หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ยังมีค่ายรถยนต์ที่ไม่ใช่แบรนด์รถหรูที่เติบโตได้ และยังเติบโตได้ดีแม้ผลจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจก็ตาม
จากรายงานการผลิตรถยนต์ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามียอดผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ราวๆ 3 แสนคัน หากคิดเฉลี่ยแล้วก็จะมียอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ราวๆ เดือนละ 6 หมื่นคันตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา และหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เมื่อถึงสิ้นปีจะมียอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศเพียง 7.2 แสนคัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางเอาไว้มาก
คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสาเหตุหลักนั่นคือเรื่องของสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ยังซึมอย่างต่อเนื่องรวมถึงสภาพเศรษฐกิจโลกเองเช่นกัน ทางผู้บริหารของฮอนด้ากล่าวว่าการกระตุ้นตลาดรถยนต์นั้นไม่มีความจำเป็น สิ่งที่สำคัญคือการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็วมากกว่า
เรื่องการปรับเพิ่มราคารถเนื่องจากอัตราภาษีใหม่ในปี พ.ศ.2559 ทางผู้บริหารบอกว่าเป็นเพียงปัจจัยเล็กๆ ที่จะกระตุ้นให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นในช่วงปลายปี แต่ยังคงหวังปัจจัยอื่นๆ ที่จะช่วยตลาดในช่วงเวลาที่เหลือของปี พ.ศ.2558 ให้ดีขึ้น เชื่อหากมีปัจจัยบวกเข้ามาเสริม ตลาดรวมน่าจะทำยอดได้ถึง 8 แสนคัน
แต่ถึงตลาดรวมจะตกแต่ทว่าฮอนด้านั้นยังเติบโตได้อย่างน่าพอใจจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ช่วงปลายปี พ.ศ.2557 มา ไม่ว่าจะเป็น แจ๊ส หรือ เอชอาร์-วี ที่ยังต้องรอรถกัน 2-3 เดือน โดยฮอนด้ามียอดขายรวม 5 เดือนแรกอยู่ที่ 46,000 คัน โตขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มียอดขาย 5 เดือนแรกอยู่ที่ 38,196 คัน ถึง 23%
แม้จะทำยอดขายไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ แต่ก็ยังเป็นที่น่าพอใจเนื่องจากฮอนด้ายังดึงส่วนแบ่งทางการตลาดจาก 26% เพิ่มเป็น 32% ได้ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ที่ราวๆ 30% ด้านการส่งออกถึงแม้ตัวเลขจะดูดีและมีการผลิตเพื่อส่งออกมากแต่ทางฮอนด้าบอกว่าตลาดต่างประเทศก็ไม่ได้เอื้อถึงขนาดจะมาแทนตลาดในไทยได้ทั้งหมด เนื่องจากหลายๆ ประเทศก็ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเช่นกัน
ทางฮอนด้ายังคงหวังว่ากราฟตัวเลขจะดีดหรือค่อยๆ ขยับขึ้นในเร็ววัน หลังจากที่กราฟตกกลายเป็นแอ่งมาพักใหญ่ๆ แต่ถึงตลาดจะตกและมีการปรับกำลังผลิตลงทางฮอนด้าก็ยังยืนยันว่าไม่มีนโยบายในการเลย์ออฟพนักงานหรือชะลอโครงการโรงงงานแห่งที่สองแต่อย่างใด
LINE
ความคิดเห็น