2015 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ หนึบนุ่มบนถนน หนักแน่นบนภูเขา Share this

2015 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ หนึบนุ่มบนถนน หนักแน่นบนภูเขา

Golf Autospinn
โดย Golf Autospinn
โพสต์เมื่อ 23 July 2558

วันนี้ ออโต้สปินน์ขอชวนทุกท่านตามไปทดลองขับแบบสัมผัสแรกกับ 2015 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ล่าสุด ที่ฟอร์ด ประเทศไทย เดินหน้าจัดรถพรีโปรดักชั่นมาให้ลองขับทั้งบนถนนและออฟโรด ท่ามกลางสายฝนและไอหมอกของจังหวัดเชียงราย


2015 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 

ฟอร์ด เอเวอเรสต์เป็นรถอีกคันที่สร้างความมึนงงให้กับผู้บริโภคชาวไทยพอสมควรว่าเปิดตัว เปิดขายและส่งมอบรถกันไปหรือยัง เพราะนับตั้งแต่ฟอร์ดทำการเปิดตัวและราคาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่เมษายน รถคันนี้ก็เงียบงันมาโดยตลอด

เอาจริง ๆ แล้ว ฟอร์ดเพิ่งเริ่มประกาศเดินสายการผลิตรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง และกำหนดการส่งมอบอย่างเป็นทางการก็น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมไปแล้ว กว่าที่ลูกค้าที่จองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์จะเริ่มรับรถกันได้

2015_Ford_Everest_Front

ฟอร์ดเองตั้งเป้าหมายไว้กับรถรุ่นนี้สูงพอสมควร เพราะเมื่อดูจากกระแสตอบรับแล้วต้องถือว่าไม่ธรรมดา ในรุ่นท๊อปนั้น หลายโชว์รูมประกาศงดรับจองมาได้สักระยะ แถมถ้าจองตอนนี้อาจจะได้รับรถกันเกินช่วงต้นปีไปแล้วเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดาของค่ายวงรีสีฟ้านี้

เอเวอเรสต์คือรถยนต์ดัดแปลงบนพื้นฐานปิกอัพ (พีพีวี) ที่ฟอร์ดคุยว่าได้รับการพัฒนาให้มีความเหนือชั้นเทียบเคียงกับรถเอสยูวี โดยได้รับการถ่ายทอดระบบการขับเคลื่อนและเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ จากรถเอสยูวีชั้นนำของฟอร์ดจากทั่วโลก

รูปร่างหน้าตาภายนอกแข็งแกร่ง บึกบึน ตามสไตล์ของเอสยูวีพันธุ์แท้ ซึ่งอาจจะเป็นจุดขายที่ดีของฟอร์ดในการพัฒนาเอสยูวีออกมาให้แตกต่างจากคู่แข่งที่เน้นความหรูหราโฉบเฉี่ยวเป็นหลัก ซึ่งเมื่อลองไปวิ่งเล่นในป่าเขาลำเนาไพร รถคันนี้ก็ไม่ได้แปลกตาแต่อย่างใด

2015_Ford_Everest_Rear

ภายใต้ความสวยงามของรถนั้น มีรายละเอียดในการออกแบบมากมาย เช่นการสร้างมิติของตัวรถด้วยเส้นลายบนฝากระโปรงและหลังคา การออกแบบกระจังหน้าชิ้นใหญ่ที่เข้ากันดีกับโคมไฟหน้าและโคมไฟด้านหลัง รวมถึงเส้นสายต่าง ๆ รอบคัน

ในรุ่นท๊อปที่เราทำการทดสอบเป็นหลัก มาพร้อมล้อขนาด 20 นิ้วและล้อแมกซ์ลายสวยงาม ขณะที่รุ่นรองจากนั้นจะเป็นล้อ 18 นิ้ว ซึ่งขนาดของล้อรุ่นท๊อปอาจจะไม่ได้ส่งผลดีนักต่อการขับขี่ในป่า แต่กลับทำให้รถดูสวยงามแข็งแกร่งอย่างมากในภาพรวมเมื่ออยู่บนท้องถนน

ห้องโดยสารภายในนั้นให้ความแตกต่างกันมากในรุ่นท๊อปและรุ่นธรรมดา โดยในรุ่นท๊อปมาพร้อมความหรูหราแบบเต็มที่ โดยเป็นการยกห้องโดยสารของเรนเจอร์ ไวล์ดแทร็กมาใส่ไว้อย่างไรก็อย่างนั้น คอนโซลหน้าหนังเต็มแผ่นเดินด้ายขาว แทนที่จะเป็นสีส้มเหมือนในปิกอัพ

