[ลองขับ] 2013 ซูบารุ เอาท์แบค รถครอบครัวขาลุย!!!

ในกลุ่มรถยนต์เอนกประสงค์สำหรับครอบครัวนั้นมีคู่แข่งมากหน้าหลายตาในประเทศไทย ซึ่งแต่ละคันก็พยายามชูความโดดเด่นแตกต่างของตัวเองที่เหนือคู่แข่ง และหนึ่งในนั้น ก็คือ 2013 ซูบารุ เอาท์แบค ที่ค่ายรถตราดาวลูกไก่อย่างซูบารุ สั่งตรงจากญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

แม้จะมีสนนราคาค่าตัวที่มากถึง 2.59 ล้านบาท และกำลังเตรียมพร้อมที่จะปรับโฉมอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปที่จะถึงนี้ แต่ซูบารุก็ยังเดินหน้าทำตลาดซูบารุ เอาท์แบค รุ่นตัวถังเดิมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และมองว่าเป็นรถที่ไม่ได้แพ้คู่แข่งแม้เล็กน้อย หากเทียบกันตันต่อตัน

ด้วยความเป็นรถเอสยูวีขาลุยที่มาพร้อมตำแหน่งที่นั่งที่แทบไม่แตกต่างจากรถยนต์นั่ง น่าจะเป็นจุดได้เปรียบที่ทำให้เอาท์แบคน่าจะครองใจผู้บริโภคได้หลายกลุ่ม ประกอบกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและเครื่องยนต์บอกเซอร์อันยอดเยี่ยม ก็บ่งชี้ให้เห็นถึงจุดขายหลายประการของรถคันนี้

ใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ 4 วันเต็ม ๆ บอกเลยว่ารถคันนี้เป็นขาลุยตัวจริงที่พร้อมจะเดินทางไปไหนมาไหนได้ทุกที่ โดยที่ให้ความสะดวกสบายเหนือกว่าเอสยูวียี่ห้ออื่น จะติดก็ตรงที่ของเล่นที่มีให้มาน้อยไปนิดและราคาแพงไปหน่อย ก็เลยอาจจะทำให้มองไม่เห็นมากนักบนท้องถนน

แต่หากต้องการความแตกต่างและความโดดเด่นแล้ว ถามใจว่าพร้อมจ่ายไหม ถ้าพร้อมก็เดินหน้าช๊อปได้เลย คันนี้!!!

ภายนอกสวยหรู เน้นเรียบง่าย ใช้งานได้จริง

ตัวถังภายนอกของเอาท์แบคนั้น เน้นที่การออกแบบเพื่อให้ได้รถที่รูปทรงแข็งแกร่ง ดูบึกบึนในสไต์เอสยูวีทั่ว ๆ ไป แต่ก็แฝงเอาไว้ซึ่งความหรูหราของรถยนต์ในทุกมิติ เรียกว่าเอาไปขับลุยก็ได้ หรือจะใช้งานในเมืองในชีวิตประจำวันก็ไม่ผิดแปลกอะไร

สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือภาพลักษณ์ของรถที่ดูออกไปทางรถยนต์นั่งมากกว่ารถยนต์เอสยูวี ทำให่เราเห็นเส้นสายงดงามที่ฝังไว้ในโครงสร้างอันบึกบึนทุกสัดส่วน แถมตำแหน่งการยกของพื้นห้องโดยสารก็กำลังพอเหมาะพอเจาะไม่ต้องปีนป่ายเข้าไปนั่งในตัวรถแต่อย่างใด

โคมไฟหน้าขนาดใหญ่ออกแบบมาอย่างลงตัวกับกระจังหน้าโครเมียม 3 ชั้น โคมไฟหลังสวยงามลงตัวให้ตำแหน่งการมองเห็นที่ชัดเจนจากด้านหลัง ล้อแมกซ์ขนาด 17 นิ้วมาพร้อมยางแก้มสูงซีรี่ส์ 60 ทำให้ตัวรถดูพร้อมจะลุยไปไหนก็ได้ในทุกที่

เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ตอบสนองเร้าใจสไตล์เก๋ง

แม้จะเป็นรถยนต์ตัวถังเอสยูวีแบบยกสูง แต่การขับขี่และการตอบสนองของเอาท์แบคนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรกับรถยนต์นั่งหรู ๆ สักคัน ซึ่งต้องขอบใจเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ทางทีมงานของซูบารุเซตอัพเอาไว้อย่างดีเยี่ยม

เครื่องยนต์บอกเซอร์ 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.5 ลิตร ที่เรียกกำลังออกมาได้สูงสุด 167 ที่ 5,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ให้การออกตัวที่ดีเยี่ยมจากจุดหยุดนิ่งแบบไม่กระโชกโฮกฮาก แต่ออกอาการตื่นตัวทันทีที่ขาออกแรงกดคันเร่ง

