หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการเพียง 1 เดือนเศษ นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ก็เดินหน้าทำตลาดรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่อย่าง 2015 นิสสัน เอ็กซ์-เทรล อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับจัดทริปทดสอบที่พอจะทำให้รู้ถึงคุณงามความดีของรถคันนี้อยู่บ้าง
นิสสัน เอ็กซ์-เทรล คือรถที่สร้างชื่อเป็นอย่างมากให้นิสสัน ประเทศญี่ปุ่น ด้วยยอดจำหน่ายสูงสุดในกลุ่มรถเอสยูวีในปีที่ผ่านมา แถมในประเทศไทยก็คว้ายอดจองไปแล้วกว่า 1,300 คัน จากเป้าหมายการจำหน่ายที่วางไว้ 8,000 คันในปีนี้
ความพยายามในการแย่งชิงตลาดเอสยูวีระดับกลางเห็นได้อย่างชัดเจนจากการที่นิสสันตัดสินใจเพิ่มไลน์การผลิตรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เอ็กซ์-เทรลที่ทำตลาดจะนำเข้ามาจากอินโดนีเซียเป็นหลัก
กับรุ่นรองท๊อปที่เราได้ทำการทดสอบ ซึ่งถือเป็นรุ่นท๊อปของรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อย่างนิสสัน เอ็กซ์-เทรล 2.0วี ซีวีที รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมสนนราคา 1.325 ล้านบาท หรือถูกกว่ารุ่นทีอป 2 แสนบาทและแพงกว่ารุ่นรองลงไปที่ว่ากันว่าเป็นรุ่นขายราว 8 หมื่นบาท
อุปกรณ์ที่มาให้มาถือว่าครบครันโดนใจ เพราะที่เพิ่มขึ้นไปเพื่อแลกกับรุ่นท๊อปก็มีแค่ล้อแม็กซ์ 18 นิ้วและซันรูฟเท่านั้น ที่เหลือให้มาแล้วอย่างครบครัน เครื่องยนต์รุ่นใหม่พัฒนามาอย่างดี ช่วงล่างโดดเด่นกว่าคู่แข่ง แต่ภายในที่เน้นความอเนกประสงค์ด้วยการให้ที่นั่ง 5+2 อาจจะยังไม่น่าใช้พอ
โดยรวมแล้วเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้งานรถเอสยูวีแบบหลากหลาย ทั้งออนและออฟโรด โดยไม่เน้นการนั่ง 7 คนมาก โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยากได้รถตรวจการณ์ทรงสูง ช่วงล่างไม่โยน แต่ไม่ได้เอาไปลุยหนักถือว่าเหมาะสม
ถือเป็นรถอีกคันที่นิสสันพยายามพัฒนามาเต็มที่ ส่วนจะโดนใจลูกค้าหรือไม่ ลองไปทดสอบดูกัน...
ภายนอกโดดเด่นที่ไฟหน้า แอลอีดีล้วนเทียบรถหรู
นิสสันมุ่งพัฒนารูปทรงภายนอกของรถคันนี้ให้มีความโดดเด่นและแตกต่างจากโฉมเดิมที่เป็นรูปทรงเหลี่ยมอย่างมาก ทำให้รถออกมาในแนวโค้งมนและเพิ่มความหรูหราด้วยอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาในตำแหน่งต่าง ๆ อย่างลงตัว
เอ็กซ์-เทรลใหม่ในเกรดนี้ โดดเด่นเป็นพิเศษด้วยโคมไฟหน้าพร้อมเดย์ไทม์ รันนิ่งไลท์ ซึ่งประกอบด้วยชุดไฟแอลอีดีทั้งหมดเป็นครั้งแรกของรถยนต์เอสยูวีระดับเดียวกันในประเทศไทย
ภายนอกมาพร้อมล้ออัลลอย 17 นิ้วที่ดูแล้วลวดลายดูธรรมดาไปสักนิด ถ้าได้ลายเดียวกันกับรุ่นท๊อปจะทำให้รถโดดเด่นขึ้น แร็คหลังคาติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตามความยาวของตัวรถเพื่อใช้บรรทุกสัมภาระ
ประตูบานหลังเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ สามารถเลือกการเปิดได้ 3 โหมด พร้อมสามารถตั้งระยะการเปิดของประตูได้เช่นกัน ซึ่งการเปิดสามารถทำได้ผ่านการโบกมือผ่านเซนเซอร์ และปิดได้ด้วยการกดปุ่มเบา ๆ เท่านั้น
สรุปโดยรวมที่ภาพลักษณ์ด้านนอกถือว่ามีความสดใสมากขึ้น โดยพยายามเน้นการใส่เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้าไป แต่ก็ต้องแล้วแต่ว่าจะเลือกแนวสวยหรูแบบนี้ หรืออยากได้รถที่ให้บรรยากาศสปอร์ตมากกว่านี้ก็ต้องมองหาแบรนด์อื่น
เครื่องยนต์ฉีดตรงรุ่นแรก แรง เร่งมัน เสียงดังเล็กน้อย
นิสสันเลือกใช้เครื่องยนต์เอ็มอาร์20ดีดี ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ระบบไดเรกต์อินเจคชั่นรุ่นแรกของนิสสันในประเทศไทย ซึ่งทีมงานคุยว่านอกเหนือจากการรีดสมรรถนะที่ทำได้ดีขึ้นแล้ว เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม
เรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิงนั้นยังไม่ได้ลองจับอย่างเป็นทางการ แต่ก็เชื่อว่าคงยากที่จะทำได้ถึงการทดสอบของมาตรฐานญี่ปุ่นที่ทำไว้ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ก็น่าจะดีกว่ารุ่นเดิม โดยคร่าว ๆ น่าจะแตะหลัก 12-13 กิโลเมตรต่อลิตรได้ไม่ยาก
เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติซีวีทีแบบ 7 สปีด ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 เข้าไปแล้วสำหรับเกียร์อัตโนมัติตัวนี้
ในการขับขี่จริงต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ให้การตอบสนองที่ดี แม้ในการออกตัวจะอืดอาดไปนิด แต่ก็ถือว่าไม่เลวร้าย แถมยังโดดเด่นที่ย่านความเร็วกลางถึงสูง รวมถึงการเร่งแซงในระยะประชิดก็ทำได้ไม่มีที่ติ
การทำความเร็วที่ย่านความเร็ว 140-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถือเป็นเรื่องปกติสำหรับรถรุ่นนี้ สิ่งที่อาจจะทำให้รู้สึกตะหนกไปเล็กน้อยก็คือเสียงของเครื่องยนต์ที่ครวญครางอย่างรุนแรงในยามที่ถูกรีดเค้นพละกำลังออกมา
ก็ต้องถือว่าเป็นก้าวแรกแห่งการพัฒนาที่ดีสำหรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์แห่งอนาคตที่นิสสันเตรียมนำมาใช้กับรถยนต์อีกหลายรุ่น แต่ช่วยทำเพิ่มให้เงียบเสียงลงกว่านี้อีกเล็กน้อยก็จะดีขึ้น
ภายในเน้นกลุ่มผู้ใหญ่ ยังไม่ค่อยเอนกประสงค์
การออกแบบภายในห้องโดยสารของเอ็กซ์-เทรลนั้น ผู้สื่อข่าวอาวุโสคนหนึ่งถึงขั้นระบุว่านี่คือ "รถคนแก่" แม้ว่านิสสันจะอัดทะนานเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าไปอย่างเต็มพิกัดแล้ว ก็ไม่อาจช่วยให้บรรยากาศนั้นหายไปได้
เบาะที่นั่งหนังขนาดใหญ่ที่ดูแผ่กว้างเกินไป ยังไม่สามารถรับน้ำหนักของผู้โดยสารทุกตำแหน่งได้ดีพอ โชคยังดีที่ตำแหน่งคนขับยังมีตำแหน่งเบาะดันหลังมาให้ ขณะที่การปรับเป็นการปรับด้วยไฟฟ้าที่ตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้า
แม้จะติดตั้งที่นั่งแบบ 5+2 ที่นั่งมาให้ แต่ต้องขอบอกว่าใครที่คิดจะซื้อไปนั่ง 7 ที่นั่งจริง ๆ อาจจะต้องพิจารณาให้ดี เนื่องจากตำแหน่งการจัดที่นั่งแบบโรงหนังในรถคันนี้ ยังไม่ออกแนวโรงหนังเฟิร์สคลาส แต่เหมือนตีตั๋วถูกเข้าไปชมมากกว่า
แม้เบาะที่นั่งแถว 2 จะสามารถเลื่อนได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ของเบาะแถว 3 ซึ่งเป็นแนวคิดการพัฒนาที่น่าตื่นตะลึง แต่หากปรับตำแหน่งการนั่งที่พอรับได้ที่เบาะแถว 2 เบาะแถว 3 ก็แทบจะไม่เหลือพื้นที่วางขา หากใจดีปรับขึ้นมาข้างหน้าอีกหน่อย คนนั่งแถว 2 ก็จะขาติดทันที
จอสัมผัสแบบ 7 นิ้วที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่กลางแผงคอนโซล พร้อมด้วยจอแอลอีดี 5 นิ้วที่ตำแหน่งกึ่งกลางมาตรวัด ทำงานกันสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวในการนำเสนอข้อมูลชุดเดียวกันด้วยรูปแบบที่แตกต่างกัน
นิสสันยังได้นำระบบนิสสัน คอนเนคต์มาติดตั้งเอาไว้ ซึ่งจะทำให้เจ้าของแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน สามารถเชื่อมต่อการทำงานของเฟซบุ๊คและกูเกิล เสิร์ชเข้ากับรถได้ ซึ่งการติดตั้งครั้งแรกอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ทำครั้งเดียวก็ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง
ในโหมดเฟซบุ๊คนั้น ผู้ใช้งานสามารถสั่งให้รถยนต์อ่านสเตตัสพร้อมคอมเมนต์ สามารถกดไลค์ หรือพิมพ์ตอบโต้ได้ที่ความเร็วรถต่ำกว่า 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่กูเกิล สามารถหาสถานที่ที่ต้องการด้วยเสียงและเชื่อมต่อกับเนวิเกเตอร์ที่ติดตั้งมาในรถ
ขับสนุก ช่วงล่างไว้ใจได้ เป๊ะเวอร์!!!
