ปอร์เช่ซึ่งสร้างชื่อเสียงโด่งดังในการเป็น “ค่ายรถสปอร์ตพรีเมียม” มานานหลายทศวรรษ ล่าสุดกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของบริษัทกลายเป็น “ค่ายรถเอสยูวีพรีเมียม” ไปเสียแล้ว
ช่วงสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปอร์เช่ประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่ายอดขายรวมพุ่งทะลุเกินกว่า 5,000 คันต่อเดือนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม เมื่อดูรายละเอียดกันลึกๆ จะพบสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น
ยอดขายในเดือนเมษายนของปอร์เช่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% ไปอยู่ที่ 5,217 คันเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ยอดขายบ็อกสเตอร์/เคย์แมน 911/918 คาเยนน์และพานาเมร่ากลับปรับลดลงทั้งหมด
มีเพียงรุ่นเดียวที่ทำยอดขายได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจนั่นคือ มาแคน รถเอสยูวีรุ่นใหม่ที่มีตัวเลขสูงถึง 1,537 คันในเดือนเมษายน (เทียบกับปีที่แล้วไม่ได้เพราะเพิ่งเปิดตัว) โดยเป็นรองเพียงคาเยนน์ที่มียอดขาย 1,773 คันและนั่นหมายถึงรถสองรุ่นที่มียอดขายสูงสุดของปอร์เช่คือรถเอสยูวีทั้งหมด
ยอดขายรถเอสยูวีคิดเป็นสัดส่วน 63% ของยอดขายรถปอร์เช่ทั้งหมด โดยก่อนหน้าการเปิดตัวมาแคน รถเอสยูวี (คาเยนน์) มียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 45% ของยอดขายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่ายอดขายรถเอสยูวีที่สูงจะช่วยให้ปอร์เช่มีเงินทุนในการพัฒนารถสปอร์ตรุ่นใหม่ได้ต่อไปในอนาคตและไม่ส่งผลกระทบต่อแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งมายาวนานอย่างปอร์เช่แน่นอน
ความคิดเห็น