ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตไปแล้ว ถึงแม้ระบบขนส่งมวลชน (ในกรุงเทพฯ) จะครอบคลุมมากขึ้น แต่รถยนต์ส่วนตัวก็ยังให้ความสะดวกสบายมากกว่าถึงแม้จะต้องฟันฝ่าการจราจรอันหนาแน่นในบางช่วงเวลาก็ตาม
แต่การซื้อรถสักคันมีข้อควรพิจารณามากกว่าแค่การควักกระเป๋าจ่ายเงินและขับรถป้ายแดงกลับบ้าน ด้วยราคาจำหน่ายหลักหลายแสนบาทและมีค่าบำรุงรักษาตามมาอีกมากมาย ทำให้ต้องมีการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะบรรดามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่ส่วนใหญ่แล้วต้อง “ผ่อนจ่าย” กันยาวนานหลายปี
เลือกรถให้เหมาะสม
ควรเลือกซื้อรถที่เหมาะสมกับการใช้งานและกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ โดยตัวเลือกมีตั้งแต่รถอีโคคาร์หลักไม่เกินห้าแสนบาทไปจนถึงรถยุโรปและรถสปอร์ตอีกมากมายนับร้อยรุ่นย่อยที่มีค่าตัวหลายล้านบาท นอกจากการเลือกรถที่เหมาะสมกับฐานะแล้ว ควรจะไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยว่าการซื้อรถนั้น “มีความจำเป็น” ต่อการดำรงชีวิตจริงๆหรือไม่ เพราะการซื้อรถหมายถึงการมีภาระด้านการเงินติดตัวไปอีกหลายปี
ภาระเงินผ่อนไม่ควรเกิน 30%
การซื้อรถด้วยเงินสดเหมาะสำหรับคนที่มีเงินก้อนมากเพียงพอ แต่ผู้คนส่วนใหญ่แล้วมักเลือกซื้อรถเงินผ่อนเพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงินได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การผ่อนชำระค่างวดแต่ละเดือนไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ที่มีอยู่ อาทิเงินเดือน 20,000 บาท ควรผ่อนชำระที่ไม่เกิน 6,000 บาทต่อเดือนเพื่อที่จะมีเงินเหลือในแต่ละเดือนสำหรับการเก็บออม เติมน้ำมันและค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ
ผ่อนนาน ดอกเบี้ยแพง
นอกจากค่างวดชำระที่ไม่ควรสูงเกินกำลังที่มีแล้ว ระยะเวลาการผ่อนชำระก็ไม่ควรยาวนานเกินไปด้วย โดยไม่ควรเกิน 4 ปีซึ่งดอกเบี้ยของรถระดับ 6 แสนบาทจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท แต่ถ้าระยะเวลาผ่อนยืดขยายไปเป็น 7 หรือ 8 ปี ดอกเบี้ยดังกล่าวจะพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวหรือ 2 แสนบาทเลยทีเดียว โดยดอกเบี้ยรถมือหนึ่งจะถูกกว่ารถมือสอง ดังนั้นควรชั่งใจให้ดี ราคารถมือสองมักถูกกว่าแต่ก็จะเข้าตำรา “ตาดีได้ ตาร้ายเสีย” อาจต้องเสียเงินซ่อมแซมตัวรถเพิ่มเติมได้ถ้าเจ้าของคนเก่าไม่ดูแลให้ดี ในทางกลับกัน ถ้าเลือกรถมือสองคุณภาพดีได้ก็จะถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว
เลือกรถที่มีโปรโมชั่น
บรรดาค่ายรถมักนำเสนอแคมเปญและโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจลูกค้า โดยเฉพาะรถโมเดลปีเก่าหรือรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ซึ่งมักจะมีส่วนรถหรือข้อเสนอที่น่าสนใจ สำหรับคนที่มองหาความจำเป็นในการใช้รถจริงๆ การเลือกซื้อรุ่นที่ไม่ใช่โมเดลใหม่ล่าสุดแต่มีราคาถูกลงย่อมให้ความคุ้มค่าได้ดี ขณะเดียวกัน การเจรจาต่อรองกับเซลส์ขายรถอย่างละเอียดถี่ถ้วนก็อาจได้รับข้อเสนอหรือของแถมเพิ่มเติมด้วย
เผื่อเงินสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น
การซื้อรถแต่ละคันไม่ได้จบที่การชำระค่างวดเท่านั้น หากยังมีค่าประกันภัย พรบ. การตรวจเช็คสภาพรถและค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอื่นๆ ตามมาอีก โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งราคารถสูงมากเท่าไหร่ ค่าซ่อมบำรุงยิ่งแพงตามไปด้วย โดยเฉลี่ยแล้วรายจ่ายต่อปีที่นอกเหนือจากค่างวดรถจะอยู่ที่ราว 20,000 – 25,000 บาทสำหรับรถราคาเฉลี่ย 5 – 8 แสนบาท
ความคิดเห็น