ซูซูกิเปิดตัวเซียส (Suzuki Ciaz) รถซีดานพิกัดอีโคคาร์ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว กระตุ้นให้ตลาดรถประหยัดพลังงานมีความคึกคักขึ้นมาบ้างท่ามกลางความซบเซาหงอยเหงาของตลาดรถในภาพรวม
แน่นอนว่าคู่แข่งโดยตรงของเซียสก็คือนิสสัน อัลเมร่า ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิดรถขนาดใหญ่ราคาย่อมเยาเช่นกัน อัลเมร่ายังถือเป็นรถอีโคคาร์ 4 ประตูคันแรกในประเทศไทย ดังนั้นการเปิดตัวของเซียสจึงเป็นการท้าชิงบังลังก์อย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน ในเซกเมนท์อีโคคาร์นี้ยังมีรถอีกหลายรุ่น ทีมงาน Autospinn ขอเปรียบเทียบรถประหยัดพลังงานสามรุ่น ซูซูกิ เซียส – นิสสัน อัลเมร่า – ฮอนด้า บริโอ อเมซ - มิตซูบิชิ แอททราจ ส่วนรุ่นใดจะมีข้อเด่นและข้อด้อยอะไรบ้าง ไปชมกันเลย
การออกแบบและอุปกรณ์
มาดูกันที่อัลเมร่ากันก่อน สัดส่วนทรวดทรงภายนอกคุ้นหน้าคุ้นตาชาวไทยกันดีอยู่แล้วเพราะเปิดตัวออกมานานหลายปี ก่อนที่จะถูกปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่เมื่อปีที่แล้ว จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ตัวถังขนาดใหญ่โตกว่ารถอีโคคาร์ทั่วไป ความยาวฐานล้อหน้า-หลังอยู่ที่ 2,600 มม. ซึ่งเหนือกว่ารถซับคอมแพกต์บางรุ่นเสียอีก และยังทำให้ตัวถังภายนอกและห้องโดยสารภายในมีความใหญ่โตกว้างขวางกว่าใคร
ภายนอกของอัลเมร่ารุ่นท็อปไลน์จัดเต็มอุปกรณ์มาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไฟตัดหมอก กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ลูกค้ายังสามารถเลือกติดตั้งไฟตัดหมอก LED คิ้วโครเมียม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว และอุปกรณ์อื่นๆได้ ส่วนคนที่ชื่นชอบความสปอร์ตก็สามารถเลือกรุ่นท็อป Sportech ที่ตกแต่งอัพเกรดความโฉบเฉี่ยวอีกระดับ
เข้ามาดูภายในห้องโดยสาร อัลเมร่าใหม่ถูกออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกสบาย พื้นที่กว้างขวางเหนือชั้น บนคอนโซลตกแต่งสีดำเปียโนแบล็ก แผงประตูและมือจับตกแต่งโครเมียม เบาะสีดำบุผ้าลายใหม่เนื้อผ้าคุณภาพสูง พวงมาลัย 3 ก้านสไตล์สปอร์ตดีไซน์ใหม่กระชับมือที่มาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย แผงมาตรวัดมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Multi Information Display (MID) แบบเรืองแสงสีขาวโดดเด่น
อ็อปชั่นอำนวยความสะดวกจัดเต็มฟังก์ชั่นเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายด้วยระบบนำทางในรถยนต์ ระบบเครื่องเสียงพร้อมเครื่องเล่น DVD และจอภาพทัชสกรีน ซึ่งเชื่อมต่อกับ USB บลูทูธ และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีปุ่มสตาร์ท กล้องมองหลังและสัญญาณเตือนกะระยะ ระบบกุญแจอัจฉริยะที่สามารถเปิดกระโปรงท้ายรถได้ พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 490 ลิตรบวกกับช่องเก็บของอีกมากมายสไตล์รถที่รองรับการใช้งานทั้งหนุ่ม-สาวโสดและคนที่เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลม SRS คู่หน้าในทุกรุ่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA และโครงสร้าง ZONE BODY CONCEPT ที่เน้นความแข็งแกร่งป้องกันการชนด้านข้าง
