ซูบารุมั่นใจตลาดอาเซียน เตรียมเปิดไลน์ผลิตฟอเรสเตอร์ในปี 2559 พร้อมวางแผนประเทศไทยฐานการผลิตรถเชิงพาณิชย์และรถยนต์นั่งในอนาคต มั่นใจยอดขายในภูมิภาคทะลุ 4-5 หมื่นคัน
เกลน ตัน ผู้อำนวยการบริหาร ทีซี ซูบารุ ผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ซูบารุในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่าบริษัทฯ คาดว่าจะมียอดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุในภูมิภาคนี้ 4-5 หมื่นคัน และคาดว่าจะเติบโตอีกมากในอนาคต หลังการเปิดไลน์ผลิตรถเอสยูวีซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ในปี 2559 ที่ประเทศมาเลเซีย
ในปัจจุบัน ซูบารุทำการผลิตรถรุ่นเอ็กซ์วี ด้วยกำลังการผลิตปีละ 5,000 คัน และได้เตรียมแผนการผลิตฟอเรสเตอร์ที่ปีละ 8,000 - 1 หมื่นคัน โดยจะเริ่มเปิดไลน์การผลิตในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นไป หลังจากการใช้เวลา 18 เดือนเพื่อเตรียมการผลิตด้วยการใช้ชิ้นส่วนในภูมิภาคกว่า 40% ตามข้อบังคับการส่งออกของเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า)
ขณะที่โรงงานในประเทศไทยที่มีการเพิ่มการลงทุนไปกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งเป็นการเตรียมการเพื่อการรองรับการประกอบรถยนต์นั่งในอนาคต แต่ในระยะสั้นจะใช้เพื่อการผลิตรถเชิงพาณิชย์ โดยในปีหน้าจะขยายไลน์รถบรรทุกโฟตอนเพิ่ม 3 รุ่น และรถบรรทุกฟูโซ่เพิ่มอีก 1 รุ่น เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด
“เรามั่นใจการเติบโตของตลาดในอาเซียนเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าตลาดที่มีขนาด 3 ล้านคันในปัจจุบันจะขยายตัวไปได้อีกมาก การเตรียมความพร้อมของบริษัทก็เพื่อรองรับการขยายตัว โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์เอสยูวีที่มีแนวโน้มเติบโตอีกมาก”
สำหรับในประเทศไทย ถือเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่มียอดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุมากที่สุดในกลุ่มที่ตัน จง ดูแล เทียบเคียงกับไต้หวันและฟิลิปปินส์ ในปีนี้คาดว่าจะมียอดจำหน่าย 1,800 คัน และเชื่อว่ายอดจำหน่ายในปีหน้าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“เราคาดว่าในปี 2558 ซูบารุจะมียอดจำหน่าย 2,500-3,000 คันในประเทศไทย ซึ่งบริษัทได้เตรียมงบประมาณกว่า 150 ล้านบาทในการทำตลาดเพื่อสร้างความเข้าใจของลูกค้าให้เข้าใจถึงจุดแข็งของแบรนด์ซูบารุ ซึ่งเชื่อว่ายังมีตลาดให้เราเติบโตอีกมากในประเทศไทย”
เกลนระบุว่าซูบารุไม่มีแผนที่จะเดินหน้าทำตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทยอย่างจริงจัง เนื่องจากมองว่าตลาดเอสยูวีมีศักยภาพมากกว่า ขณะที่รถยนต์นั่งในภูมิภาคนี้ เน้นการทำตลาดในกลุ่มอีโคคาร์เป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่ตลาดที่ซูบารุมีความเชี่ยวชาญ และการนำเข้ารถจากประเทศญี่ปุ่นก็ไม่สามารถทำราคาจำหน่ายเพื่อแข่งขันได้เช่นกัน
ความคิดเห็น