ตอนสมัยเป็นภาพเรนเดอร์ ภาพหลุด ภาพจากโรงงาน ภาพลุ้นๆ กระแสของเจ้านินจา250ไฟโคมเดียวก็ถือว่ามาแรงอยู่ไม่ใช่เล่น แต่ไหงพอเปิดตัวแล้วคนกลับไม่ค่อยพูดถึงซะอย่างนั้นทั้งที่เจ้านี่ขี่สนุกอยู่นะ
นินจา250เอสแอล ถูกเปิดตัวหลังจากการอัพเกรดซีซีของ คาวาซากิ นินจา300 เครื่องสองสูบเรียงอดีตน้องเล็กสุดจากตระกูลนินจา จนกระทั่งคาวาซากิประเทศไทยได้เปิดตัว คาวาซากิ นินจา250แอสเอล ไปเมื่อราวๆ กลางปี พ.ศ.2557 หลังจากนั้นกระแสของรถคันนี้ก็ดูเหมือนจะเงียบๆ ไป
น้องเล็กของตระกูล
อาจเพราะบรรดาไบค์เกอร์และคนที่กำลังเริ่มเล่นรถใหม่ๆ ในประเทศไทยจะคำนึงถึงปริมาตรกระบอกสูบบวกลบคูณหารกับความคุ้มค่าโดยรวมเป็นหลักมากกว่าที่จะมองถึงสมรรถนะที่ต้องการและเหมาะสมกับการใช้งานหลัก หลายคนเลยเลือกที่จะมองข้าม 250เอสแอลไป
สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือเจ้านี่ขี่ได้สนุกเหลือเชื่อ แม้จังหวะที่คร่อมในครั้งแรกจะให้ความรู้สึกที่แปลกๆ อยู่บ้างก็ตาม มองด้วยตาเปล่าทีแรกเราอาจคิดว่ามิติตัวรถอาจจะไม่ต่างจากคู่แข่งต่างค่ายอย่าง ซีบีอาร์150 หรือ ซีบีอาร์300 แต่พอลองคร่อมจริงๆ แล้วรถคันนี้นั้นกลับเล็กจนน่าตกใจ
กระทัดรัด ทันใจ
นินจา250เอสแอลมีท่านั่งที่ไม่ได้สปอร์ตจ๋าแต่ถูกจัดมาให้คล่องตัวในการควบคุมรถโดนเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพการจราจรของเมืองใหญ่ เครื่องยนต์เองก็ตอบสนองการเรียกของคันเร่งในแบบทันทีทันใด จนหลายครั้งเกือบคิดไปว่ากำลังขี่รถโมตาร์ดหรือเอ็นดูโร่อยู่
ด้วยความที่ตัวรถมีขนาดกระทัดรัดไปซะหมดเวลาลุยฝ่าการจราจรในเมืองจึงเป็นเรื่องที่สบาย ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือกระจกมองหลังที่พอพับเก็บปุ๊ป ความพริ้วก็จะเพิ่มปั๊ป พอบวกกับความรวดเร็ว ลื่นไหล และทันใจของเครื่องยนต์ เจ้านี่เลยรูดในเมืองได้พริ้วสุดๆ
ครบครัน คุ้มค่า
งานประกอบของตัวรถเองก็ทำออกมาได้ดีคุ้มค่าคุ้มราคา ให้หน้าจอแบบฟูลดิจิตอลบอกรายละเอียดสำคัญๆ ครบถ้วน ด้านระบบเบรคที่ให้มาถือว่ายังไม่น่าพอใจเท่าไรนัก เวลามาด้วยความเร็วสูงแล้วเบรคกระทันหันจะรู้สึกว่าเอาไม่อยู่ และต้องใช้เอ็นจิ้นเบรกมาช่วยเยอะ แต่ยังดีที่มีเอบีเอสมาเสริมความมั่นใจอีกขั้น
ระบบช่วงล่างถือว่ายอดเยี่ยมกว่าที่คาดคิดเอาไว้ ระบบกันสะเทือนเดิมๆ นั้นเหลือๆ สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะรูดหลุม เจอคอสะพาน หรือหลังเต่าก็เอาอยู่ แน่นๆ กระชับ มั่นใจ ไม่มีอาการงอแงแต่เวลาเจอถนนที่เป็นคลื่นยาวๆ ก็ย้วยอยู่เหมือนกัน ถ้าอยากให้ถูกใจก็ลองปรับค่าพรีโหลดกันดู
สูบเดี่ยว ตอบสนองดี มีแรง
แม้จะเป็นเครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยวแต่เจ้านินจาเอสแอลก็ยังคงฟีลลิ่งแบบสปอร์ตเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ความมันเร้าใจที่รอบความเร็วสูงยังมีให้คุณๆ ได้สัมผัสกัน ตัวรถนั้นไต่ระดับความเร็วได้อย่างรวดเร็ว และยังทำความเร็วสูงสุดได้มากกกว่า 130กม./ชม.
