สามมิตร กรีนพาวเวอร์ หรือ SGP ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิตรถกระบะดีเซล CNG รายแรก และรายเดียวในไทย โดยได้เผยโฉมรถ เอราวัณ Model I ภายในงาน Motor Expo ครั้งนี้
พร้อมปรับโฉมโลโก้ ใหม่ และเราเองก็ได้มีโอกาส มาพูดคุยสัมภาษณ์ กับคุณสรยุทธ์ โพธิ์ศิริสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ SGP กันด้วย
คุณสรยุทธ์ ได้เผยถึงการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ในครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการสื่อสารตอกย้ำชื่อแบรนด์ว่า SGP แทนการเรียก สามมิตร อย่างที่คุ้นเคยกันมา โลโก้ ใหม่นี้ มีที่มาจาก ลูกโลกสีเขียว (วงกลมเขียว ซึ่งมีใบพัดอยู่ด้านใน) มีความหมายถึงการขับเคลื่อนพลังงานสีเขียวโดยไม่มีที่สิ้นสุด ส่วน ใบไม้ ไม่หมายถึงพลังงานสะอาด ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และโลกของเรา ซึ่งตรงคอนเซ็ปต์ กับการรักษ์สิ่งแวดล้อม
หลังจากได้รับความไว้วางใจจาก โตโยต้า ในการผลิตรถกระบะ เอราวัณ Model T ไปแล้ว ล่าสุดก็ได้จับมือกับ อีซูซุ สร้างรถ เอราวัณ Model I ซึ่งได้นำไปโชว์ตัวในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ Motor Expo 2014 ครั้งนี้ด้วย โดยพร้อมเปิดจำหน่ายช่วง มีค. 2015 ซึ่งถามว่าทำไมถึงเลือกแบรนด์ อีซู
รถกระบะ เอราวัณ มีจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ นั่น ก็คือ ชุดอุปกรณ์ดีเซล CNG ที่ระบบผสมเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ซึ่งในปีนี้ ทาง PTT Diesel CNG ได้รับรางวัล R&D Award 100 (รางวัล 100 สุดยอดวิจัยและพัฒนา 2557)
สำหรับกลไกราคาของ Model T จะเริ่มต้นที่ 6.9 แสนบาท แพงกว่ารถตัวถังปกติ ขึ้นมาอีกประมาณแสนกว่าบาท แต่ทาง SGP ก็มั่นใจว่า สามารถช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการได้ในระยะยาว อย่างแน่นอน
และการมาของ Model I ในปีหน้า ทาง SGP คาดว่า อัตราส่วนของรถทั้ง 2 โมเดล จะโตไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกัน และเผยถึงสาเหตุที่ เลือก อีซูซุ เข้ามาเป็นโมเดลที่ 2 เพราะว่า ตลาดรถกระบะ แบรนด์ โตโยต้า และ อีซูซุ เพียง 2 แบรนด์ ได้มีสัดส่วนการตลาดสูงถึง 72% เลยทีเดียว นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทาง SGP ได้เลือก อีซูซุ เข้ามาเป็นผลิตภัณฑ์ เอราวัณ ใหม่
ด้านของยอดขายเมื่อปี 56 ที่ผ่านมา SGP มียอดราว 1500 คัน จากตลาดรวมในกลุ่มเดียวกันทั้งหมด 3000 คัน (Diesel CNG)
และมาปีนี้ 57 ทาง SGP ตั้งเป้าที่ 1000 คัน ซึ่ง ณ ปัจจุบันมียอดขายราว 700 คัน ซึ่งมีผลมาจากปัจจัยภายนอก ทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมยานยนต์ที่อยู่ในช่วงชะลอตัว
แต่ทว่าทาง SGP ก็ยังมองอัตราการเติบโต ส่วนแบ่งการตลาด จากปกติที่ Market Shared 50% ในกลุ่ม จะสามารถขยับเพิ่มไปเป็น 60% ได้ ในอนาคตข้างหน้า
ซึ่งหากมามองถึงกลุ่มารถ Pick Up จะพบว่า อัตราส่วนเครื่องยนต์ ดีเซล:เบนซิน สูงถึง 90:10 เลยทีเดียว นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทาง SGP ลุยเดินหน้ารุกตลาดกลุ่มกระบะดีเซล CNG อย่างเต็มตัว
ในส่วนของการบริการหลังการขายนั้น ทาง SGP จะรับผิดชอบในส่วนของระบบที่เกี่ยวกับชุดอุปกรณ์ CNG โดยลูกค้าสามารถนำรถ เข้าไปศูนย์บริการของค่ายได้ตามปกติ เพื่อตรวจเช็คในส่วนของตัวรถและเครื่องยนต์
นอกจากนั้นทาง SGP ยังมีบริการ Mobile Service ซึ่งทางบริษัทฯ จะเข้าไปตรวจสอบดูแลรถของลูกค้าภายใน 24 ชม. รวมไปถึงการวางแผนขยายดีลเลอร์ศูนย์บริการทั่วประเทศ ให้ครบ 50 แห่งภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอู่ซ่อมที่ชำนาญการในด้านของรถกระบะดีเซล เป็นหลัก
ในด้านแผนการลงทุนเพิ่มเติม ขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้กำลังก่อสร้างโชว์รูม และศูนย์บริการแห่งใหม่ ย่านบางแค ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งจะมีพื้นที่จอดรถโชว์ได้ 4 คัน และมีช่องซ่อม 5 ช่อง แล้วเสร็จในปีหน้า
สำหรับ โปรโมชั่น ในงาน Motor Expo นี้ ทาง SGP มีข้อเสนอพิเศษมากมาย ทั้งส่วนลดร่วมแสนบาท และแถม Lifter ซึ่งมีมูลค่ากว่าแสนบาทเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% อีกด้วย ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ที่บูท SGP พิเศษเฉพาะในงาน Motor Expo ครั้งนี้เท่านั้น
ความคิดเห็น