความร้อนไปกับพื้นที่บริเวณนั้น

- การใช้ Intercooler ที่มีขนาดเล็ก  แทรกทำงานร่วมกับท่อร่วมไอดี    จึงทำให้มีขนาดกระทัดรัดกว่า  รุ่น  2.2 ที่ตั้งโชว์อยู่ด้านหน้าหม้อน้ำ

ในส่วนของอัตราสิ้นเปลือง มาสด้า2  สกายแอคทีฟ ดี   เคลมไว้ที่ 26.3 กม./ลิตร   และการปล่อยไอเสียที่ระดับต่ำกว่า 100 กรัม/กม.   ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญ ในการทำให้รถ มาสด้า2  ใหม่นี้ ผ่านเกณฑ์อันแสนเข้มงวดลงได้   และเป็นรถยนต์คันแรกที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของรถยนต์อีโคคาร์ ในเฟส 2     และบอกได้เลยว่ามันเป็น Clean Diesel จริงๆ ทางทีมงานได้ทดลองนำกระดาษขาว มาจ่อที่ท่อไอเสีย และเบิลเครื่องใส่กลับพบว่ากระดาษจะชื้นเปียกเพียงแค่ละอองน้ำเท่านั้น ไม่มีควันดำ หรือกลิ่นดีเซล ให้น่าเวียนหัวแต่อน่างใด รวมไปถึงถึงยินเสียงเครื่องที่เงียบ ยิ่งนั่งอยู่ในรถติดเครื่องยนต์ด้วยแล้ว  ถ้าไม่บอกแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป

2015-Mazda2-Skyactiv-EcoCar-Test-Bonanza8

ด้านการขับขี่จริงบนสนามฯ   การตอบสนองของเครื่องยนต์ดีเซล นั้นมาตามสไตล์เดิม   ก็คือ  แรงบิดที่มาหนักตั้งแต่รอบต่ำ   ช่วยให้มีแรงฉุดกระชากให้รถเคลื่อนตัวพุ่งทะยานได้ไวตั้งแต่ออกตัว     แต่ก็ยังพบนิสัยของคันเร่งไฟฟ้า (Drive by Wire) ที่ยังมีจังหวะหน่วงอยู่เล็กน้อย   แต่เมื่อเคลื่อนตัวไปถึงราว 1,500rpm  กำลังเครื่องจะมีมาให้ใช้อย่างต่อเนื่อง   แต่เมื่อเข้าสู่รอบเครื่องสูง   จะพบว่าซุ่มเสียงถือว่าให้ความเร้าใจกับการขับขี่แบบสปอร์ตเลยทีเดียว   ไม่ดังจนน่ารำคาญ  แต่ก็ไม่ได้เงียบจนเกินไป    เมื่อลากรอบสูงถึงประมาณ 4,000rpm ขึ้นไป จะพบว่าอาการรอบหมดไว  เครื่องยนต์เริ่มตื้อตามสไตล์รถดีเซล  เริ่มมาให้สัมผัส   และการขับในโหมด D  จะพบว่ารอบเครื่องใช้มากเกินจำเป็นไป    เราจึงมาลองขับในโหมด M ดู   เพื่อ Shift เกียร์ด้วยตนเอง    พบว่า  ที่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 3,000rpm  ก็สามารถที่จะสับเกียร์ขึ้นได้แล้ว เพื่อให้แรงบิดถ่ายทอดลงสู่ล้อได้อย่างต่อเนื่อง  และดูไหลลื่นเป็นอย่างมากกับเกียร์สกายแอคทีฟ  นี้    แต่ก็ต้องระวังหากเราเผลอลากรอบจนชน Redline  ตามสไตล์ของมาสด้า เกียร์จะไม่ตัดขึ้นให้   และในบางจังหวะที่เราชะลอความเร็วก่อนเข้าโค้ง  เกียร์อาจจะไม่ลดลงให้ทีเดียวถึง 2 ลำดับเพื่อป้องกันรอบเครื่องสูงเกินไป   ซึ่งในจังหวะที่เราทดสอบ  บางทีถึงต้องเข้าโค้งด้วยตำแหน่งเกียร์ที่สูงกว่าปกติ 1 ลำดับ  และพอเข้าโค้งไปแล้ว  รอบเครื่องก็ลดต่ำลง  กินกำลังเครื่องไปจึงต้องมา Shift Down เกียร์ในโค้งอีกครั้ง  ซึ่งอาจเสียจังหวะไปบ้างเล็กน้อย