2015_Ford_Everest_Interior

ขณะที่รุ่นรองลงมายังเป็นพลาสติกธรรมดาแต่เน้นการออกแบบคุมโทนเน้นความหรูหรา ห้องโดยสารภายในมีให้เลือกแต่สีเบจ ทำให้เราต้องตั้งคำถามว่า "แล้วสีดำล่ะ หายไปไหน" อยู่เกือบตลอดการทดสอบ เอาเป็นว่าเชื่อว่าเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ในอนาคตน่าจะมาให้เห็นแน่

นอกจากเน้นความหรูหราที่เพิ่มขึ้นแล้ว ในห้องโดยสารยังเต็มเปี่ยมด้วยฟังชั่นส์การใช้งานแบบล้นเหลือ การสั่งงานทั้งหมดทำงานผ่านจอสัมผัส 8 นิ้วตรงกลางคอนโซลที่แบ่งพื้นที่การทำงานเป็น 4 โซนชัดเจน แถมยังมีจอทีเอฟทีคู่ที่แผงหน้าปัดเล็กหน้าคนขับเสียอีก

เอาจริง ๆ โดยส่วนตัวมองว่าปุ่มบนพวงมาลัยมันเยอะ แล้วฟังชั่นส์การใช้งานระหว่างจอเล็กกับจอใหญ่มันก็ดูซ้ำ ๆ กันในบ้างฟังชั่นส์ แถมการติดตั้งแผงควบคุมจอทีเอฟทีไว้กลางพวงมาลัย แล้วย้ายปุ่มคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ ครูสคอนโทรล ไปไว้ตอนล่าง ทำให้ใช้งานยากขึ้นเล็กน้อย

2015_Ford_Everest_Screen

เบาะที่นั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่งให้ฟังชั่นส์ที่แตกต่างกันไป เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า โดยเฉพาะตำแหน่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะที่นั่งแถว 2 พับได้แบบ 60:40 และปรับเลื่อนได้อย่างง่ายดายแบบสัมผัสเดียว ขณะที่แถว 3 พับได้ด้วยไฟฟ้าจากห้องเก็บสัมภาระ

เสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็นซันรูฟและพาโนรามิกรูฟแบบยาวมาถึงห้องโดยสารตอนหลัง ขณะที่ประตูห้องเก็บสัมภาระนั้น มาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เหมือนกับที่รถเอสยูวีหรูหราใช้งานกันทั่วไป

เครื่องยนต์ในรุ่นท๊อปและรองท๊อปเป็นเครื่อง 3.2 ลิตร มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้กำลัง 200 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่นล่างมาพร้อมเครื่อง 2.2 ลิตรที่ปรับจูนใหม่เป็น 160 แรงม้าและ 385 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ

2015_Ford_Everest_Engine

เอาจริง ๆ แค่เครื่องยนต์ 2.2 ก็เพียงพอต่อการใช้งานอย่างสบายบนท้องถนน หากต้องการใช้งานรถเอสยูวีในเมืองเป็นหลัก เอาไปลุยน้ำท่วมบ้างเล็กน้อย แต่หากต้องการสัมผัสความเป็นเอสยูวีแท้ ๆ คงไม่มีทางให้เลือกนอกจากจะเอา 3.2 รุ่นไหนเท่านั้น

เพราะต้องบอกว่าเจ้าระบบ TMS - Terrain Management System ที่ฟอร์ดคุยนักคุยหนาว่าติดตั้งเป็นครั้งแรกของรถยนต์กลุ่มเดียวกันนั้น ถือเป็นระบบล้ำค่าที่เรียกว่าน่าจะเป็นมาตรฐานสำหรับรถกลุ่มนี้ในประเทศไทยให้ทุกค่ายต้องปรายตามองแบบห่าง ๆ

ระบบที่จะทำการควบคุมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง รวมถึงการทำงานของช่วงล่างในการขับขี่บนพื้นผิวที่แตกต่างกันไป 4 โหมด ประกอบไปด้วย โหมดธรรมดา โหมดหิมะ/โคลน/หญ้า โหมดทรายและโหมดหิน ซึ่งจะแสดงศักยภาพที่แตกต่างกัน

