การเลือกซื้อรถกระบะแต่ละคันในปัจจุบันนั้น ต้องยอมรับว่าผู้บริโภคมีทางเลือกมากมายที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ตามความต้องการในการใช้งาน แถมยังสามารถเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และแนวทางในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
รถกระบะไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ใช้งานเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่เป็นรถที่สามารถใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์
นอกเหนือไปจากคุณสมบัติด้านการขนส่งแล้ว หลาย ๆ ครั้งรถกระบะก็กลายเป็นตัวตนที่แสดงภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน จึงไม่แปลกใจที่ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มพัฒนารถกระบะให้มีความพรีเมียมมากขึ้น
เชฟโรเลต ผู้ผลิตรถกระบะชั้นนำของโลกก็เช่นเดียวกันที่พัฒนาสินค้าออกมาจับตลาดกลุ่มนี้ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่ในตลาดรถขนาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ชื่อเสียงของไฮคันทรี่ ก็โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน ในฐานะรถกระบะระดับพรีเมียมเพื่อการใช้งานที่เหนือกว่า
เมื่อเชฟโรเลต ประเทศไทย ตัดสินใจพัฒนา เชฟโรเลต โคโรลาโด ไฮคันทรี่ ขึ้นมาใหม่ แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นรถกระบะพรีเมี่ยมที่น่าสนใจ และพร้อมที่ดึงดูดสายตาของผู้บริโภคทุกราย และเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับตลาดรถกระบะระดับท๊อปสุด
เราหลบร้อน หลบฝน พาเจ้าเชฟโรเลต โคโรลาโด ไฮคันทรี่ รุ่นท๊อปสุดสีแดงสดคันนี้ เดินทางไปเที่ยวเล่นเลียบชายหาดทะเลที่ภาคใต้ตอนบน เพื่อทดสอบสมรรถนะของรถแบบรอบด้าน ว่าจะมีดีเพียงแค่หน้าตาที่สวยงาม หรือจะมีอะไรซ่อนเร้นอยู่มากกว่านั้น
โคโรลาโด ไฮคันทรี่ มาพร้อมชุดแต่งที่ทำให้รถดูเด่นขึ้นมาทันที ที่เด่นจริงก็คือล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ทูโทน ลายใหม่ที่สวยบาดตาใช่ย่อย โคมไฟหน้าสีเข้ม กระจังหน้าสีเทาอ่อนสลับดำ รวมถึงแผงกันชนเสริมและเสาหลังคากลางด้วยวัสดุพื้นผิวมันเงา
ติดตั้งราวหลังคาแนวขวาง โครงเหล็กแบบสปอร์ต ลายโครเมียมด้านข้างตัวรถและกระจกมองข้าง ที่เปิดฝากระบะท้ายสีดำโครเมียม ติดตั้งมาให้เรียบร้อย ซึ่งในภาพรวมของภายนอกรถนั้นให้ความรู้สึกหรูหราสมราคา และแตกต่างโดดเด่นจากรถรุ่นอื่น ๆ บนท้องถนน
เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่สองซึ่งทำให้ไฮคันทรี่ เป็นรถกระบะที่ทรงพลังและมีแรงบิดสูงที่สุดในรถตลาดเดียวกัน เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์รุ่นนี้ไม่ได้ให้กำลังและการตอบสนองที่แพ้กระบะรุ่นอื่น ๆ ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากันหรือใหญ่กว่า เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์นี้ยังให้อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจและสมรรถนะที่สูงต่อเนื่อง การบรรทุกได้อย่างเต็มพิกัด และยังผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
การตอบสนองอย่างรวดเร็วในช่วงออกตัวก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกใจ และยังส่งกำลังอย่างต่อเนื่องไปจนถึงความเร็วสูง โดยที่การตอบสนองของช่วงล่างนั้นเป็นไปอย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นบนถนนหรือบนพื้นทราย โดยเกียร์อัตโนมัติที่ติดตั้งมาให้ความกระชับและแม่นยำในทุกย่านความเร็ว
ภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งใหม่ให้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้นด้วยเบาะที่นั่งคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้าหกทิศทาง หุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียมสีน้ำตาล (Brown Stone) ขณะที่บนแผงแดชบอร์ด คอนโซล และพวงมาลัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา (Piano Black)
บนแผงแดชบอร์ด คอนโซล และพวงมาลัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา มาพร้อมระบบ MyLink เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เพลง ภาพถ่าย วีดีโอ และระบบนำทาง ขณะที่หน้าจอแบบสัมผัสแสดงผลต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น
เสริมความปลอดภัยด้วยกล้องมองหลังที่จะทำงานเมื่อเข้าเกียร์ถอยจอด ภาพด้านท้ายรถจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนสีบนคอนโซลพร้อมเส้นกะระยะที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ด้านท้ายรถโดยภาพบนหน้าจอจะเปลี่ยนทิศทางไปตามการหมุนของพวงมาลัย
รถคันนี้ยังมาพร้อมความปลอดภัยเต็มพิกัด ด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลคทรอนิคส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
ไฮคันทรี่ ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัดโดยกำหนดการเข้าตรวจเช็คสภาพรถอยู่ที่ทุก 15,000 กม. ซึ่งมีระยะเวลาการกำหนดเข้าตรวจเช็คสภาพนานกว่าคู่แข่งที่กำหนดการตรวจเช็คไว้ที่ทุก 10,000 กม. โดยในรุ่นท๊อปที่นำมาขับทดสอบนั้น มาพร้อมราคาจำหน่าย 1.029 ล้านบาท
ถือเป็นรถกระบะพรีเมียมที่น่าสนใจใม่น้อย เพราะสามารถตอบสนองได้ทั้งการใช้งานจริง หรือไลฟ์สไตล์หรูหราในคันเดียว!!!
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chevrolet.co.th/cars/colorado/model-overview.html
หรือทดลองขับที่
https://www.chevrolet.co.th/shopping-tools/test-drive.html
หรือขอใบเสนอราคาที่
ความคิดเห็น