ซูซูกิชวนไปลองขับ 2015 ซูซูกิ เซียส จีแอล ซีวีที รุ่นกลางเกียร์อัตโนมัติที่น่าจะเป็นตัวขายหลักของรถรุ่นนี้ มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่เพียงพอต่อการใช้งาน ความกว้างขวางที่น่าสนใจ และการขับขี่ที่เกือบจะเรียกได้ว่าดีพร้อม ถ้าไม่ติดเรื่องน้ำหนักและความแม่นยำของพวงมาลัย
2015 ซูซูกิ เซียส จีแอล ซีวีที
หลังจากเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไม่นาน ซูซูกิ ก็ส่งเทียบเชิญสื่อมวลชนเพื่อร่วมทดสอบอีโคคาร์รุ่นล่าสุดของค่ายอย่าง 2015 ซูซูกิ เซียส ซึ่งเป็นความหวังครั้งใหม่ของซูซูกิ ด้วยการตั้งเป้าหมายการจำหน่ายถึงเดือนละ 1,500 คัน
เพื่อสร้างความมั่นใจในฐานะการเป็นรถยนต์นั่งของครอบครัว ซูซูกิจัดทริปให้วิ่งจากกทม.-ตราดเป็นระยะทางยาวกว่า 300 กิโลเมตร และท้าทายให้สื่อมวลชนนั่งกันคันละ 3 คัน เพื่อทำการทดสอบสมรรถนะของรถอย่างเต็มที่
ออโต้สปินน์ได้จับกลุ่มเพื่อทำการทดสอบซูซูกิ เซียส จีแอล ซีวีที ที่มีสนนราคาค่าตัว 5.59 แสนบาท ถูกกว่ารุ่นท๊อปอยู่ 6.6 หมื่นบาท โดยอุปกรณ์ตกแต่งอาจจะลดทอนลงไปบ้าง แต่สิ่งที่จำเป็นต่อการขับขี่ยังคงพกพาไว้อย่างเต็มที่
เซียสมาพร้อมขนาดของตัวถังที่เหนือกว่ารถยนต์อีโคคาร์ทั้งหมด และยังมีขนาดที่ใหญ่โตกว่ารถยนต์ซีดานกลุ่มบี-เซกเมนต์ทั้งหมด แม้จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แต่สมรรถนะที่ให้มาก็ถือว่าสอบผ่าน เป็นอีโคคาร์ที่ขับได้สนุก แม้จะมีข้อติในเรื่องการเซตอัพพวงมาลัยอยู่เล็กน้อย
หากมองว่าต้องการหารถใช้งานในครอบครัว ขับสนุกลุกนั่งสบาย ก็เป็นอีกคันที่น่าสนใจ...
ภายนอกใหญ่โต ตัดอุปกรณ์ทอนความหรูไปบ้าง
ข้อที่เด่นชัดที่สุดของเซียสที่เรียกได้ว่าเป็นจุดขายก็คือขนาดของตัวถังที่ใหญ่โตกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์อย่างเห็นได้ชัด แม้จะประเมินด้วยสายตาแบบไม่เห็นตัวเลขเป๊ะ ๆ ก็พอที่จะคาดการณ์ได้ไม่ยาก
และยิ่งมาเห็นตัวเลขก็จะพบว่าเซียสนั้นกว้าง ยาว มีความยาวฐานล้อและระยะห่างระหว่างล้อทั้งหน้า-หลังที่มากกว่าคู่แข่งทั้งหมด แม้จะมีจุดที่อาจติติงได้ว่าวงเลี้ยวกว้างกว่าคู่แข่งเล็กน้อย แต่เมื่อแลกกับความสะดวกสบายแล้วก็ถือว่าน่าจะพอรับได้
ในรุ่นจีแอลซึ่งเป็นรุ่นกลางนั้น ให้ความหรูหราไม่ได้แตกต่างอะไรจากรุ่นท๊อปมากนัก เพราะการติดตั้งโครเมียมในตำแหน่งต่าง ๆ และกรอบโคมไฟหน้าแบบฮาโลเจนโปรเจกเตอร์ ก็ติดตั้งมาให้เหมือน ๆ กัน
ที่แตกต่างกันก็คงจะเป็นฝาครอบล้อที่ถูกเปลี่ยนจากล้ออัลลอยในรุ่นท๊อป แต่ก็มาพร้อมขนาด 15 นิ้วเท่ากันไม่ผิดเพี้ยน ทำให้ดูในภาพรวม ๆ ของภายนอกนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรกันอย่างเป็นรูปธรรม
สีตัวถังภายนอกที่มีมาให้เลือกจะเน้นสียอดนิยม 5 สี เนื่องจากเป็นรถยนต์ที่เน้นการเจาะกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก สีลูกกวาดที่เราเห็นในรถซูซูกิยุคหลัง ๆ เลยถูกเก็บเข้ากรุ และปล่อยสีขาว เงิน ดำ น้ำตาล และเทาเท่านั้น ที่นำมาใช้ในการเปิดตัว
เครื่องยนต์ 1.25 ลิตร 91 แรงม้า เพียงพอต่อการใช้งาน
