ความคืบหน้ากรณีตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของสนามแข่งรถโบนันซ่า เขาใหญ่ พบผู้ครอบครองสามารถนำเอกสารสิทธิ์การครอบครองได้เพียง 5 แปลงรวม 47 ไร่ ขณะที่อีกกว่า 100 ไร่ยังไร้คำตอบ กองทัพยันหากแสดงไม่ได้ต้องรื้อถอนทั้งหมด
หลังจากที่ พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 ร่วมกับ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบบริเวณสนามแข่งรถและพื้นที่ปลูกบ้านพัก ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง เขาอ่างหิน บ้านโบนันซ่า รีสอร์ทเขาใหญ่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รวมพื้นที่กว่า 151 ไร่ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด ทางกองทัพได้ออกมาระบุว่ากรมป่าไม้คือหน่วยงานที่จะต้องรับผิดชอบดูแลในขั้นตอนต่าง ๆ แต่ในเบื้องต้นพบว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าในการแผ้วถางที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ และยังพบสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 10 หลังคาเรือน อีกทั้งยังมีการสร้างสนามแข่งรถที่ไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่ดินบริเวณดังกล่าวพบว่ามีเนื้อที่เกือบ 200 ไร่ แต่ผู้ครอบครองสามารถนำเอกสารสิทธิ์มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้เพียง 47 ไร่เท่านั้น และไม่มีการแสดงเอกสารสิทธิ์อีกกว่า 100 ไร่ ซึ่งนอกจากกรมป่าไม้แล้ว อบต.ขนงพระซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ก็สามารถใช้กฎหมายควบคุมได้เช่นกัน
"เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่รับผิดชอบในการดูแล โดยจากการสอบตรวจรายชื่อก็พบว่า เป็นผู้ที่มีอำนาจในการดูแลและบริการสนามแข่งขันรถ ในข้อหาบุกรุกแผ้วถางถือครองที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งจะต้องนำพื้นที่ดังกล่าวกลับคืนมาอย่างแน่นอน"
หากพิจารณาจากแผนที่ด้านบนจะพบว่าเจ้าของสนามแข่งดังกล่าวครอบครองพื้นที่ดิน 5 แห่งในลักษณะกระจายตัวล้อมรอบสนาม และใช้พื้นที่ตรงกลางในการปลูกสร้างสนามและสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งหากเป็นเจตนาเพื่อบุกรุกจริง ข้อแก้ตัวที่่ว่าไม่ทราบว่าผิดกฎหมายเพราะเป็นการซื้อต่อจากชาวบ้านและพร้อมคืนที่ดินให้หลวงนั้น อาจจะไม่เพียงพอ!!!
LINE
ความคิดเห็น