การส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดลงสู่ล้อทั้งสี่ ใครจะไปเชื่อว่าเอสยูวีตัวถังหนักตันครึ่ง จะวิ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 10 วินาทีครึ่ง และยังให้การตอบสนองที่ดุเดือดจนผ่านความเร็วระดับปานกลางไปแล้ว ก่อนจะเข็มไมล์จะหยุดเคลื่อนที่เพิ่มที่ความเร็วเกือบ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภายในแอบเชย แต่เต็มเปี่ยมด้วยอรรถประโยชน์

อาจจะเพราะรถคันนี้ใกล้ที่จะปลดระวางอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้รูปลักษณ์ภายในนั้นยังอยู่ในยุคที่ซูบารุไม่ได้เน้นความหรูหราของห้องโดยสารมากนัก ทำให้อาารมณ์โดยรวมของห้องโดยสารนั้นถือว่าเชยอยู่เอาเรื่องเหมือนกัน

แต่หากมองข้ามความเชยไป นี่คือห้องโดยสารของรถที่ให้อรรถประโยชน์ในการใช้งานสูงสุดคันหนึ่ง รวมไปถึงการเสริมความปลอดภัยในการใช้งานอย่างเต็มที่ การบรรทุกของนั้นทำได้อย่างง่ายดายด้วยเบาะตอนหลังพับได้ 60:40 และผ้าใบคลุมห้องสัมภาระที่ถอดออกได้

ระบบเครื่องเสียงที่ยังเป็นซีดี เชนเจอร์ 6 แผ่นที่น่าจะถูกถอดออกจากรถรุ่นใหม่ค่อนข้างแน่นอนแล้ว มาพร้อมระบบเสียงเซอร์ราวด์ที่ให้เสียงดนตรีไพเราะพอสมควร และไม่ลืมระบบเชื่อมต่อไอโฟนติดตั้งมาให้ โดยสามารถควบคุมเครื่องเสียงได้จากปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย

ขับในเมืองก็ได้ ไปนอกเมืองก็เจ๋ง

ถ้าไม่ติดเรื่องของการเป็นรถยนต์ที่ใกล้จะมีรุ่นใหม่มาทดแทนเต็มที่แล้ว เอาท์แบคถือเป็นเอสยูวีอีกคันหนึ่งที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่น่าพึงพอใจในการใช้งาน เพราะด้วยตำแหน่งการนั่งและการขึ้นลงจากตัวรถ ทำให้คนในครอบครัวสามารถเดินทางไปไหนได้อย่างสะดวกไม่ต้องป่ายปีน

การวิ่งทั้งบนถนนหลวงหรือออกทางลูกรัง วิ่งเข้าป่าดงพงไพรสามารถทำได้อย่างสะดวกโดยที่ไม่ต้องมานั่งกังวลปรับระบบขับเคลื่อนให้เสียเวลา ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันลือชื่อของค่ายรถตราดาวลูกไก่ สามารถพาไปไหนต่อไหนได้อย่างสะดวกสบาย

ด้านความสบายก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้ใคร เบาะที่นั่งรับน้ำหนักและตำแหน่งของการนั่งเป็นอย่างดีในทุกตำแหน่ง เดินทางไกลไม่มีเมื่อยหลัง ปวดไหล่อย่างแน่นอน การตกแต่งภายในห้องโดยสารก็ถือว่าหรูล้ำในระดับหนึ่งด้วยวัสดุที่เลือกใช้มาอย่างดี

ขับไปเรื่อย ๆ แบบไม่คาดเค้นเอาสมรรถนะมาก อาจจะเห็นตัวเลขการประหยัดน้ำมันระดับ 12-13 กิโลเมตรต่อลิตรได้ไม่ยาก แต่ยามเค้นพละกำลังก็อาจจะต้องทำใจกับอัตราการสูบน้ำมันมากหน่อย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องแลกกันกับการขับขี่รถแบบนี้อยู่แล้ว

และแม้ว่าจะขับไปด้วยสมรรถนะแบบไหน ระบบช่วงล่างและระบบเบรกของรถก็ยังให้การตอบสนองที่ดี ทันใจและช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าอยู่หลังพวงมาลัยรถคันนี้แล้ว ทั้งผู้โดยสารและผู้ขับขี่จะปลอดภัยดีอยู่แน่นอน

สรุปรวมความแล้วก็ยังเป็นรถที่น่าใช้งานอยู่ แม้จะทำตลาดมาจนแทบจะเปลี่ยนโมเดลใหม่อยู่ในอนาคตอันใกล้แล้วก็ตาม และยังอาจจะต้องแลกด้วยสนนราคาที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย แต่ก็เป็นรถที่ใครเงินถึงควรนำไปร่วมพิจารณาด้วยเป็นอย่างยิ่ง

สนใจจริง ๆ รอรุ่นใหม่มาสิ้นปีนี้ คาดว่ามีแพคเกจดีดีตามมาสำหรับคันนี้แน่นอน!!!

รายละเอียดทางเทคนิด 2013 ซูบารุ เอาท์แบค

ราคาจำหน่าย	2.59 ล้านบาท
เครื่องยนต์	เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.5 ลิตร
กำลังสูงสุด	167 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด	229 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง	10.4 วินาที
ความเร็วสูงสุด	198 กิโลเมตรต่อชั่วโมง