ถึงแม้เบนท์ลีย์และพอร์ชจะดำเนินธุรกิจอยู่ใต้ร่มเงาของโฟล์คสวาเกน กรุ๊ปเหมือนกันและมีการแบ่งปันเทคโนโลยีกันด้วย แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งการแข่งขันกันเองในตลาดรถระดับซูเปอร์พรีเมียมได้
ก่อนหน้านี้ วูล์ฟกัง เดอร์ไฮเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเบนท์ลีย์เคยคุยโวไว้ว่า รถเอสยูวีรุ่นใหม่อย่างเบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า ซึ่งรุ่นท็อปจะมาพร้อมขุมพลัง W12 นั้นจะเป็นรถเอสยูวีที่ทรงพลังที่สุดในระดับเดียวกัน
แต่ล่าสุด วูล์ฟกัง แฮตซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพอร์ชออกมาเปิดเผยว่าตำแหน่งรถเอสยูวีที่แรงที่สุดจะไม่ตกเป็นของเบนท์ลีย์นานนัก เพราะพอร์ชจะมาแย่งตำแหน่งดังกล่าวไปในอีกไม่ช้า
พอร์ชเพิ่งเปิดตัวคาเยนน์ เทอร์โบ เอสรุ่นใหม่ที่งานดีทรอยท์ ออโต้โชว์ พร้อมประกาศว่าเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกที่วิ่งรอบสนามเนอร์เบิร์กริงของเยอรมนีได้ภายในเวลาต่ำกว่า 8 นาที ทางแฮตซ์ยืนยันว่าคาเยนน์รุ่นใหม่จะไปได้เร็วกว่านี้อีก
“คาเยนน์ของเราเป็นรถที่ทรงพลังอย่างมาก มันสามารถทำความเร็วได้ที่ 300 กม./ชม. แต่ถ้าเบนท์ลีย์จะทำได้เร็วกว่านั้นเล็กน้อยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะรถเบนท์ลีย์ใช้เครื่องยนต์ 12 สูบ แต่ที่แน่ๆ รถของเราจะเร็วกว่ามากบนถนนจริง” แฮทตซ์กล่าว
มีรายงานว่าคาเยนน์เจนเนอเรชั่นต่อไปจะใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่แกะกล่อง ซึ่งแฮตซ์เน้นย้ำด้วยว่าตัวรถจะมีน้ำหนักเบาโดยถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากออดี้ คิว7 ซึ่งใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มเดียวกัน
ฟังดูแล้วเป็นความขัดแย้งระหว่างสองแบรนด์ที่น่าจะ “วิน-วิน” ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ส่วนลูกค้าก็ได้ประโยชน์ที่มีตัวเลือกรถเอสยูวีสมรรถนะสูงให้เลือกใช้อย่างจุใจ
ความคิดเห็น