[ลองขี่] ก่อนใครในเอเชียกับ ดูคาติ มอนสเตอร์821 เจ้าสัตว์ประหลาดโฉมใหม่ที่ไม่ได้เปลี่ยนแค่เลขท้ายสามตัว Share this

[ลองขี่] ก่อนใครในเอเชียกับ ดูคาติ มอนสเตอร์821 เจ้าสัตว์ประหลาดโฉมใหม่ที่ไม่ได้เปลี่ยนแค่เลขท้ายสามตัว

Ken
โดย Ken
โพสต์เมื่อ 30 April 2558

หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยไปเมื่องาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา วันนี้ก็ถึงเวลาที่ทางดูคาติเอเชียจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนในภูมิภาคได้สัมผัสกับเจ้ามอนเตอร์โฉมใหม่ที่เปลี่ยนเลขท้ายสามตัวเป็น 821


หลังจากที่เราได้เห็น ดูคาติ มอนสเตอร์795 และ มอนสเตอร์796 ร่อนไปร่อนมาอยู่หลายปี ตอนนี้ถึงเวลาชาวมอนสเตอทิสติหรือสาวกมอนสเตอร์จะได้ตื่นตาตื่นใจกับประสบการณ์ครั้งใหม่กับมอนสเตอร์โฉมใหม่ที่ไม่ใช่เพียงขยับขนาดความจุกระบอกสูบจาก 803 ซีซี มาเป็น 821 ซีซี แล้วเปลี่ยนเลขท้ายเท่านั้นแต่ มอนสเตอร์821 มีอะไรมาให้เราสนุกมากกว่านั้นอีกเยอะ

F8-MONSTER-93

ข้างนอกเปลี่ยนใหม่ ข้างในก็เปลี่ยนด้วย

เมื่อ ดูคาติได้ทำการเปลี่ยนโฉม มอนสเตอร์รุ่นใหม่ อย่าง มอนสเตอร์1200 รุ่นรองลงมาเองก็ได้รับการปรับโฉมโดยยกเอาหน้าตาจากรุ่นพี่มาเกือบทั้งหมด แต่ต้องบอกตามตรงว่าถึงเปลี่ยนโฉมมาใหม่ก็ยังคงความเป็นมอนสเตอร์แบบดั่งเดิมเอาไว้สูง จนถ้าเอาสติ๊กเกอร์หรือโลโก้แบรนด์และรุ่นออกเชื่อว่าเราก็ยังมองกันออกว่ารถคันนี้คือ ดูคาติ มอนสเตอร์ ฟรี่เมี่ยม เน็กเก็ตไบค์ที่ใครๆ ก็รู้จัก

ไฮไลท์อย่างหนึ่งของมอนสเตอร์821 คือตำแหน่งความสูงของเบาะนั่งคนขี่ที่ปรับขึ้นลงได้โดยค่ามาตรฐานจะตั้งเอาไว้ที่ 810มม. และปรับลงมาได้ที่ 785 มม. ด้านเครื่องยนต์ครั้งนี้ก็มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำด้วยหม้อน้ำขนาดใหญ่จนมีแฟนมอนสเตอร์หลายคนถึงกับบ่นว่าไม่เข้าตาสักเท่าไร

F8-MONSTER-73

เจ้าสัตว์ประหลาดฉลาดขึ้น

หลังจากการแจ้งข้อมูลแผนการขับขี่ในตอนเช้าเบาะนั่งของรถถูกตั้งไว้ที่ระดับต่ำสุด สำหรับคนตัวสูงราวๆ 175ซม. เบาะนั่งระดับนี้ให้ความรู้สึกที่จมไปหน่อยแต่ก็มาพร้อมกับความมั่นใจสำหรับคนตัวเล็กเช่นกัน เราออกสตาร์ทด้วยการเปิดโหมดการขับขี่แบบ "Urban" ซึ่งดูคาติ มอนสเตอร์821 นั้นจะมีโหมดการขับขี่ถึง 3 แบบให้ผู้ขับขี่เลือกใช้ได้แก่ "Urban" "Touring" "Sport" พร้อมกับ แทร็คชั่นคอนโทรล 8 ระดับ เอบีเอส 3 ระดับ และการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าเองก็มี 3 ระดับ โดยแต่ละโหมดจะมีค่ามาตรฐานของระบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับแต่ละโหมดถูกตั้งไว้

