แม้การทดสอบการชนของรถยนต์จะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์โลก และเราเองก็คงคุ้นเคยกับภาพของรถที่วิ่งเข้าชนกับเครื่องกีดขวางเป็นอย่างดี แต่ใครจะรู้ว่าการทดสอบดังกล่าวนั้นสามารถทำได้แล้วในภูมิภาคอาเซียน
ศูนย์ทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านยานยนต์ระดับอาเซียน ที่ถูกตั้งขึ้นในประเทศมาเลเซียเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นศูนย์การทดสอบลำดับที่ 9 ของโลกที่ได้รับการรับรอง เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยของรถที่ผลิตในอาเซียน
อาเซียน เอ็นแคป (ASEAN NCAP) คือว่าที่หน่วยวัดมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในอนาคต และจะเป็นมาตรฐานหลักที่เคียงคู่อาเซียน ในฐานะฐานการผลิตรถยนต์หลักของโลกที่สำคัญไม่แพ้ศูนย์ทดสอบอื่น ๆ
ทีมงานของอาเซียน เอ็นแคป ได้เดินทางมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) หลังจากที่เดินสายให้ความรู้เกี่ยวกับองค์กรใหม่ที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายแห่ง
"ความตั้งใจของเราไม่ใช่อยู่ที่การทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นเตือนไปยังผู้ประกอบการ เพื่อให้ทำการพัฒนารถยนต์ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยและการเลือกติดตั้งอุปกรณ์ทางด้านความปลอดภัยมาในรถยนต์เพิ่มมากขึ้น"
คาริล อันวาร์ อาบู คัสซิม เลขาธิการของอาเซียน เอ็นแคป บอกว่าหลังจากเปิดโปรแกรมดังกล่าวในปี 2554 ได้มีการประเมินรถยนต์ 31 รุ่นจาก 18 ผู้ผลิตทั่วโลกและทำการทดสอบรถยนต์ไปแล้ว 17 ยี่ห้อ ครอบคลุมผู้ผลิตรถยนต์ 20 รายในอาเซียน
มาตรฐานการทดสอบนั้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหุ่นดัมมี่ที่ติดตั้งเซนเซอร์รอบตัว แท่นพุ่งชนและตัวรถที่นำมาทดสอบ ซึ่งเขาระบุว่าทางอาเซียน เอ็นแคป จะเป็นผู้ซื้อรถยนต์ทุกคันที่จะนำมาทำการทดสอบด้วยตัวเอง
การทดสอบการชนแบบเยื้องหน้าที่สามารถทำได้ทั้งด้านขวาและด้านซ้าย ทำการชนที่ความเร็ว 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคะแนนการชนของผู้ใหญ่จะเต็ม 16 และของเด็กจะเต็ม 100 คะแนน
คะแนนจะแปรตามเรื่องของการดูแลและปกป้องผู้โดยสารในรถ แบ่งออกเป็นผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่และผู้โดยสารที่เป็นเด็ก โดยมีคะแนนให้สูงสุดที่ 5 ดาวและลดหลั่นกันลงไปจนถึงไม่ได้ดาวเลยก็เคยมีให้เห็นมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้การทดสอบจะมีมาตรฐานเป็นระบบคะแนนที่ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ก็มีข้อกำหนดปลีกย่อยเพิ่มเติม เช่น หากรถยนต์คันใดไม่ได้ติดตั้งระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย ก็จะไม่มีโอกาสได้คะแนนระดับ 5 ดาวอย่างแน่นอน
"เราพยายามเข้าไปดูในส่วนของอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมา อย่างเช่นถุงลมนิรภัย ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ เข็มขัดนิรภัยหรือแม้แต่ระบบป้องกันล้อล็อก ซึ่งแน่นอนว่ารถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์พวกนี้มา มักจะได้คะแนนดีกว่ารถยนต์ที่ไม่มี"
คะแนนที่สามารถรับได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ปลอดภัยนั้นอยู่ที่ระดับ 4 ดาวขึ้นไป ซึ่งถ้าดูจากรายชื่อรถที่ทำการทดสอบของอาเซียน เอ็นแคปแล้ว ค่ายรถขนาดใหญ่มักไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องนี้ ขณะที่ค่ายรถยนต์ท้องถิ่นอาจจะยังต้องปรับปรุงแก้ไข
แต่ก็ไม่ใช่เสมอไป เพราะรถยนต์อย่างเกีย พิคันโต รุ่นล่างที่ไม่มีถุงลมนิรภัยนั้น ได้รับคะแนนการทดสอบที่ 0 ดาวสำหรับผู้ใหญ่และ 1 ดาวสำหรับเด็กมาแล้ว แต่เมื่อได้ทำการทดสอบรุ่นที่มีถุงลมนิรภัย รถคันนี้กลับได้รับคะแนนมากถึง 4 ดาว
ขณะที่รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของโปรตอนอย่างไอริซ ที่ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาเต็มพิกัดในทุกรุ่น กลับคว้าคะแนนด้านความปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ไปถึง 5 ดาวและอีก 4 ดาวสำหรับเด็ก ทั้งที่เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อาเซียน เอ็นแคปเองก็ถือเป็นองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้น ทำให้มีเรื่องต้องปรับปรุงอีกมาก เช่น เรื่องของการหาเก้าอี้ที่นั่งสำหรับเด็กในอาเซียน หรือแม้แต่การประชุมร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับระบบและอุปกรณ์ความปลอดภัยที่เหมาะสม
แต่ทั้งหมดนี้ก็คือทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ในภูมิภาคอาเซียน ในการพัฒนามาตรฐานสำคัญที่จะนำมาใช้เป็นมาตรฐานหลักสำหรับรถยนต์ที่ผลิตในภูมิภาคในอนาคต
ว่าแต่... อยากรู้กันไหมว่ารถยนต์แต่ละคันที่นำมาทดสอบมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับกี่ดาวกันแน่...
LINE
ความคิดเห็น