เอ็นจิ้นเบรคไม่ได้ดึงหนักในเวลาที่ปิดคันเร่ง รถยังคงไปได้แบบไหลๆ เรื่อยๆ โดยไม่ได้มีแรงฉุดมารั้งเอาไว้มาก การเชนจ์เกียร์ลงเองก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าตัวรถถูกกระชากเช่นกัน นินจาเอสแอลจึงมีจุดได้เปรียบตรงนี้สำหรับการใช้งานในเมือง เวลาผ่อนคันเร่งแล้วเปิดอีกครั้งกำลังก็กลับมาได้อย่างรวดเร็ว
มุดเร็วแรงแซงรถซื้อแกง
สำหรับขาโฉบ ปาดซ้าย ปาดขวา น่าจะถูกใจเจ้านี่เป็นอย่างยิ่ง ทั้งความคล่องตัวอัตราเร่งของตัวรถ ที่ทำให้นินจาเอสแอลขับขี่ได้สนุกอย่างเหลือเชื่อในสภาพการจราจรของเมืองหลวง ไม่ว่าจะมุดตอนรถติดหนึบๆ หรือจะโฉบตอนรถไหลๆ หรือจะซัดออกจากไฟแดง นินจาเอสแอลก็ตอบสนองได้หมด แต่ถ้าจะเอาคนซ้อนก็คิดดีๆ หน่อย เพราะเบาะหลังค่อนข้างเล็กทีเดียว
ในสภาพการจราจรที่หนาแน่นรถติดๆ ช่องว่างน้อยๆ เพียงแค่คุณพับกระจกข้างลง รับประกันว่าถ้าใช้รถคล่องๆ แล้ว เจ้านี่จะมุดได้เทพยิ่งกว่ารถซื้อแกงและคนส่งเอกสารแน่นอน
ด้านอัตราการสิ้นเปลืองของตัวรถจากการใช้งาน 89.7 กิโลเมตรอยู่ที่ 3.4 ลิตร หรือ 26.3 กม./ล เท่านั้น
หากถามว่า นินจา250เอสแอลเหมาะกับคนกลุ่มไหน สำหรับคนที่อยากได้รถขนาดใหญ่เท่ๆ ตอบสนองครอบคลุมมากๆ คงต้องข้ามไปมอง นินจา300 หรือรุ่นอื่นๆ แทน แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่ากันราว 5 หมื่นบาท ถ้าใช้งานในเมืองเป็นหลัก ไม่ได้เน้นภาพลักษณ์ว่าต้องเท่ต้องใหญ่ไปเที่ยวบ้าง นินจา250เอสแอล ก็ถือว่าประหยัดเงินคุ้มสมรรถนะเลยทีเดียว
รายละเอียดทางเทคนิค 2015 คาวาซากิ นินจา250เอสแอล
ราคาจำหน่าย | 123,000 บาท |
เครื่องยนต์ | สูบเดี่ยว 249 ซีซี |
ขนาดกระบอกสูบ | 72 มม. x 61.2 มม. |
กำลังสูงสุด | 27.6 แรงม้าที่ 9,700 รตน. |
แรงบิดสูงสุด | 22.6 นิวตันเมตร 8,200 รตน. |
ขอขอบคุณรถทดสอบจาก บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด
บททดสอบโดย: Ken [Warodom C.]
อ่านข่าววงการมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด คลิกที่นี่
ความคิดเห็น