ในโหมด "Urban" แทร็คชั่นคอนโทรลจะถูกตั้งเอาไว้ที่ระดับ "8" และเอบีเอสที่ระดับ "3" หรือ 8:3 และการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าจะถูกหน่วงเอาไว้เยอะในระดับหนึ่งเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจุดนี้ทำให้ ดูคาติ มอนสเตอร์821 เหมาะสำหรับนักขี่มือใหม่เอี่ยมอ่องทำให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องกลัวคันเร่งจะเกิน

การตอบสนองในโหมด "Urban" เรียกได้ว่านวลเนียนสุดๆ นวลเนียนจนเกือบลืมไปว่ากำลังขี่ "มอนสเตอร์" อยู่ รอบต่ำในมอนสเตอร์796 ที่ว่าดีขึ้นจากมอนสเตอร์795 แล้ว แต่พอถูกเปลี่ยนโฉมใหม่หมดกลายเป็นว่า เนียนจนหาจุดเปรียบเทียบไม่ถูกกันแทบไม่ถูก ไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงดี แต่โหมด "Urban" ดูจะเร่งได้ไม่ทันใจเท่าไรนัก ด้วยแรงม้าที่ถูกตอนลงเหลือเพียง 75 แรงม้า ในขณะที่อีกสองโหมดจะได้แรงม้าแบบเต็มๆ ที่ 112 แรงม้า

353A9689

ถังใหญ่ได้ประโยชน์

พอพ้นจากตัวเมืองเราเลยรีบเปลี่ยนโหมดจาก "Urban" เป็น "Touring" เพื่อให้เหมาะกับถนนใหญ่มากขึ้น ในโหมดนี้ ระบบอิเล็กทรอนิกส์จะถูกปรับไว้ที่ 4:2 พร้อมกับการตอบสนองคันเร่งในอีกระดับที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากอย่างเห็นได้ชัด บวกกับแรงม้าที่มาเต็มเม็ดเต็มหน่วยทำให้เจ้านี่ขี่ได้สนุกขึ้นอีกมาก ระบบช่วงล่างที่ถูกเซ็ตค่ามาตรฐานก็ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

การซับแรงของช่วงล่างในจังหวะทำความเร็วแล้วเจอหลุ่ม บ่อ เนิน ก็แทบไม่มีอาการกระแทกกระทั้นให้เห็น ระบบกันสะเทือนซับแรงทั้งหมดได้เป็นอย่างดี รวมถึงเวลาเจอหลุมในโค้งแบบไม่ทันมองเราก็ยังไปต่อได้โดยไม่สะดุดหรือทำให้เสียจังหวะมากมาย จะโค้งแคบโค้งความเร็วสูงจะแบบไหนก็รับไหวเข้าได้ออกดีไม่มีย้วย

ถังน้ำมันทรงใหม่นอกจากให้ขนาดความจุที่เพิ่มขึ้นมาถึง 4 ลิตรและให้ความรู้สึกว่ารถดูใหญ่ แน่น บึกบึนแล้ว ตัวถังน้ำมันเองยังช่วยล็อคขาเวลาที่เราเกี่ยวรถเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี ในจังหวะที่เราเอี้ยวตัวพับรถเข้าโค้งแล้วรู้สึกเหมือนกับว่าเข่าเราจะหลุดก็จะมีแหง่งของถังน้ำมันนี่ล่ะที่ช่วยล็อคเอาไว้