แม้จะรับฟังข้อมูลเรื่องการพัฒนารถที่ทีมวิศวกรได้ติดตั้งอุปกรณ์มากมายหลายหลากมา ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมแชสซีเพื่อลดการโยนตัว ระบบช่วยรักษาเสถียรภาพของรถยามเข้าโค้ง หรือระบบลดความเร็วยามเข้าโค้ง แต่สิบปากว่าก็ไม่เท่าลองขับเอง
ขอยืนยันว่านี่คือช่วงล่างของเอสยูวีที่ดีที่สุดคันหนึ่งในประเทศไทย โดยเฉพาะสำหรับการขับบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและพื้นถนนเสีย ๆ ระบบของรถนั้นจะข่วยลดการโยนตัวของรถลงอย่างชัดเจน นั่นก็หมายถึงอาการวิงเวียนก็จะลดลงตามไปด้วย
การเข้าโค้งที่ความเร็วสูงไม่ใช่ปัญหาของรถ ระบบจะช่วยรักษาอาการของรถเอาไว้ให้ได้มากที่สุด พร้อมยังมีระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ที่ช่วยเบรกในกรณีที่มีการถอนคันเร่งเมื่อออกจากโค้ง ซึ่งระบบทั้งหมดนี้ถือเป็นครั้งแรกของเอสยูวีในประเทศไทยทั้งสิ้น
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมีให้เลือกได้ 3 โหมด ได้แก่ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อถาวร ซึ่งปรับได้ด้วยการหมุนปุ่มบิดที่เตรียมไว้อย่างง่ายดาย มาทดสอบครั้งนี้ยังไม่ได้มีโอกาสลองแต่อย่างใด
เอ็กซ์-เทรลเป็นรถใหม่ของนิสสันไม่กี่คันที่ผมขับแล้วชอบในภาพรวม แต่หากมาไล่ในรายละเอียดปลีกยอ่ย โดยเฉพาะความเอนกประสงค์ของรถที่เรียกว่าแทบจะสอบตกในพื้นที่เบาะแถวที่ 3 ก็ทำให้ต้องคิดหนักเหมือนกัน
กลุ่มลูกค้าของเอ็กซ์-เทรลอาจจะไม่ใช่ครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการพื้นที่นั่งสำหรับสมาชิกมากมายขนาดนั้นตลอดเวลา แต่อาจจะต้องการใช้เป็นพื้นที่บรรทุกสัมภาระ แต่หากต้องการขนคนไปกินข้าวใกล้ ๆ บ้านก็สามารถทำได้
นอกจากนี้ ผู้ที่ชื่นชอบรถที่ช่วงล่างไว้วางใจได้ สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายที่ความเร็วทุกย่าน โดยที่ไม่หวาดหวั่นต่อเสียงลมและเครื่องยนต์ที่พัดผ่านเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ย่านความเร็วกลาง ก็ถือว่าไม่มีอะไรให้ติมากไปกว่านี้
ถ้าใครคิดจะซื้อ 2.0วี ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ เก็บอีก 2 แสนไว้มองหาชุดแต่งเท่ ๆ มาใส่ดีกว่านะ!!!
รายละเอียดทางเทคนิค 2014 นิสสัน เอ็กซ์-เทรล 2.0วี ซีวีที ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ราคาจำหน่าย | 1.325 ล้านบาท |
เครื่องยนต์ | เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ไดเร็กอินเจคชั่น 2.0 ลิตร |
กำลังสูงสุด | 144 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 200 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติซีวีที 7 สปีดพร้อมแมนวล โหมด |
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย | 15-16 กิโลเมตรต่อลิตร (มาตรฐานญี่ปุ่น) |
ขอขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) สำหรับทริปทดสอบรถยนต์ครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com เฟซบุ๊ค Autospinn.Fans และทวิตเตอร์ @autospinn
ชมภาพ 2014 นิสสัน เอ็กซ์-เทรล 2.0วี เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ความคิดเห็น