2015-Mazda2-Skyactiv-EcoCar-Test-Bonanza2

สรุปเบื้องต้นกับเครื่องยนต์ ดีเซล 1.5 ลิตร  สกายแอคทีฟ ดี  คันนี้  ถือได้ว่าเหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป  โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่เน้นกำลังในช่วงออกตัว  ซึ่งเป็นย่านความเร็วที่ใช้งานบ่อยที่สุด   อีกทั้งการประสานการทำงานของเกียร์และเครื่องยนต์ทำหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่องลงตัวทีเดียว  เว้นเสียแต่ว่า การขับขี่ในสนามแบบนี้อาจต้องไล่รอบเครื่องสูงเสียหน่อย รวมถึงการควบคุมตำแหน่งเกียร์ที่อาจต้องการความอิสระมากกว่านี้

2015-Mazda2-Skyactiv-EcoCar-Test-Bonanza55

ด้านของการควบคุมตัวรถ    ด้วยการปรับรูปแบบ Track  สนามโบนันซ่าฯ  เพื่อให้เน้นใช้งานอย่างคล่องตัว   ด้วยการเสริม Slalom, Lane Change และ Chicane  มันช่วยให้ผู้ขับสร้างความประทับใจให้กับระบบบังคับเลี้ยวของ มาสด้า2 ใหม่นี้ ได้เป็นอย่างดี   พวงมาลัยผ่อนแรงไฟฟ้า  ที่มีการปรับอัตราทดให้รวดเร็วขึ้น  ช่วยให้การหักเลี้ยว  มีความว่องไว  แม่นยำ  และสัมผัสที่เป็นธรรมชาติดีเยี่ยม      อีกทั้งการผ่อนแรงจากวงเลี้ยวพวงมาลัย ซึ่งเรียกได้ว่าปรับปรุงขึ้นจาก มาสด้า2  รุ่นก่อน อย่างเห็นได้ชัด

2015-Mazda2-Skyactiv-EcoCar-Test-Bonanza3

ระบบกันสะเทือน  ช่วงล่างทางด้านหน้า  ได้มีการวางตำแหน่งของโช้คอัพให้เยื้องมาทางด้านหลัง  (ปรับองศา Caster เยื้องไปทางด้านหลัง) พร้อมปรับระยะแขนให้มากขึ้น    ซึ่งการวางตำแหน่งแบบนี้จะช่วยในจังหวะเบรกหน้ารถจะมีบาลานซ์การถ่ายเทที่ดี    หน้ารถจะไม่ทิ่มเทไปด้านหน้ามากจนเกินไป       และระบบกันสะเทือนด้านหลังทาง  ซึ่งใช้โช้คอัพแบบแยกออกจากคอยสปริง   ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักพบในรถยนต์หรู  และหาไม่ได้ในรถระดับนี้    รวมถึงการปรับจุดยึดช่วงล่างหลังใหม่   รวมถึงการใช้ตัวดูดซับแรงซึ่งช่วยเพิ่มรายละเอียดในด้านความนุ่มนวลในการขับขี่เพิ่มมากขึ้น