ก่อนหน้าที่จะมาทำการทดสอบนั้น เจอะหน้าใครที่สนใจรถยนต์คันนี้ก็มักจะมีคำถามว่า เครื่องยนต์รุ่นเดียวกับสวิฟท์หรอ มันจะอืดไม๊ จะลากตัวถังไปไหวหรือเปล่า จะกินน้ำมันมากขึ้นไหม ซึ่งเป็นคำถามที่แสดงให้เห็นว่าหลายคนยังคลางแคลงใจกับสมรรถนะของเครื่องยนต์
ทีมงานของซูซูกิบอกว่าแม้จะเป็นเครื่องยนต์และเกียร์ชุดเดียวกันกับสวิฟท์ แต่ก็ได้รับการจูนอัพในส่วนของเกียร์เสียใหม่เพื่อให้ได้สมรรถนะที่ดีขึ้น เหมาะกับรถที่มีขนาดตัวถังใหญ่ขึ้น และทำให้สมรรถนะในการขับขี่ดีขึ้นกว่าเดิม
เครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่องยนต์เค12บี แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.25 ลิตร ที่าให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาทั พร้อมแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที
ในช่วงของการออกตัวอาจจะรู้สึกถึงอาการตื้อ ๆ ของเครื่องยนต์บ้างเล็กน้อยที่ความเร็วต่ำมาก แต่พอผ่านย่านความเร็วสัก 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมาได้ จะรู้สึกว่าเครื่องยนต์ให้การตอบสนองที่มีชีวิตชีวามากขึ้น
จากนั้นเรื่องของการทำความเร็วในการเดินทางตั้งแต่ 80-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ไม่ใช่ปัญหา การเปลี่ยนความเร็วไปมาก็ทำได้อย่างไหลลื่น แม้จะไม่ได้ตอบสนองได้อย่างว่องไว แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานเจ้ารถคันใหญ่นี้อย่างแน่นอน
ภายในเน้นสบาย อุปกรณ์เพียงพอต่อการใช้งาน
ภายในของรุ่นจีแอลนั้นถือเป็นสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นท๊อปอยู่มากพอสมควร ซึ่งแม้ในเชิงของอุปกรณ์หลัก ๆ จะยังมีอย่างครบครัน แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ จุดที่พอจะทำให้ผู้ที่ซื้อรถต้องพิจารณาว่าจะจ่ายเงินเพิ่มดีหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่นระบบสตาร์ทและปิดการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยการกดปุ่ม ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ ระบบเครื่องเสียงแบบบลูทูธ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมมัลติฟังชั่นส์ หรือรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างที่พักเท้าสำหรับคนขับ
นอกนั้นแล้วถือว่าจัดมาอย่างสูสีใกล้เคียงกันเกือบทั้งหมด เบาะที่นั่งด้านคนขับที่ปรับระยะต่ำ-สูงได้ ตัวเบาะนั้นดูแรก ๆ เหมือนจะอ่อนนิ่มไปเล็กน้อย แต่เมื่อนั่งทางไกลก็ไม่ได้พบปัญหาความเมื่อยล้า
จุดที่ต้องปรับน่าจะเป็นเบาะที่นั่งตอนหลังที่เบาะรองคอเป็นแบบปรับเลื่อนไม่ได้ และตำแหน่งการนั่งหลังที่ถูกยกสูงขึ้นเล็กน้อย ซูซูกิบอกว่าเป็นการปรับตำแหน่งเพื่อความสบาย โดยปรับมมาให้เหมาะสมกับสรีระคนสูง 175 เซนติเมตร คนสูงน้อยกว่านั้นเลยนั่งแล้วไม่ค่อยสบายเท่าไร
ขณะที่การเลือกใชัวัสดุในห้องโดยสารและงานประกอบนั้นเป็นมาตรฐานอีโคคาร์ของซูซูกิอยู่แล้ว การเลือกสีที่ตัดกันในห้องโดยสารทำได้อย่างดีให้บรรยากาศที่เหมาะสมกับการขับรถ แต่ก็ไม่ได้หรูหราอลังการเวอร์วังแต่อย่างใด