F81X8125

ปลดปลอกคอ ปล่อยพลัง

ต้องยอมรับว่าเส้นทางการขับขี่ลัดเลาะบนภูเขาของเชียงใหม่ที่ดูคาติวางเอาไว้นั้นถูกเลือกมาอย่างดีจริงๆ และโหมด "Touring" ของมอนสเตอร์เองก็ทำได้ดีแม้จะไม่ลื่นไหลนุ่มนวลเนียนเท่าการใช้โหมด "Urban" ที่ต้องยอมรับว่าของเขาเนียนจริงๆ สำหรับโค้งบนภูเขาแบบนี้ แต่ก็สนุกกว่าและเร้าใจกว่าในการเปิดคันเร่งดันออกจากโค้งที่บางครั้งจะมีอาการสไลด์เล็กๆ ที่ล้อหลังให้ได้รู้สึกกันบ้าง

โหมด "Touring" ก็เหมือนการปลดปลอกคอของ มอนสเตอร์821 ออกมาในระดับหนึ่งแต่แน่นอนว่านั่นยังไม่ใช่ที่สุด โหมด "Sport" จะปรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ลงมาอยู่ที่ระดับ 2:1 พร้อมกับการตอบสนองของคันเร่งแบบทันทีทันใด เปลี่ยนจาก มอนสเตอร์821 ที่ดูเชื่องๆ ให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดกร้าวร้าวขึ้นมาในทันที

บนเส้นทางลัดเลาะบนเขาแบบนี้การปราบพยศเจ้านี่ในโหมด "Sport" ดูจะไม่ค่อยสนุกเท่าไรนัก แม้ในโหมดนี้จะมีแรงม้าปล่อยมาเท่ากันแต่กลับให้ความรู้สึกที่เร้าใจกว่าในโหมด "Touring" อยู่มาก ด้วยการตอบสนองคันเร่งแบบบิดมากกว่าและอัตราเร่งที่มาแบบทันทีทันใดกว่า ดังนั้นขอกลับมาขี่กินลมแบบสนุกๆ ที่โหมด "Touring" น่าจะดีกว่า

F81X8042

สั่งได้ดั่งใจ เปลี่ยนกลางคันได้แต่ปลายนิ้ว

นอกจากจะมีโหมดการขับขี่อัจฉริยะมาให้ถึง 3 โหมดแล้ว มอนสเตอร์821 ยังเลือกเปลี่ยนโหมดได้แม้ในขณะขับขี่ จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับการเลือกโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ ณ ขณะนั้น  นอกจากระดับแทร็คชั่นคอนโทรลและเอบีเอสที่เป็นค่ามาตรฐานของแต่ละโหมดแล้วเรายังเลือกปรับได้เองตามใจอยากอีกด้วย จะปรับแทร็คชั่น จะเปลี่ยนเอบีเอส จะให้โหมด "Urban" มีค่าเป็น 0:0 ก็ทำได้ตามใจฉัน

ด้านระบบเบรคของ มอนสเตอร์821 ด้านหน้าเป็น เบรมโบ้ เอ็ม4 โมโนบล็อคที่ให้แรงเบรคที่แน่นหนึบเหมือนเช่นเคย ระบบเอบีเอสเองก็ทำได้ค่อนข้างดี มาใจจังหวะที่ควรจะมาไม่ได้รู้สึกว่า เอ๊ะ เอบีเอสจะมาไวเกินไปรึเปล่า แทร็คชั่นคอนโทรลเองก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายอะไรกับการขับขี่มากจนเกินควร

การขับขี่ มอนสเตอร์821 ตลอดทั้งวันบนระยะทาง 230 กม.ที่ ดูคาติวางไว้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้ามากมาย เบาะนั่งเองก็ขนาดใหญ่นั่งสบายก้น แต่ขากลับที่ขี่ลากยาวเข้าที่พักก็มีอาการเมื่อยก้นจนต้องขยับกันบ้าง ตำแหน่งเอื้อมแฮนด์บาร์ไม่รู้สึกว่าเอื้อมเกินไปหรือชิดเกินไป แม้แฮนด์บาร์จะมีขนาดที่ค่อนข้างกว้างมากก็ตาม

