2015 BMW xDrive Xperience เมื่อรถหรูขาลุย อยากตะกุยดิน ทราย น้ำ

ช่วงนี้เป็นเทศกาลของการเรียนขับรถในโหมดต่าง ๆ และทริปแรกของปีนี้ก็เปิดด้วยงาน 2015 BMW xDrive Xperience (2015 บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ไดร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์) ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดเส้นทางทดสอบย่อย ๆ เพื่อโชว์สมรรถนะของระบบเอ็กซ์ไดร์ฟ ซึ่งติดตั้งมาในรถตระกูลเอ็กซ์ทุกรุ่น

ด้วยความต้องการให้ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์กลุ่มเอสเอวี (SAV - Sport Activity Vehicle) ทุกรุ่นได้รับรู้ถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมมากกว่าการเป็นเอสยูวียกสูงไว้หนีน้ำท่วมหรือถนนผุพังเป็นหลุมเป็นบ่อ บีเอ็มดับเบิลยูได้เลือกเอ็กซ์3 และเอ็กซ์5 มาเป็นตัวแสดงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในครั้งนี้

จริง ๆ แล้วถ้าเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์กับรถยนต์กลุ่มนี้อยู่แล้วจะพอเข้าใจการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่บีเอ็มดับเบิลยูเรียกว่าเอ็กซ์ไดร์ฟ (xDrive) เป็นอย่างดี กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการพารถเเอสเอวีเหล่านี้ไปไหนมาไหนได้อย่างเอนกประสงค์

เอ็กซ์ไดร์ฟคือระบบที่จะควบคุมดูแลการขับขี่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาและทำการกระจายแรงไปยังตำแหน่งล้อที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดการยึดเกาะและแรงลากจูงในตำแหน่งที่ล้อสัมผัสกับพื้น ซึ่งเป็นพื้นฐานง่าย ๆ ที่ทำให้รถสามารถวิ่งไปได้บนถนนทุกสภาพ

ผลที่ได้ก็คือรถยนต์ที่ให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม ให้สมรรถนะการเข้าโค้งที่ดี และยังให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ในสภาวะออฟโรด ทำให้การบุกป่าฝ่าดงสามารถทำได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ทิ้งบรรยากาศของความหรูหราระหว่างการเดินทางลงไป

หรือสรุปให้ง่ายกว่านั้น บีเอ็มดับเบิลยูกำลังบอกลูกค้าว่า รถของคุณ ๆ ท่าน ๆ สามารถเอามาลุยป่า ฝ่าน้ำลึก วิ่งเล่นบนทราย หรือจะไปตั้งแคมป์กลางแม่น้ำก็ไม่หวั่น ช่วยเอามาใช้งานนอกจากวิ่งเล่นในเมืองอย่างเดียวเสียที

จริง ๆ แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยเองก็มีความสุขกับยอดจำหน่ายรถยนต์กลุ่มนี้มากพอตัว ยิ่งระยะหลัง ๆ ที่มีการผลิตในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นหลายรุ่น ก็ทำให้รถยนต์กลุ่มนี้มียอดจำหน่ายที่เติบโตอย่างมาก

การทดสอบหลัก ๆ มีหลายสนามให้ลองสมรรถนะ ไม่ว่าจะเป็นเนินเอียง ที่เป็นการทดสอบการยึดเกาะของล้อรถในกรณีที่วิ่งบนทางลาดชัน โดยการวิ่งเป็นทางชันที่ทำให้ตัวรถเอียงสูงสุด 27 องศา ไม่ได้ก่อให้เกิดความยากลำบากอะไร

ไม่ใช่แค่เรื่องของสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ตัวรถเองก็โดดเด่นไม่แพ้กันด้วยระบบเข็มทิศและระบบระบุองศาการลาดเอียงของตัวรถแบบดิจิตอล ที่แสดงผลให้เห็นอย่างง่ายดายด้วยกราฟฟิกและตัวเลขที่ชัดเจน บนหน้าจอแสดงผลตรงกลางขนาดใหญ่

เรายังได้มีโอกาสวิ่งเล่นบนทรายอารมณ์เหมือนไปทดลองขับผ่านทะเลทราย ด้วยการวิ่งวนเป็นเลข 8 เพื่อดูอาการของรถ ที่แม้จะบอกว่าตัวรถจะดิ้นมากจากการกดคันเร่งบนทราย แต่หากมีสมาธิดีดีแล้ว การควบคุมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สมรรถนะเยี่ยมบนพื้นทราย ก็กลายเป็นเรื่องสนุกขึ้นมาได้

หรือแม้แต่การลองขับแบบจิมคาน่าด้วยการใช้รถเอสเอวีวิ่งไถลไปบนพื้นทรายก็เป็นเรื่องที่เร้าใจและสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ แม้ว่าจะดิสควอลิฟายด์จากการเข้าผิดไพลอนก็ตามที แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกสานของการทดสอบลดลง

ทีมงานของบีเอ็มดับเบิลยูยังได้พาพวกเราเข้าไปทำการทดสอบในสภาพป่าเขาจริง ๆ โดยมีการเซตอัพเส้นทางบนภูเขาที่ไม่ได้วิ่งยากเย็นอะไร เป็นการทดสอบสมรรถนะของรถที่ดูเหมือนจะมากกว่าที่เจ้าของรถจริง ๆ กล้าที่จะใช้งานแล้ว

การวิ่งผ่านขอนไม้สลับ บ่อดิน วิ่งลงบ่อน้ำ ที่จัดเอาไว้ให้นั้น เอาจริง ๆ ถ้าเป็นเจ้าของที่ซื้อรถกลุ่มนี้ไป อาจจะส่ายหน้าหาทางกลับรถกันเลยทีเดียวเมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่เท่าที่สอบถามจากผู้ฝึกสอนก็พบว่าลูกค้าที่มาลองก็ขับได้เป็นอย่างดี เมื่อไม่ได้ใช้รถของตัวเองมาลุยจริง ๆ

แม้จะเป็นทางที่เซตอัพมาแล้ว แต่การขับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อก็ต้องใช้สมาธิมากกว่าการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนทั่วไป เพราะเผลอแค่แวบเดียวก็อาจจะต้องกินข้าวลิงทันทีเหมือนกัน เพราะหากพลาดแล้วติด ชีวิตมีพลิกผันทันที

ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่อีกครั้งกับการเรียนรู้การขับขี่รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อจากบีเอ็มดับเบิลยูในครั้งนี้ ซึ่งทางบีเอ็มดับเบิลยูก็คงไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าของรถเหล่านี้จะออกไปใช้ชีวิตกลางป่ากลางเขากันมากขึ้นหลังจากที่ได้มาทดลองขับกัน

แต่อยากให้ได้รู้ไว้ว่ารถแต่ละคันทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมและสมบูรณ์แบบมากขึ้นเท่านั้นเอง!!!