มาสด้าชี้ไทยยกระดับความสำคัญสู่ฐานการผลิตเพื่อการส่งออกระดับโลก ตอกย้ำการลงทุนเหนือประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค พร้อมยกระดับต้นแบบของมาสด้าในตลาดโลก สู่ศูนย์กลางและตลาดหลักในการเปิดตัวสินค้าใหม่
ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส ์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เล็งเห็นความสำคัญของประเทศไทยเป็นอย่างมาก หลังการลงทุนเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กครั้งล่าสุดด้วยงบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท
เงินลงทุนดังกล่าวถือว่ามากกว่า 50 เท่าตัวของการลงทุนในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน และยังเป็นการลงทุนเพื่อผลิตเครื่องยนต์และระบบเกียร์แบบครบวงจรแห่งที่ 2 ของโลกนอกจากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
การลงทุนดังกล่าวจะทำให้โรงงานในประเทศไทยมีกำลังการผลิตเป็นรองโรงงานโฮฟุเพียงเท่านั้น และยังมีกำลังการผลิตเหนือกว่าโรงงานมาสด้า เดอ เม็กซิโก ซึ่งเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกร่วมกัน
"การขยายการลงทุนมาในประเทศไทยและเม็กซิโกเพื่อกระจายความเสี่ยงทางด้านค่าเงิน แต่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกระดับโลก และยังเป็นต้นแบบของมาสด้าในการเป็นศูนย์กลางและตลาดหลักเพื่อเปิดตัวสินค้าใหม่เช่นกัน"
ทั้งนี้ ประธานฯ เชื่อว่าการลงทุนคือการแสดงออกให้เห็นถึงความมั่นใจกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย และมั่นใจว่าจะเห็นผลการตอบรับที่ดี รวมถึงการเติบโตทางด้านยอดจำหน่ายตามมาในอนาคตอันใกล้
มาสด้าได้เปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาสด้า 2 ซีดานในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก และมีแผนที่จะผลิตเพื่อส่งออกไปอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และตลาดอื่น ๆ ในปี 2558 ตามแผนงานที่วางไว้
ทาเกสึเอะระบุว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการที่สินค้าของประเทศไทยสามารถส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศที่ต้องการมาตรฐานสินค้าและมาตรฐานไอเสียระดับสูงได้ และบริษัทมองหาช่องทางในการส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศพัฒนาแล้วเพิ่มเติมในอนาคต
"สำหรับในประเทศไทย เรามองว่าตลาดรถยนต์ในปี 2558 จะเติบโต 10% หรือมีขนาดมากกว่า 9 แสนคัน โดยเราตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 5% จากที่มียอดจำหน่าย 3.5 หมื่นคัน มีส่วนแบ่ง 4% ของตลาดรวม 8.5 แสนคันในปีนี้"
ความคิดเห็น