เป็นค่ายรถยนต์ที่ถูกจับตามากที่สุดในเวลานี้ สำหรับเชฟโรเลต ประเทศไทย ที่หลังจากการประกาศปรับแผนงานครั้งใหญ่ในรอบเดือนที่ผ่านมา ตามมาด้วยคำถามมากมายถึงแผนการดำเนินงานของเชฟโรเลตในช่วงต่อจากนี้
การดำเนินงานของเจนเนอรัล มอเตอร์สและเชฟโรเลตในภูมิภาคอาเซียนดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก เมื่อมีการประกาศปิดโรงงานในอินโดนีเซีย รวมถึงการปรับแผนงานครั้งใหญ่ในประเทศไทยตามที่เสนอข่าวกันมาก่อนหน้านี้
มาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) และเชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในวันเปิดตัวปิกอัพรุ่นใหม่ล่าสุด เชฟโรเลต โคโรลาโด ไฮ คันทรี เอาไว้อย่างน่าสนใจ
เขาระบุว่าการบริหารงานของเชฟโรเลตในประเทศไทย จะมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยเป็นหลัก ทำให้บริษัทตัดสินใจเลิกทำตลาดรถยนต์นั่งเกือบทั้งหมด แล้วมุ่งเน้นไปที่รถปิกอัพและเอสยูวีเท่านั้น
"สัดส่วนการจำหน่ายของเชฟโรเลตที่ผ่านมา กว่า 75% คือรถยนต์กลุ่มดังกล่าว เรามองว่าเพื่อการตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้า เราจึงมุ่งมั่นที่จะทำตลาดของเราให้ดีที่สุด เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน"
เพอร์ตี้ระบุถึงการทำตลาดเชฟโรเลต ครูซ ว่าแม้จะเป็นรถที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ผู้บริโภคในประเทศไทยมีความต้องการ และมองว่าเหมาะสมในตลาด จึงเป็นรถยนต์นั่งเพียงรุ่นเดียวที่จะทำตลาดในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่าแม้จะไม่ได้ทำตลาดต่อไปแล้วในรุ่นสปินและโซนิค แต่เชฟโรเลตก็สัญญาว่าจะเดินหน้าดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ต่อไป ทั้งในเรื่องของการให้บริการและอะไหล่ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสบายใจสูงสุด
"เราจะทำตลาดเชฟโรเลต สปินและโซนิคต่อไปจนหมดอายุของโมเดล จากนั้นก็จะเดินหน้าทำตลาดสินค้าที่เราประกาศไว้ แต่การให้บริการของเราจะยังดูแลลูกค้าทุกรายของเชฟโรเลตเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง"
เขายังได้ระบุถึงแผนการลดพนักงานลง 30% ตามที่เป็นข่าว ว่าไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการลดจำนวนพนักงานลงไป แต่หากมองในภาพรวมแล้ว จะต้องบริหารเพื่อลดประสิทธิภาพในการดำเนินงานในภาพรวมลงให้ได้ 30% เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการทำตลาด
และขอยืนยันว่าเชฟโรเลตและจีเอ็มจะเดินหน้าทำตลาดในประเทศไทยต่อไปในอนาคต!!!
ความคิดเห็น