2015_Ford_Everest_Off-road

ในช่วงของการทดสอบนั้น หลัก ๆ ของการใช้งานจะอยู่ที่โหมดแรกบนถนนและโหมดที่ 2 เมื่อเข้าออฟ-โรดแทร็ก ต้องบอกว่าตัวรถนั้นให้การช่วยเหลือผู้ขับขี่เป็นอย่างมากในการขับฝ่าเข้าไปในป่าดง เรียกว่าไม่จำเป็นต้องเรียนรูัออฟโรดระดับสูง ก็ไว้วางใจให้รถพาทัวร์ป่าได้อย่างสบาย

หน้าที่หลักของผู้ขับขี่ก็เหลือแค่เลือกใช้ระบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่กำลังจะลุย ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ การเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับเส้นทาง ที่เหลือก็แค่คุมรถให้ดีและปล่อยให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์จัดการพาไปในเส้นทางต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน

หากมองแค่ในแง่ของการพัฒนารถขึ้นมาสักหนึ่งคันเพื่อให้ได้การตอบสนองที่รอบด้านทั้งความนุ่มนวล สนุกสนานในการขับขี่บนท้องถนน แต่สามารถให้ความหนักแน่นและสมบุกสมบันในพื้นที่ทุรกันดาร ต้องยอมรับว่าฟอร์ดได้พัฒนาเอเวอเรสต์มาในจุดที่น่าพึงพอใจต่อการใช้งานทั้ง 2 ส่วน

2015_Ford_Everest_TMS

ผมเองมองว่าเครื่องยนต์ 2.2 ลิตรนั้น เพียงพอที่จะใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว หรือแม้แต่จะเอามาติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไปลุยป่าก็ยังไหว ซึ่งเรื่องนี้คงต้องไปวัดใจฟอร์ดเอาเองว่าจะพัฒนาออกมาหรือไม่ หลังจากที่น่าจะโดนลูกค้าบ่นเรื่องไม่มีเบาะดำเป็นออพชั่นให้เลือกไปแล้วหนึ่งเรื่อง

เอเวอเรสต์ ใหม่นั้นมีให้เลือกแค่ 3 รุ่นเท่านั้น ไล่กันไปตั้งแต่รุ่น 2.2 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ สนนราคา 1.269 ล้านบาท ตามมาด้วยรุ่น 3.2 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นโลว์ออพชั่น 1.459 ล้านบาท และรุ่นขายดีอย่างรุ่นท๊อปที่บวกราคาเพิ่มอีกเล็กน้อยไปเป็น 1.599 ล้านบาท

ให้แนะนำแบบเป็นทางการก็ต้องบอกว่ารอตัดสินใจอีกแปป ไปลองขับรถของคู่แข่งที่เพิ่งเปิดและกำลังจะเปิดตัวประกอบการตัดสินใจดูก่อนก็ยังทัน แต่หากมุ่งมั่นที่จะจองเอเวอเรสต์แล้ว ถามใจตัวเองให้ดีว่าซื้อรถคันนี้มาแล้วจะเอาไปทำอะไรบ้าง

2015_Ford_Everest_Side

ถ้าจะเอาไว้ขับเท่ ๆ หล่อ ๆ ในกทม.หรือหัวเมืองที่เจริญแล้วเป็นหลัก ไม่เอาไปบุกป่าฝ่าดงแน่นอน จะลองคบเครื่อง 2.2 ลิตรดูก็ไม่เสียหาย แต่หากจะเอาไว้ใช้งานแบบเอสยูวีจริง ๆ ก็คงต้องกัดฟันจ่าย ส่วนจะตัวแพงหรือตัวถูกก็ไปคิดกันที่โชว์รูมตามกำลังเงินในกระเป๋า

ใครเงินถึงอยากได้ของครบ ๆ ตั้งแต่ไฟเดย์ไทม์ไปยันระบบพับเบาะ 3 อัตโนมัติ ไฟหน้าปรับสูงต่ำอัตโนมัติ พาโนรามิกกลาสรูฟ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ถุงลมนิรภัยเข่า สัญญาณเตือนจอดด้านหน้า กล้องมองหลัง ระบบป้องกันจุดบอด ฯลฯ อันนี้มีในรุ่นท๊อปเท่านั้นนะ

เกินความจำเป็นแต่มีไว้ก็เท่ไม่หยอกนะครับ งานนี้!!!

2015_Ford_Everest_Gear

2015_Ford_Everest_Touch-Screen

2015_Ford_Everest_Track

2015_Ford_Everest_End

ขอขอบคุณ ฟอร์ด ประเทศไทย สำหรับการทดสอบรถในครั้งนี้

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn

แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  

เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 

ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