พลังงานจากการกลั่นกรองผ่านมันสมองของมนุษย์เพื่อสร้างเครื่องจักรที่ใช้ในการขับเคลื่อนได้ดำเนินมานานกว่าร้อยปีแล้ว อย่างที่หลายๆ ท่านรู้ดีว่าเทคโนโลยีใหม่ในวงการยานยนต์ที่มีและใช้อยู่ในปัจจุบัน ต้องมีการลงทุนลงแรงศึกษาวิจัยและทดลองจนแน่ใจว่าสามารถใช้งานได้จริง ในโลกแห่งอุตสาหกรรมของการผลิตรถยนต์ที่มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ทำให้เกิดทางเลือกที่มีความหลากหลาย ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบรถยนต์ที่มีกำลังพอตัว มีความประหยัดในระดับที่ไม่ต้องวิ่งเข้า-ออกปั๊มเชื้อเพลิงกันบ่อยครั้ง ความต้องการของผู้ใช้รถส่วนใหญ่พุ่งตรงไปยังสภาพการควบคุมขับขี่ที่ต้องโดนใจ อุปกรณ์ที่ได้รับจะต้องใช้งานได้จริงสะดวกและมีความทนทานเป็นหลัก โจทย์หรือเป้าหมายในการเลือกซื้อรถยนต์ของผู้คนทั่วไปนั้น มีการกำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้ค่อนข้างสูง มาตรฐานดังกล่าวทำให้เกิดการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา รถที่เร็วจำเป็นต้องมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ให้แรงม้ามากๆ มีปั๊มเชื้อเพลิงแรงดันสูงที่จะส่งเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็วเพื่อจุดระเบิดอย่างต่อเนื่อง มีชุดอัดอากาศคอยป้อนลำเลียงอากาศประจุอัดเข้าไปยังท่อร่วมไอดี ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นขัดแย้งสวนทางกับความประหยัดอย่างสิ้นเชิง
หลักการขั้นพื้นฐานของแนวคิดในการสร้างเครื่องยนต์ยุคใหม่ก็คือ ย่อขนาดลดความจุลดกระบอกสูบและติดตั้งระบบอัดอากาศกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่ทันสมัย ขนาดที่เล็กลงของเครื่องยนต์ แต่ยังคงกำลังในรูปของแรงม้าและแรงบิดเท่ากับเครื่องยนต์ที่มีความจุมากกว่า ยิ่งเล็กลงเท่าไหร่ น้ำหนักของเครื่องตัวนั้นก็จะยิ่งเบามากขึ้นเท่านั้น เมื่อเบาขึ้น การใช้เชื้อเพลิงก็จะน้อยลงไปตามความต้องการของเครื่องตัวเล็กที่ต้องการเชื้อเพลิงไม่มากเท่ากับเครื่องไซส์โต ปัจจุบัน การหั่นกระบอกสูบออกไปหนึ่งสูบหรือแม้แต่สองสูบกลายเป็นแนวทางใหม่ของการสร้างรถยนต์ ขนาดที่เล็กลงของเครื่องยนต์แบบสามกระบอกสูบอาจทำงานได้ไม่เสถียรเท่ากับเครื่องยนต์ที่มีสูบแบบสมมาตรหรือเครื่องแบบสี่กระบอกสูบ วิศวกรของ Ford หาทางแก้อันชาญฉลาดด้วยการเพิ่มล้อช่วยแรงและลูกรอกติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สมดุล เพื่อชดเชยน้ำหนักของเครื่องยนต์ในทิศทางที่เหมาะสม การออกแบบในลักษณะดังกล่าวช่วยกระจายแรงสั่นสะเทือนไปยังทิศทางที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อตัวรถมากนัก ทีมวิศวกรของ Ford ยังมีการออกแบบแผ่นรองแท่นเครื่องให้สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผลลัพธ์ก็คือ การสร้างหนึ่งในเครื่องยนต์ขนาดเล็ก (มาก) ที่ทำงานได้เสถียรและเงียบที่สุดในจำนวนเครื่องยนต์ขนาดเล็ก หรือแทบจะเรียกได้ว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้ ทำงานโดยมีเสียงรบกวนและอาการสั่นสะเทือนน้อยมากขณะจอดติดเครื่องเดินเบา