เครื่องยนต์ของอัลเมร่าเป็นบล็อกเบนซิน 1.2 ลิตร รหัส HR12DE พละกำลัง 79 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC-CVT
อัลเมร่าใหม่ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล พร้อมเทคโนโลยีเพียว ไดร์ฟ (PURE DRIVE) ของนิสสัน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีอัตราประหยัดน้ำมัน 20 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยมลพิษต่ำ ควบคุมการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาดและลดการปล่อยไอเสียขณะรถจอดนิ่งสนิทไม่เกิน 3 นาที ด้วยระบบ Idling Stop
สัดส่วนทรวดทรงมีขนาดเล็กกว่าอัลเมร่า บริโอ้ อเมซเป็นรถซีดานที่ทางฮอนด้าพัฒนาต่อยอดจากบริโอ้เพื่อต่อกรในตลาดรถสี่ประตูอีโคคาร์โดยเฉพาะ แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ยังไม่เข้าตาเท่าใดนัก ทำให้มีเสียงวิจารณ์อื้ออึงอยู่พอสมควรเมื่อเผยโฉมออกมาครั้งแรก
ฮอนด้าระบุว่าการออกแบบบริโอ้ อเมซเน้นความทันสมัย ปราดเปรียวและแฝงด้วยความสปอร์ต กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ โดยมีเส้นสายโครเมียมสองชิ้น ดูแล้วน่าจะตอบโจทย์หนุ่มสาวนักศึกษาหรือคนวัยเพิ่งเริ่มทำงานเป็นหลัก
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายพอตัว มาตรวัดดีไซน์สปอร์ต แสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด Eco Indicator เครื่องเสียงแบบ 2 DIN พร้อมช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ช่องเชื่อมต่อ USB เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยแผงครอบวิทยุและมาตรวัด ตลอดจนแผงครอบพนักเท้าแขน
แผงข้างประตูเป็นสีดำในทุกรุ่น และยังเพิ่มความเข้มสไตล์สปอร์ต ด้วยภายในห้องโดยสารโทนสีเทาดำ เบาะนั่งสีดำ และมือจับประตูด้านในสีเมทัลลิกสำหรับรุ่นบน
บริโอ้ อเมซ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 90 แรงม้า เคลมความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ที่ 20 กิโลเมตร/ลิตรเท่ากับอัลเมร่า ขุมพลังบล็อกนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานมลพิษระดับยูโร4 ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที
ความปลอดภัยมีระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ถุงลมอัจฉริยะด้านคนขับแบบ i-SRS และผู้โดยสารด้านหน้า SRS เทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน เพื่อปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านหน้าและด้านข้างของตัวรถตามมาตรฐาน UNECE ในทุกรุ่น
รูปลักษณ์มีความสดใหม่กว่าใครเพื่อนและดูจะลงตัวที่สุดตั้งแต่หน้าจรดท้าย เซียสเป็นรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ เฟสแรก รุ่นที่ 3 และถือเป็นรถซีดาน อีโคคาร์รุ่นแรกของค่ายซูซูกิ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้จะทำการผลิตที่โรงงานของซูซูกิในประเทศไทย และมีแผนเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศซึ่งถือเป็นการการันตีคุณภาพด้วย
