มีเรื่องงอแงออกมาตลอดสำหรับผู้ให้บริการรถยนต์นั่งสาธารณะอย่างแท๊กซี่ คราวก่อนแท๊กซี่สนามบินก็มีปัญหาจนซาไปมาตอนนี้ พี่ๆ แท๊กซี่ก็ขู่จะหยุดให้บริการกันเสียอย่างนั้น
สหกรณ์แท๊กซี่ ขู่ หยุดให้บริการ หลัง นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา สั่งชะลอการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร ทำให้ผู้ให้บริการนั้นเกิดความไม่พอใจ
ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท๊กซี่ในเขตกรุงเทพมหานครได้มีการยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เพื่อให้ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารระยะสองอีก 5% ตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ สาเหตุเพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้น ต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
ด้านประธานเครือข่ายสหกรณ์แท๊กซี่ในเขตกรุงเทพมหานครกล่าวว่า "หากคมนาคมไม่ยอมอนุมัติ อยากถามว่าการอ้างเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนมีค่าครองชีพสูงขึ้น ผู้ขับแท็กซี่ไม่ได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนจากเศรษฐกิจเหมือนคนกลุ่มอื่น หรือกลายเป็นกลุ่มที่ต้องแบกรับภาระเอง"
และยังบอกต่อว่า "เมื่อผลักดันให้ปรับปรุงบริการ แต่หากไม่ยอมให้ขึ้นราคา ต่อไปผู้โดยสารเรียกไปเส้นทางที่รถติดหรือไม่คุ้มค่า อาจมีการปฏิเสธกลับไปเป็นปัญหาเดิมอีก"
สรุปคือแท๊กซี่ก็พยายามที่จะให้มีเพิ่มค่าโดยสารตามที่ตกลงกันไว้เพื่อให้มีรายได้มากขึ้นสอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นในขณะที่การบริการและปัญหาเดิมๆ ก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับการแก้ไขจากผู้ใช้บริการ ตามที่เราจะสังเกตได้จากทางโซเชียลก็ดีหรือประสบการณ์ส่วนตัวก็ดี
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเรื่องของปากท้องใครบ้างไม่อยากได้ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นแต่ทำงานเท่าเดิม ค่าครองชีพในปัจจุบันที่สูงขึ้นก็ดี หรือจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจก็ดีเชื่อว่าพี่แท๊กซี่เองก็อาจโดนทางบ้านหรือไม่ก็เจ้าหนี้กดดันจนต้องออกมากดดันด้วยการขู่หยุดวิ่งกันอีกที
ทางท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่าหากแท๊กซี่จะเรียกร้องด้วยการหยุดเดินรถ รัฐบาลก็จะหารถอื่นไปให้บริการแทนซึ่งน่ากลัวว่าจะเป็น อูเบอร์ ที่เสนอตัวเหมือนกัน ที่่านมาเองก็มีการร้องเรียนเข้ามาหลายเรื่องซึ่งทางรัฐบาลไม่มีเงินในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ของแบบนี้ก็ใจเขาใจเราเนอะครับ แต่ทุกคนห็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและไม่ได้มีใครบังคับให้คุณทำในสิ่งที่ไม่ได้อยากทำ ดูจากสถานการณ์ถ้ามาแบบแท๊กซี่สนามบินเชื่อว่าคงเป็นแค่คำขู่แต่สุดท้ายก็ให้บริการตามปกติ คงต้องมารอดูกันต่อไป
ความคิดเห็น