ข้อดีของเครื่องยนต์สามสูบนอกจากจะมีขนาดที่เล็กและเบาแล้ว ด้วยแนวคิดใหม่ด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์ของผู้สร้างจึงมีการคิดค้นทำให้เครื่องสามสูบมีความเสถียรสูงสุดขณะที่กำลังหมุน โดยมีความเสถียรของการหมุนเกิดขึ้นตั้งแต่รอบเดินเบาไปจนถึงรอบสูงสุด วิศวกรของบริษัท Ford Motor รู้ดีว่าน้ำหนักนั้นคือศัตรูตัวสำคัญของความเร็ว การจะสร้างรถสักคันให้มีสมรรถนะที่โดนใจจึงมีความจำเป็นที่จะต้องระดมทั้งมันสมองบวกกับความมุ่งมั่นและจินตนาการ วิศวกรของ Ford ได้ให้กำเนิดรถยนต์ Fiesta บนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ECO-Boost 1.0L แบบสามกระบอกสูบรุ่นล่าสุด เจ้าจิ๋ว Fiesta ECO-Boost 1.0L ได้เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในด้านนวัตกรรมขุมกำลังขนาดจิ๋วด้วยการคว้ารางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2012 จากการเทคะแนนของสื่อมวลชนหลายสำนักในต่างประเทศ กลายเป็นที่มาของรถเล็กที่วางเครื่องยนต์ที่มีสูบเพียงแค่สามตำแหน่งแต่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าเครื่องยนต์แบบสี่กระบอกสูบที่หนักกว่า กินเชื้อเพลิงมากกว่าและปล่อยมลพิษสูงกว่าแบบเห็นๆ
ผมกำลังควบเจ้า Ford Fiesta ECO-Boost 1.0 ลิตรมุ่งหน้าไปยังจังหวัดประจวบฯ บนตัวเลขที่วิศวกรของ Ford ที่ได้แจ้งเอาไว้เกี่ยวกับรายละเอียดของรถรุ่นนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขับพิสูจน์ว่าสิ่งที่บอกมาทั้งหมดนั้นมันคือเรื่องจริง Fiesta รุ่นใหม่มีหน้าตาที่คมคายมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนปรับทั้งโฉมและเครื่องยนต์ รูปลักษณ์ด้านหน้าคล้ายกับการนำเอา Aston Martin มาย่อส่วนให้เล็กลง ส่วนกำลังที่ได้รับจากเครื่อง 1.5 ลิตรใน Fiesta โฉมที่แล้ว แม้จะทำให้เกิดอารมณ์สนุกได้บ้างแต่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้นยังคงมีตัวเลขที่ธรรมดาเกินไปเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ของ Mazda ซึ่งมีทั้งเบนซินและดีเซล เครื่อง ECO-Boost นั้นเป็นรองทั้งความจุและจำนวนกระบอกสูบ แต่หลังจากขับไปได้สักพักเดียวผมก็รู้ว่ารถคันนี้นั้นมีเครื่องยนต์ที่ไม่ธรรมดา เครื่องสามสูบตัวจิ๋วอัดอากาศด้วยเทอร์โบตัวเล็กสามารถสร้างความบันเทิงหลังพวงมาลัยได้อย่างน่าชื่นชม การเร่งความเร็วออกตัวจากสัญญาณไฟจราจร การวิ่งซิกแซ็กเปลี่ยนช่องทางมีความกระชับและฉับไวตอบสนองได้อย่างน่าประหลาดใจ เมื่อเปิดฝากระโปรง คุณจะพบกับเครื่องเคราของเจ้านี่ซึ่งถูกวางให้ร่นเข้าไปใกล้กับห้องโดยสารเพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดี เมื่อเครื่องเล็กลง เทอร์โบก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใหญ่โตมโหระทึกจนเกินงาม กำลัง 125 แรงม้ากับแรงบิด 170 นิวตันเมตร บนพื้นฐานการของเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า เจ้า Fiesta ทำตัวเหมือนกับรถเล็กจากญี่ปุ่นทั่วๆ ไป แต่จุดยึดโยงของแท่นเครื่องแท่นเกียร์ที่แข็งแรง บวกกับช่วงล่างที่ส่งถ่ายอาการแบบรถเล็กจากยุโรปด้วยความหนึบแน่น แถมพกด้วยน้ำหนักของพวงมาลัยที่แม่นยำแน่นอน ทำให้มันเหนือกว่ารถยุ่นที่มีขนาดเท่ากันอย่างเห็นได้ชัด เมื่อทั้งหมดถูกจับคู่กับเทคโนโลยี ECO-Boost ความมันก็บังเกิดขึ้นทันทีทันควัน