ปรับพวงมาลัยให้คมอีกนิด ที่เหลือสอบผ่านแล้ว
การใช้งานจริงของซูซูกิ เซียสนั้น ต้องบอกว่าให้ความประทับใจในด้านการขับขี่กับเรามากกว่าที่คาดเอาไว้ ตอบเลยว่ารถไม่อืดอย่างที่หลาย ๆ คนคิดว่ามันจะต้องเป็น แถมยังสามารถใช้งานไกล ผู้ใหญ่นั่ง 3 คนได้จริงแบบไม่มีปัญหา
พื้นที่ห้องโดยสารก็กว้างใหญ่นั่งได้สบาย ห้องเก็บสัมภาระก็ใหญ่พอสำหรับการขนข้าวของเดินทางไกลได้ ช่วงล่างรถก็เอาอยู่แม้จะวิ่งทำความเร็วระดับปานกลางถึงสูงก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่ต้องเอามาขบคิดว่ารถดีหรือไม่ดีแต่อย่างใด
ที่พูดเป็นเสียงใกล้เคียงกันในการทดสอบก็คืออาการของตัวที่ย่านความเร็วสูงมีอาการโคลงเคลง ผมเองกลับไม่รู้สึกว่ารถมันโคลงเคลงอะไร แต่กลับคิดว่าน่าจะมีอาการมาจากพวงมาลัยที่เซตอัพมาเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ที่เป็นปัญหา
พวงมาลัยของเซียสนั้น เซตอัพมาค่อนข้างเบาเพื่อให้สะดวกสบายและคล่องตัวในการขับขี่ แต่เมื่อใช้งานจริง กลับรู้สึกว่าเบาเกินไปและไม่มีความคมในการควบคุมและใช้งานสักเท่าใดนัก ทำให้เมื่อต้องเดินทางไกลที่ความเร็วสูงอาจจะกลายเป็นจุดอ่อน
อย่าลืมว่าความมั่นใจในการขับขี่รถนั้น องค์ประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องสำคัญที่เอามาประมวลผลรวมกันอยู่ตลอดเวลาในการขับขี่ ซึ่งทางผู้บริหารของซูซูกิก็รับปากว่าจะลองไปพิจารณาเรื่องนี้ดูกันใหม่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากไม่มองเรื่องของพวงมาลัย ก็ต้องนับว่าเซียสนั้นเป็นรถยนต์ที่เซตอัพด้านอื่น ๆ มาอย่างลงตัว รวมถึงการให้อุปกรณ์มาอย่างเต็มพิกัดเทียบชั้นบี เซกเมนต์ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยที่ให้ถุงลมนิรภัยคู่หน้ามาตั้งแต่รุ่นล่างสุด
ถามโดยรวม ๆ ว่าดีกว่าอีโคคาร์ ซีดาน คันอื่นในท้องตลาดแล้วหรือไม่ ในภาพรวมก็คงต้องบอกว่าเหมาะสมที่สุดที่จะจับจองเป็นเจ้าของ แต่หากเทียบกับบี-เซกเมนต์ ก็ต้องยอมรับว่าการขับขี่และการตอบสนองอาจจะยังเป็นรองอยู่เล็กน้อย
แต่เมื่อเอาราคาที่ให้มาไปคำนวนด้วยแล้ว มองความคุ้มค่า ณ เวลานี้ รุ่นนี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจให้กับคนที่คิดจะซื้อรถยนต์นั่งขนาดเล็กกับเขาด้วยเหมือนกัน...
รายละเอียดทางเทคนิค 2015 ซูซูกิ เซียส จีแอล ซีวีที
ราคาจำหน่าย | 5.59 แสนบาท |
เครื่องยนต์ | เค12บี เบนซิน ขนาด 1.25 ลิตร |
กำลังสูงสุด | 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติแบบซีวีที |
รองรับเชื้อเพลิงสูงสุด | อี20 |
ขอขอบคุณ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับการทดสอบรถในครั้งนี้
ผู้เขียน golfautospinn พูดคุยกันได้ที่ pisan.i@icarasia.com เฟซบุ๊ค Autospinn.Fans และทวิตเตอร์ @autospinn
อัปเดตข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ กับเรา Autospinn
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน ได้ที่นี่
ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เช็คราคารถมือสอง ได้ที่ one2car
ความคิดเห็น