การยึดเกาะดีขึ้นกว่าเดิมพอสมควร  แม้ช่วงล่างหลังจะเป็นแบบทอร์ชั่นบีม  ซึ่งในบางจังหวะ  อาจพบว่าการเข้าโค้งด้วยความเร็วบอดี้ รถจะเทเอนไปทั้งลำในทางด้านท้าย  แต่ก็ยังคงให้การยึดเกาะที่ดีอยู่    ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมีผลจากการทำงานของระบบ DSC และ TCS ร่วมด้วย    และพบอาการหน้าดื้อ  (Understeer)  บ้างเล็กน้อยในโค้ง Hi Speed    เพียงเท่านั้น  และเนื้อยางที่ใช้ Series แบบ Comfort Eco ที่เน้นประหยัดและนุ่มนวล จึงทำให้การเข้าโค้งที่ความเร็วยางจะส่งเสียงกรีดร้องและอาการไถลของยางจะมีมากหน่อย

นอกจากนั้นในส่วนของระบบเบรก  ที่เซ็ตมาเหมือนกับ CX-5 และ Mazda3  ใหม่  ทำให้เบรกลงได้อย่างนุ่มนวลค่อยเป็นไป  แต่เทียบกับการขับขี่แบบสปอร์ตเช่นนี้แล้วพบว่า  ยังดูตอบสนองช้าไปหน่อย   อีกจุดที่น่าประทับใจคือ    เราลองเบรกในทางโค้งซึ่ง  ตำแหน่งพวงมาลัยไม่ได้อยู่ในแนวตรง   ซึ่งลงน้ำหนักดูค่อนข้างหนัก   แต่ไม่พบอาการส่ายโคลงของบอดี้รถให้เห็น  แต่อย่างใด   ซึ่งถ้าเป็นรถรุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน  น่าจะต้องมีอาการส่ายออกมาให้เห็น  แต่ไม่ใช่กับ มาสด้า2  สกายแอคทีฟคันนี้

2015-Mazda2-Skyactiv-EcoCar-Test-Bonanza12

สรุป  มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ดี   รถอีโคคาร์ เฟส2 คันแรกในประเทศไทย   ซึ่งถ้าจะให้เราเรียกกันตามจริง  ต้องย้ำอีกครั้งว่ามันคือรถ  Sub-Compact (B-Segment)  ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานไอเสียและอัตราสิ้นเปลืองอย่างเข้มงวดลงได้   มันไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นรถ Low Cost  และยิ่งไปกว่านั้น  มันเป็นรถ B-Car ที่ให้รูปลักษณ์สปอร์ต และฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมไปถึงเทคโนโลยีในด้านการขับขี่ที่เหนือชั้นกว่าใคร    ซึ่งบอกได้เลยว่า  มันเป็นรถยนต์ที่ขับได้ดีที่สุดใน B-Car บ้านเรา ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้   แต่ตามที่ได้กล่าวไป เพียงจุดเดียวนั่นก็คือยาง  ที่เป็นยาง Series Eco    ซึ่งทำให้การขับขี่ในสนาม เช่นครั้งนี้   ยังดูไม่ยึดเกาะเท่าที่ควร   แต่ก็ว่ากันไป  รถคันนี้เน้นผลิตมาจำหน่ายในตลาดประเทศไทยในมาตรฐานรถอีโคคาร์  ซึ่งมันก็เหมาะสมแล้ว กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

เอาเป็นว่า  ตอนนี้ มาสด้า2  สกายแอคทีฟ ดี คันนี้  กลายเป็นทั้ง อีโคคาร์  และ  B-Car ที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในบ้านเราตอนนี้แล้ว  เหลือเพียงแต่ราคาจำหน่ายเท่านั้น ?   พร้อมรอคอยการเปิดตัวรุ่น 4 ประตู Sedan  แบบครั้งแรกในโลก ที่งาน Motor Expo  สิ้นเดือนนี้

ขอขอบคุณ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย   สำหรับการทดสอบมาสด้า2 ใหม่  ณ สนามโบนันซ่าฯ ครั้งนี้

ภณ เพียรทนงกิจ  Test Driver


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