Fiesta เป็นหนึ่งในรถเล็กที่ออกแบบท่านั่งได้เป็นอย่างดี เบาะคนขับยกสูงก็ได้กดต่ำก็ดี โดยสามารถปรับเบาะกับระยะของพวงมาลัยให้มีความสอดคล้องกับสรีระของผู้ขับได้อย่างกลมกลืน มาตรวัดเรืองแสงใช้เข็มเล็กๆ สีฟ้ากระจ่างตาที่ให้มุมมองแบบสปอร์ตแนวอเมริกันชนจากรูปแบบแนวๆ ของหน้าปัดมาตรวัด ตำแหน่งของเกียร์อยู่ในระยะที่จับยึดผลักดันได้สะดวกข้อมือ ตำแหน่งของการมอง เมื่อปรับให้ระดับสายตาของผู้ขับอยู่ตรงกึ่งกลางของกระจกบังลมบานหน้า แขนและเข่าท่ีไม่ตึงหรืองอมากจนเกินไป ท่านั่งที่ไม่สบายมากจนเกินไป หรือไม่กระชับใกล้ชิดมากจนเกินงามใน New Fiesta จะช่วยทำให้คุณควบคุมมันได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น คันเร่งและแป้นเบรกวางมาดีแบบใกล้กันพอสมควร ทำให้การสลับเท้าจากแป้นคันเร่งไปยังแป้นเบรกมีความฉับไวใช้ได้ พวงมาลัยหุ้มหนังทรงสามก้านมีรอบวงที่ไม่ใหญ่โตเหมือนรถบรรทุกหรือเล็กจิ๋วราวกับพวงมาลัยในรถกระป๊อ ขนาดรอบวงที่พอดิบพอดี แม้จะไม่งดงามเท่ากับพวงมาลัยของรถราคาแพงแต่ก็มีความน่าใช้งานจากการใช้วัสดุห่อหุ้มที่ช่วยทำให้จับถือได้อย่างติดไม้ติดมือ ขับในเมืองพวงมาลัยในย่านความเร็วต่ำเบาสบายมือแต่ก็ยังไม่เบาเท่ากับพวงมาลัยของ Honda City ระยะของการหมุนท่ีค่อนข้างกระชับทำให้การเปลี่ยนช่องทางไม่ต้องออกแรงหมุนกันมากมายอะไร การหักเลี้ยวเข้าไปในตรอกซอกซอยคับแคบ จากขนาดของตัวถังที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรทำให้มันเป็นรถที่มีความคล่องตัวสูงคันหนึ่งเมื่อนำมาขับในเมือง
Ford Fiesta ECO-Boost 1.0 ลิตร มีช่วงล่างที่ออกแนวค่อนข้างแข็ง สปริงกับโช้คอัพที่หนึบแน่นใช้ได้ จุดยึดโยงของช่วงล่างส่งถ่ายความหนึบให้ได้รู้สึกเมื่อวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ แกนของคานหลังในช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบีมที่ด้านหลังให้ตัวได้น้อย มันคือวิธีการปรับช่วงล่างให้มีความสมดุลกับขนาดของตัวถังและย่านของกำลังแรงบิดซึ่ง Ford มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะตอนที่ขับเร็วๆ คุณสามารถขับใช้งานมันได้ในแบบที่คุณต้องการ Fiesta ไม่ได้เป็นรถที่เร็วเหมือนกับ Fiesta ST รุ่นพี่ที่พกพาความแสบด้วยแรงม้ากว่า 200 ตัว เจ้า ECO-Boost ตัวจิ๋วคันนี้มีย่านของกำลังแรงบิด 170 นิวตันเมตรซึ่งมีความเหมาะสมกับขนาดและมวลเป็นอย่างยิ่ง แถมยังมีความประหยัดติดตัวมาตั้งแต่ออกจากโรงงานทำให้ขับได้อย่างสบายใจสบายกระเป๋า เมื่อขับเข้าโค้งแรงๆ ประสิทธิภาพที่ดีของแชสซีส์จะแสดงตัวตนออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด พวงมาลัยที่ใครก็สามารถควบคุมได้จากความแม่นทำให้ผมนึกสนุกและเริ่มขับเร็วขึ้นแบบไม่รู้ตัว เครื่องยนต์สามสูบอัดเทอร์โบตัวจิ๋วนั้น