เมอร์เซเดส-เบนซ์ประกาศเผยโฉมจีแอลอี (Mercedes-Benz GLE) อย่างเป็นทางการ ก่อนการโชว์ตัวจริงภายในงานนิวยอร์ก ออโต้โชว์สัปดาห์หน้า
จีแอลอีคือรถเอสยูวีที่มาแทนที่เอ็ม-คลาส (M-Class) ตามกลยุทธ์การเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รูปลักษณ์ภายนอกยังคงคุ้นตาแต่ถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หลายส่วน ทั้งกรอบไฟ กระจังและแผงกันชนหน้า ขณะที่บั้นท้ายเปลี่ยนกรอบไฟเป็นแบบ LED แผงกันชนและท่อไอเสียดูสปอร์ตยิ่งขึ้น
ค่ายรถยักษ์เยอรมันยังนำเสนอเวอร์ชั่นเอเอ็มจีที่มีความดุดันเต็มพิกัด ทั้งกันชน กระจังแบบซี่เดียวและล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วสีเทาไทเทเนียม นอกจากนี้ยังมีแผงดิฟฟิวเซอร์และท่อไอเสียถึงสี่ชุด
ภายในห้องโดยสารยังคงสไตล์เดิม แต่มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นชุดใหม่และระบบอินโฟเทนเมนเมนท์ มีการตกแต่งด้วยสีเฉดพรีเมียม ทั้งสีเบจ น้ำตาลและสีพอซเซเลน ลูกค้ายังสามารถเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ อลูมิเนียม เปียโนแบล็ก ไม้ยูคาลิปตัสและไม้วอลนัท รวมถึงวัสดุประเภทอื่นอีกมากมาย
เครื่องยนต์สแตนดาร์ดมี 4 รุ่น เริ่มจาก
เบนซิน V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร พละกำลัง 333 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร
เบนซิน V8 ทวินเทอร์โบ 4.7 ลิตร พละกำลัง 435 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร
ดีเซล 4 สูบ 2.1 ลิตร เทอร์โบ พละกำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร
ดีเซล V6 3.0 ลิตร เทอร์โบ พละกำลัง 258 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร
ลูกค้ายังสามารถเลือกรุ่นสมรรถนะสูง จีแอลอี 63 เอเอ็มจี (GLE 63 AMG) ที่ใช้หัวใจ V8 ความจุกระบอกสูบ 5.5 ลิตร ทวินเทอร์โบพละกำลัง 557 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีรุ่น จีแอลอี 63 เอเอ็มจี เอส (GLE 63 AMG S) ที่แรงยิ่งขึ้นด้วยพลัง 585 แรงม้า แรงบิด 760 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.2 วินาทีเท่านั้น
สำหรับคนรักความประหยัดสามารถเลือกรุ่นจีแอลอี 500อี 4 แมติก (GLE 500 e 4MATIC) ปลั๊กอินไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ V6 BlueDIRECT ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 7G-TRONIC PLUS รีดพละกำลัง 442 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันระดับ 30.3 กม./ลิตร
ความคิดเห็น