[Thailand to AEC] จุดเปลี่ยนยานยนต์ไทย : จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช Share this

[Thailand to AEC] จุดเปลี่ยนยานยนต์ไทย : จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 15 December 2557

ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31 ที่ผ่านมา นอกเหนือจากการจัดแสดงรถยนต์และพริตตี้กันอย่างละลานตาแล้ว ได้มีการจัดสัมมนาที่น่าสนใจหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือการสัมมนาเกี่ยวกับจุดเปลี่ยนประเทศไทยและการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

นอกเหนือไปจากเป็นการจัดงานโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย (สรยท.) แล้ว สิ่งที่น่าสนใจก็คือบรรดาผู้ที่ตอบตกลงมาแสดงปาฐกถาในงานนั้นถือว่าไม่ธรรมดา ไล่ไปตั้งแต่ระดับรัฐมนตรียันผู้บริหารระดับสูงของค่ายรถยนต์มากหน้าหลายตา

ต่างคนต่างก็มีมุมมองและแนวคิดที่โดดเด่นและแตกต่าง ที่ออโต้สปินน์ขอนำมาสรุปให้ได้เรียนรู้และเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่โลกอนาคตยานยนต์ไปพร้อม ๆ กัน

แต่ถ้ามารวดเดียวก็จะยาวเกินไป ขอสรุปแยกคนแยกประเด็นกันไปอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้ก็แล้วกัน...

_dsc4470_547ac77245315

จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

"จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ก็คือการประกาศใช้โครงสร้างภาษียานยนต์ใหม่ในปี 2559 ที่หันมาคิดที่อัตราการปล่อยไอเสียเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการรถยนต์ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดในการพัฒนารถยนต์ โดยจะเริ่มเห็นได้ชัดจากโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง"

โครงการอีโคคาร์เฟสสองที่รมว.อุตสาหกรรมว่านั้น ระบุว่ารถยนต์ที่จะนำมาจำหน่ายภายใต้โครงการดังกล่าวจะต้องผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดด้วยการปล่อยไอเสียต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งจะให้ได้อัตราภาษีทดแทนที่ระดับ 12% โดยผู้ท้าชิงรายแรกของข้อกำหนดนี้คือมาสด้า 2 รุ่นใหม่

เขาระบุอีกว่า ต่อเนื่องจากอีโคคาร์เฟสสอง ค่ายรถก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาการใช้เทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อให้ผ่านมาตรฐานดังกล่าว โดยอาจจะต้องคิดถึงรถยนต์ไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเองก็ต้องการโปรดักส์ แชมป์เปียนตัวที่ 3 ถัดจากปิกอัพและอีโคคาร์

"เราคงไม่มองเรื่องอีโคคาร์ เฟสสามอีกแล้ว แต่จะมองอะไรที่เหนือกว่านั้น แต่จะเป็นอะไรคงต้องมาพิจารณากันอีกที ซึ่งหากเราทำได้ เป้าหมายการผลิตที่วางไว้ในไทยปีละ 3 ล้านคันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ประเทศไทยเองก็มีความท้าทายในอาเซียน ด้วยขนาดของตลาดอินโดนีเซียที่ใหญ่กว่า หากไม่พัฒนาก็จะเติบโตได้ยาก"

จักรมณฑ์ระบุว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย จำเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบโดยรอบด้าน โดยมองไปที่การวางแผนระยะยาว 5-10 ปี ซึ่งการผลิตในปีนี้แม้ว่าจะลดลงจากเป้าหมายเหลือเพียง 1.95 ล้านคัน แต่ก็เชื่อว่าปีหน้าจะกลับมาไม่น้อยกว่า 2.2 ล้านคันอีกครั้ง

และจะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกลับมาแข่งขันอย่างดุเดือดในอาเซียนอย่างแน่นอน!!!


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