ชุดอัดอากาศเทอร์โบไม่ได้ให้แรงอัดมากมายอะไรจนถึงกับดึงให้หลังติดเบาะ เมื่อไม่ได้แรงแบบมุทะลุดุดัน Fiesta จึงเป็นรถเล็กที่ควบคุมได้อย่างง่ายดาย ชุดเกียร์ 6 สปีด Power Shift ปรับอัตราทดมาค่อนข้างดี คุณสามารถเข้าเกียร์เองด้วยการกดสวิตช์ +/- ซึ่งอยู่บริเวณหัวเกียร์ ตำแหน่งของการเปลี่ยนเกียร์ตัวของผู้ขับที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องทำให้ใช้งานได้ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่นัก สวิตช์ Power Shift ใน Ford Fiesta ECO-Boost ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้เกียร์ออโต้ในลักษณะแมนนวลนั้นคงต้องใช้ความคุ้นเคยสักพักกว่าจะชินและใช้งานมันได้ถนัดมือมากกว่านี้ เกียร์ออโตทอร์คคอนเวอร์เตอร์ Power Shift 6 สปีดของ New Fiesta ทำงานในลักษณะให้ความรู้สึกที่มีความแตกต่างออกไปจากเกียร์สายพานพูเล่ย์แบบ CVT อย่างชัดเจน ขอบคุณเกียร์ลูกนี้ที่ช่วยทำให้สมรรถนะของเครื่องยนต์แสดงออกมาจนสุดติ่ง มันมีส่วนช่วยอย่างมากที่ทำให้รถอย่าง Fiesta ขับได้สนุกสุดๆ ต้องยกนิ้วให้วิศวกรของ Ford ที่ไม่เลือกเกียร์สายพานที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายมาประจำการใน New Fiesta เมื่อลงส่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมืองโดยเฉลี่ย เจ้า Fiesta ECO-Boost ทำได้ 10.8 กิโลเมตรต่อลิตร
เทอร์โบและซุปเปอร์ชาร์จได้เข้ามามีส่วนช่วยทำให้ขนาดของเครื่องยนต์เล็กลง มันช่วยลดความจุกระบอกสูบหรือแม้แต่ลดจำนวนของกระบอกสูบ จากประสิทธิภาพของการบูสพลังงานซึ่งมีส่วนเป็นอย่างมากในการอัพสมรรถนะ เครื่องขนาดเล็กในปัจจุบัน ทั้งเครื่องยนต์สามสูบใน Fiesta / MINI Cooper / BMW i8 ชอบทำตัวเป็นพวกมวยตัวเล็กหมัดหนักด้วยการข้ามรุ่นขึ้นไปท้าต่อยกับนักมวยที่ตัวใหญ่กว่า พลังงานของเครื่องสามสูบ 1.0 ลิตรเทอร์โบจากบริษัท Ford นั้นเทียบเท่าหรือมากกว่าเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 1.5 ลิตร มันเกิดขึ้นจากการปรับระบบจ่ายเชื้อเพลิง การออกแบบอัตราทดของเกียร์ Power Shift กลไกของเทอร์โบและน้ำหนักโดยรวมของตัวรถ Fiesta ที่เน้นความเบาเป็นพิเศษ โดยมีน้ำหนักแค่ 1112 กิโลกรัม การเข้าถึงสมรรถนะของ Fiesta ECO-Boost นั้นง่ายดายมาก หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการเข้าถึงตัวตนของรถคันนี้ เมื่อผมขับเจ้านี่ออกนอกเมืองไปไกลมากยิ่งขึ้น มันตอบโต้ด้วยการขับขี่ที่ดีซึ่งเป็นคุณลักษณะอันพึงมีของรถเล็กในปัจจุบัน การห้อตะบึงบนไฮเวย์บนการทำงานของช่วงล่างและระบบรองรับ ยาง Continental รุ่น conti premium contact 2 ไซส์ 195/50/R16 88V มีเสียงบดไปบนผิวถนนให้พอได้ยิน เจ้า Fiesta เป็นรถที่มีการเก็บเสียงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไป เสียงลมและเสียงการทำงานของยางเริ่มดังขึ้นที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันไม่ได้ดังมากมายอะไรจนน่ารำคาญซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของรถยนต์ที่มีราคาค่าตัวแค่นี้ ผมจำได้เป็นอย่างดีถึงความสนุกในรถ 5 ประตูแบบแฮตช์แบคซึ่งคันสุดท้ายที่ได้ขับคือ BMW 116i M-Sport ราคา 1.99 ล้านบาท พอได้กลับมาขับเจ้า Fiesta ECO-Boost ราคา 7.8 แสนบาท น่าแปลกใจที่ความรู้สึกสนุกสนานหลังพวงมาลัยนั้นกลับคืนมาอีกครั้ง