F8-MONSTER-8

หล่อ เฟรมแดง ไฟกลม ของเล่นจมเลยพี่น้อง

หลังจากพักกินข้าวเที่ยงเรามีการขับปรับเบาะนั่งขึ้นเป็นระดับสูงสุดที่ 810 มม. ที่ตำแหน่งนี้ค่อนข้างให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการปรับเบาะที่ตำแหน่งต่ำสุด แต่ระดับเบาะนั่งนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนจริงๆ นอกจากเบาะนั่งติดรถที่ปรับได้ที่ระดับ 785-810 มม. แล้ว ดูคาติยังมีเบาะแต่งที่ปรับได้ต่ำกว่าและสูงกว่านี้ออกมาจำหน่ายเพิ่มอีกด้วย

ไม่เพียงแต่เบาะนั่งแล้วยังมีของแต่งอีกมากมายตามมาทั้ง ท่อเทอร์มิโนนี่ ชิลด์หน้า กระเป๋าข้าง หรือพาร์ทคาร์บอนอย่างตูดมดคาร์บอนที่น่าจะเข้ากับโมเดลสีดำมากกว่าสีแดงที่ตูดมดเดิมๆ สีแดงๆ ก็เท่มากพออยู่แล้ว

F81X8010

ฉลาดขึ้น สนุกขึ้น เป็นมิตรมากยิ่งขึ้น

หากมองภาพรวมทั้งหมดถือว่า การเปลี่ยนโฉมใหม่หมดของ ดูคาติ มอนสเตอร์821 ดีกว่าเจนเนอร์เนชั่นก่อนหน้าแบบเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งโดยเฉพาะหน้าตาที่เปลี่ยนไป การตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ทำได้ดีตั้งแต่รอบต่ำ จนกระทั้งไปปรี๊ดในรอบกลางและดึงอย่างแรงในรอบที่สูงขึ้นมา

ไม่เพียงแต่สมรรถนะของเครื่องยนต์ดีที่ขึ้นเท่านั้น มอนสเตอร์821 ยังฉลาดขึ้นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ให้สิทธิ์เราในการควบคุมเจ้านี่ได้อย่างเต็มที่ในรูปแบบที่เราต้องการ ด้วยการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันแบบชัดเจนในโหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมด

การพลิกรถเองก็ง่าย โค้งซ้าย โค้งขวา โค้งแคบหรือเลื้อยพลิกซ้ายพลิกขวาเร็วๆ เราก็พาเจ้า มอนสเตอร์821 ไปได้โดยที่ไม่ต้องออกแรงมากมายอะไร ด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงกว่าเดิม และน้ำหนักรถเปล่าที่ 179.5 ไม่ได้หนักหนาสาหัสจนรู้สึกเมื่อยล้าเมื่อพลิกซ้ายขวา หรือเวลาล่องไปตามโค้งมากๆ ให้ความรู้สึกที่สนุกแบบพอได้ออกแรง จึงไม่เเปลกที่ดูคาติจะบอกว่า มอนสเตอร์821 นั้นเป็นรถที่เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมือใหม่ที่อาจรู้สึกกลัวในตอนแรกแต่ท้ายที่สุดจะต้องติดใจ

F8-MONSTER-18

ความร้อนแรงที่ยังคงอยู่

ทุกอย่างเกือบจบได้สวยสำหรับการทดสอบในครั้งนี้จนกระทั่งเรากลับเข้ามาในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ตอนตอนช่วงเย็นๆ ตอนนี้ล่ะที่เราตัดสินใจนอกจากความเป็นตัวตนของมอนสเตอร์ที่ยังคงชัดเจนแม้จะเปลี่ยนโฉมไป ยังมีเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างที่ ดูคาติ มอนสเตอร์ เจนเนอเรชั่นใหม่นี้ยังคงเอกลักษณ์เอาไว้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ "ความร้อน"

การมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเพิ่มเข้ามาน่าจะช่วยระบายความดุเดือดของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดีแต่ไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้ การขี่ร่อนบนเขาทั้งวันทำให้เราคิดไปเองว่าเจ้ามอนสเตอร์821 ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนแบบในรุ่นก่อนๆ แต่ที่ไหนได้ตำแหน่งท่อสุดเท่ที่อยู่ข้างขาขวา น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ความร้อนเข้าสู่ขาได้โดยตรงและมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นรุ่นน้องที่ร้อนแรงไม่แพ้รุ่นพี่เหมือนกันนะ

F8-MONSTER-5

สุดท้ายที่อัตราสิ้นเปลือง สำหรับคนที่คิดว่าความประหยัดคือทุกสิ่งทุกอย่าง ตามหน้าจอแสดงผลในขณะที่กำลังขับขี่ที่ตามเร็วราวๆ 70-80 กม./ชม. ไว้ว่า ตัวรถมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ราวๆ 4.7ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร เอามาหารกันจะได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ราวๆ 21 กม./ล. ดังนั้นน้ำมันเต็มถังที่ 17.5 ลิตร จะทำให้ดูคาติ มอนสเตอร์821 พาเราไปได้ไกลถึง 367.5 กม. แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอนเพราะจะต้องมีจังหวะที่เราอัดคันเร่งหนักๆ หรือเร่งเเซงที่แน่นอนว่าอัตราสิ้นเปลืองจะต้องมากกว่านั้น จนอาจจะทำให้เหลือระยะใช้งานจริงที่ราวๆ 200-250 กม. จากอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 1ล./15-20กม.

AJPX1572

ทางดูคาติแจ้งเอาไว้ว่ามอนสเตอร์ทั้งสองรุ่นเปิดให้จองกันตั้งแต่ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 โดยมีให้เลือกสองสีหรือ สเตลท์ แบล็ค/ดำ ในราคา 469,900 บาท และ ดูคาติเรด/แดง ในราคา 479,900 บาท โดยจะเริ่มส่งมอบสีแดงในช่วงเดือน มิถุนายน ปีนี้ ตามด้วยสีดำในเดือนกรกฎาคม

มอนสเตอร์821ทั้งสองสีมาพร้อมกับ ดูคาติวอร์รี่ฟรี โปรแกรม ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 25,000 กม.ด้วยท่านใดที่สนใจอย่างลองไปชมตัวเป็นๆ ก็เชิญกันได้ที่โชว์รูมใกล้บ้านกันเลย ถ้ามีโอกาสได้ลองขี่ก็อยากจะให้ลองกันเพราะว่า เลขท้าย "821" นี้ มีทีเด็ดจริงๆ

รายละเอียดทางเทคนิค 2015 ดูคาติ มอนสเตอร์821

ราคาจำหน่าย 469,900 / 479,900 บาท
เครื่องยนต์ สองสูบแอลทวิน 821 ซีซี
ขนาดกระบอกสูบ 88 มม. x 67.5 มม.
กำลังสูงสุด 112 แรงม้าที่ 9,250 รตน.
แรงบิดสูงสุด 89.4 นิวตันเมตร 7,750 รตน.

ขอขอบคุณรถทดสอบจาก บริษัท ดูคาติ มอเตอร์ โฮลดิ้ง(ประเทศไทย) จำกัด และ ดูคาติ ไทยแลนด์

บททดสอบโดย: Ken [Warodom C.]

665A1976

อัปเดตข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ กับเรา Autospinn

เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน ได้ที่นี่

ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เช็คราคารถมือสอง ได้ที่ one2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