เซียสมาพร้อมขนาดตัวถังยาว 4,490 มม. กว้าง 1,730 มม และสูง 1,485 มม มีขนาดฐานล้อยาว 2,650 มิลลิเมตรหรือยาวกว่าอัลเมร่า 50 มม. โดยมีระยะสูงจากพื้นที่ 170 มม และห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 5ุ65 ลิตรหรือมากกว่าอัลเมร่าพอสมควร
ความโดดเด่นแน่นอนว่าต้องเป็นความกว้างขวางภายในห้องโดยสารที่ก้าวข้ามคู่แข่งระดับอีโคคาร์ขึ้นไปเทียบชั้นรถระดับบีเซกเมนท์ได้อย่างสบาย การตกแต่งเน้นโทนอบอุ่นและรองรับการใช้งานได้ทั่วไป เน้นในเมืองเป็นหลัก ออกนอกเมืองก็สามารถขับได้เรื่อยๆ แบบสบายๆ
สำหรับเครื่องยนต์ใช้บล็อก 1.2 ลิตรรุ่นเดียวกับสวิฟท์ ที่ผลิตพละกำลังระดับ 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที โดยมี 4 รุ่นย่อยให้เลือกสรร แบ่งเป็นเกียร์ธรรมดา 2 รุ่นและเกียร์อัตโนมัติซีวีทีอีก 2 รุ่นเน้นความประหยัด
ฟังก์ชั่นที่เพิ่มความสะดวกสบายมีทั้งไฟหน้าโปรเจคเตอร์คุณภาพสูง ระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth สำหรับการรับและวางสายโทรศัพท์ ช่องต่อ USB และ AUX ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เงียบและนุ่มนวลด้วยระบบ NVH ลดเสียงรบกวนและดูดซับแรงสั่นสะเทือน
ระบบความปลอดภัยเทียบชั้นรถอีโคคาร์ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อม EBD ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมกุญแจรีโมทเปิดกระโปรงท้าย
สำหรับสีภายนอกมี 5 สีคือ Snow White Pearl, Star Silver Metallic, Mineral Grey Metallic, Super Black Pearl และสีใหม่โทนน้ำตาล Dignity Brown Pearl Metallic
ค่ายรถจากญี่ปุ่นส่งแอททราจออกมาเมื่อกลางปี 2013 มาพร้อมแนวคิด “แอททราจ…ก้าวที่เหนือใคร”ความโดดเด่นของรถยนต์นั่งขนาดเล็กเจนเนอเรชั่นใหม่อยู่ที่การออกแบบส่วนหน้าให้สั้นลงช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่และง่ายต่อการควบคุมโดยมาพร้อมรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 4.8 เมตร พร้อมการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์
ด้านหน้ามีไฟเดย์ไลท์ LED และไฟตัดหมอกตกแต่งด้วยโครเมียมที่ดูดีมีระดับ แต่ดีไซน์ในภาพรวมดูเรียบง่าย ไม่มีความหวือหวา เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป คู่แข่งสำคัญคือบริโอ้ อเมซที่มีตัวถังใกล้เคียงกัน
ก้าวเข้ามาดูในห้องโดยสาร ออกแบบอย่างเรียบง่ายเช่นกันแต่ก็ถือว่าลงตัว เน้นความเท่ด้วยการใช้เบาะหนังสีดำและวัสดุหนังสังเคราะห์ ตัดเย็บด้วยด้ายสีแดง ที่นั่งตอนหลังมีที่พักแขนและช่องวางแก้วน้ำ ยกระดับความสะดวกสบายในการเดินทางไกล พื้นที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหลังอยู่ที่ 450 ลิตร
รุ่นท็อปไลน์มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เนวิเกเตอร์รุ่นล่าสุดพร้อมหน้าจอระบบสัมผัส 6.6 นิ้ว กล้องมองหลัง ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ปุ่มสตาร์ทและระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS (Keyless Operation System)
ระบบความปลอดภัยอยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ตัวถังนิรภัย Rise Body ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก EBD เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติแบบคู่
เครื่องยนต์น้ำหนักเบาขนาด 1.2 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มาพร้อมถังน้ำมันที่มีความจุ 42 ลิตรซึ่งขับเคลื่อนแอททราจให้ไปได้ไกล 924 กม. หรือมีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 22 กม./ลิตรเลยทีเดียว ขุมพลังบล็อกนี้ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
ทีมงาน Autospinn ได้มีโอกาสร่วมทดสอบขับประหยัดน้ำมัน หลายคนอาจถามว่าอีโคคาร์ขับทางไกลไหวหรือไม่ หลังจากการทดสอบบอกได้เลยว่าสบายมาก ยิ่งกับการขับด้วยเกียร์ธรรมดาด้วยแล้ว อัตราเร่งถือว่าทำได้เทียบเคียงรถยนต์พิกัด 1.8 ลิตรบางรุ่น การเดินทางที่ความเร็วแบบคนทั่วไปในระดับ 100-120 กม./ชม. นั้นรอบเครื่องยังตกอยู่ในช่วงที่ แรงบิดยังมีให้ใช้อยู่ แต่ถ้าขับแช่ยาว ในระดับความเร็วที่ 140 กม./ชม. ขึ้นไปนั้น อาจจะดูว่ากินกำลังเครื่องมากเกินไป
สรุป
นิสสัน อัลเมร่าเคาะราคาเริ่มต้นรุ่น S MT ไว้ที่ 4.37 แสนบาทไปจนถึงรุ่นท็อปไลน์ VL SPORTECH ซึ่งมีค่าตัวสูงถึง 6.29 แสนบาท ราคาระดับนี้ทับไลน์กับรถซับคอมแพกต์ที่จะได้เครื่องยนต์ระดับ 1.5 ลิตรกันเลยทีเดียว แต่อัลเมร่าก็มีอ็อปชั่นมาให้ครบครันอย่างเดย์ไลท์ LED ด้วย รวมถึงความประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้นกว่า
ขณะที่บริโอ้ อเมซมีราคาจำหน่ายย่อมเยากว่า โดยเริ่มต้นที่รุ่น S MT ราคา 4.54 แสนบาทไปจนถึง 5.21 แสนบาทในรุ่น V AT ซึ่งเป็นราคามาตรฐานของรถอีโคคาร์ทั่วไป อุปกรณ์ต่างๆ ก็จะลดหลั่นลงมา ไม่เน้นความหรูหราแต่รองรับการใช้งานทั่วไปได้ดี
ในส่วนของแอททราจ นำเสนอทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ราคาเริ่มที่ 4.49 แสนบาทในรุ่น GLX เกียร์อัตโนมัติ สำหรับรุ่นท็อป GLS LTD อยู่ที่ 5.89 แสนบาท อยู่ในระดับกลางๆ
ปิดท้ายด้วยน้องใหม่อย่างซูซูกิ เซียสเปิดราคาจำหน่ายเริ่มที่ 4.84 แสนบาทจนถึงรุ่นสูงสุด 6.25 แสนบาท
จะเห็นได้ว่าอัลเมร่าและเซียสมีราคาใกล้เคียงกันและเจาะกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน คือลูกค้าที่ต้องการความกว้างขวางกว่ารถอีโคคาร์ปกติ ดูแล้วน่าจะเอนเอียงไปทางหนุ่ม-สาวออฟฟิศคนรุ่นใหม่ไปจนถึงกลุ่มที่เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมากเพียงพอสำหรับการใช้งานอย่างอเนกประสงค์
ด้านบริโอ อเมซและแอททราจมีขนาดเล็กกว่า พื้นที่ในห้องโดยสารจึงน้อยกว่าคู่แข่งในกลุ่มอีโคคาร์อย่างอัลเมร่าและเซียส เจาะกลุ่มลูกค้าหนุ่ม-สาวโสดเป็นหลักหรือกลุ่่มที่ใช้งานรถคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ การขับขี่ในเมืองคล่องแคล่วด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด
อย่าลืมลองขับและสัมผัสตัวจริงของทั้งสามคันกันก่อนตัดสินใจจับจองครับ
ความคิดเห็น