หลังคาที่ลาดเอียงน้อยลงกับบานหน้าต่างของประตูท้ายทำให้ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่พอเพียงต่อการนั่งโดยสารทางไกล ทางบายพาสจากชะอำมุ่งหน้าไปยังอำเภอปราณบุรี ผมซัดมันจนเต็มฝ่าเท้าโดยกดคันเร่งจนสุดถึงตำแหน่งเกียร์ 3 การเปลี่ยนเกียร์มีความกระชั้นชิดมากขึ้นทำให้รู้สึกสนุกเมื่อใช้รอบสูงอัดเจ้านี่ รอบเครื่องหมุนติ้วปั่นเครื่องยนต์สามสูบกระแทกกระทั้นดันทรวงจนสาแก่ใจ ข้อดีของรถคันนี้ไม่ได้ขึ้นตรงกับระบบขับเคลื่อนทั้งหมด แม้วงเลี้ยวจะไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวอะไรแต่น้ำหนักของพวงมาลัยที่ออกแนวหนักแน่นทำให้ Fiesta ECO-Boost สามารถพุ่งเข้า-ออกโค้งทั้งมุมกว้างและมุมแคบได้อย่างกระฉับกระเฉง มันเป็นรถที่เก็บซ่อนอาการต่างๆ ได้ดีพอสมควร อาการทอร์คสเตียร์ไม่ปรากฏให้เห็น เบรกที่ย่านความเร็วสูงก็ยังคงนิ่งใช้ได้ไม่เป๋ปัดดึงซ้ายป่ายขวาจนทำให้เกิดอาการประสาทหลอน ความประทับใจในตัวรถคันนี้เกิดขึ้นจากการที่เครื่องยนต์สามสูบ เกียร์ 6 สปีด ค่าการยึดเกาะของช่วงล่าง ชุดบังคับเลี้ยวและการควบคุมตัวถัง ทั้งหมดทั้งปวงทำงานผสมผสานกันเป็นอย่างดีจนทำให้มันกลายเป็นแฮตช์แบคที่ขับได้สนุกมากคันหนึ่งของวงการรถเล็กที่มีขายในประเทศไทย
เรื่องที่ทำให้ผมแปลกใจหลังจากเคยขับเจ้านี่ในแถบเทือกเขาขุนตาลเมื่อ 2 ปีก่อนก็คือ มันทำได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้อยู่พอสมควร เครื่องยนต์สามสูบตัวจิ๋วบวกเกียร์ Power Shift 6 สปีดสร้างรอยยิ้มให้ปรากฏบนใบหน้าตลอดระยะเวลาของการอยู่ร่วมกัน 6 วันเต็มๆ จากการที่มันพยายามจะเชื่อมต่อตัวตนให้เข้ากับลักษณะการขับขี่ของคุณ เมื่อได้ควบแฮตช์แบค 5 ประตูดีๆ สักคันแบบรถคันนี้ มีความจำเป็นอะไรอีกหรือไม่ที่คุณจะต้องหันไปเลือกรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ก็ต้องลองคิดดูเอาเอง ราคาค่าตัว 7.4 แสนบาท นั้นพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Mazda 2 Skyactiv D 1.5L รุ่นท็อปสุดเครื่องยนต์ดีเซล ดูๆ ไปแล้วก็อยู่ที่ความรักใคร่ชอบพอส่วนตัวของคุณว่าจะเลือกคบหากับ Ford หรือ Mazda สรุปได้เลยว่าสมรรถนะของทั้งสองคันมีดีมีด้อยกันไปคนละแบบคนละสไตล์ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณเองซึ่งเป็นคนจ่ายเงิน ทั้งสองคันเป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่มีการขับขี่ที่คล้ายคลึงกันมาก รวมถึงรูปแบบ 5 ประตูแฮตช์แบคที่ใกล้เคียงกัน ทั้งมิติ น้ำหนักตัวและประสิทธิภาพโดยรวม ทั้งหมดทั้งปวงจากประสิทธิภาพของรถเล็กทั้งสองยี่ห้อนี้จะทำให้คุณตัดสินใจยากขึ้นจริงๆ
ขอขอบคุณเนื้อหาจากฟอร์ด ประเทศไทยและไทยรัฐออนไลน์ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.ford.co.th/cars/new-fiesta
ความคิดเห็น