จากการเปิดตัวครั้งแรกไปแล้วในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 และทาง ออโต้สปินน์ ได้มีการทดสอบครั้งแรกด้วยระยะทางสั้นๆ ไป ซึ่งทำให้พอรู้สมรรถนะบางส่วน แต่วันนี้เราจะมาทำการทดสอบระยะทางไกลกัน
การทดสอบขับทางไกลวันนี้กับ MG3 ด้วยระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร (ไป-กลับ) ทำให้ผมพอมีระยะทางในการทดสอบที่จะได้เห็นถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และเกียร์เซเลเมติกอย่างเต็มที่ จากที่หลายคนบอกว่าตัวเกียร์เป็นปัญหาเพราะการเปลี่ยนไม่นุ่มนวลและใช้งานยาก โดยจุดประสงค์ที่แท้จริงของ MG ที่เลือกใช้เกียร์ชุดนี้เพราะต้องการให้ผู้ขับขี่ได้รับความสนุกสนานและสมรรถนะที่ดีระหว่างการขับขี่
การออกแบบสำหรับ MG3 ให้ความรู้สึกแตกต่างจากรถยนต์ที่เราเคยชินกันบนท้องถนนเพราะ MG3 จะมีการใช้สีสันบนรถยนต์ที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน ความสดใหม่ ความสวยงาม โดยจะมีการเล่นสีระหว่าง ส่วนของหลังคารถยนต์กับส่วนของตัวถัง เรียกได้ว่าขบวนทดสอบของผมผ่านไปที่ไหนก็มีแต่คนเหลียวมองตามกันเลยทีเดียว
MG3 จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาว์ล พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิด 135 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดแบบ เซเลเมติก ซึ่งเป็นเกียร์ที่ต้องทำความรู้จักกับมันสักนิดเพราะเป็นเกียร์ที่มีการทำงานต่างจากเกียร์อัตโนมัติทั่วๆไปที่เราเคยรู้จัก
จากการทดสอบระบบเกียร์ผมพบว่าถ้ามีเวลาเรียนรู้แล้วปรับตัวให้เข้ากับการทำงานของเกียร์ชุดนี้จนชินจะทำให้ผู้ขับขี่ได้รับความสนุกสนานและอัตราเร่งที่ดี ซึ่งผู้ใช้งานต้องใช้เวลาในการปรับตัวอยู่พอสมควรกว่าจะทำให้เกิดความคุ้นเคยกับเกียร์ชุดนี้ที่มีการทำงานไม่เหมือนเกียร์ทั่วไปในประเทศไทย
การทำงานของเกียร์ เซเลเมติก จะเป็นการทำงานกึ่ง ธรรมดา และอัตโนมัติ ซึ่งเวลาจะทำการเปลี่ยนเกียร์เพียงแค่ ยกเท้าออกจากคันเร่งก่อนจะทำการเปลี่ยนเกียร์ แต่ถ้าอยากขับแบบออโต้ก็สามารถทำได้ตามปรกติเช่นเดียวกัน หลังจากผมลองขับแล้วเริ่มเข้าใจการทำงานของมัน เกียร์ตัวนี้เป็นเกียร์จัดว่าเป็นเกียร์ที่ขับสนุกเกียร์หนึ่งเลยก็ว่าได้ อีกทั้งเวลาต้องการเร่งแซงก็สามารถทำได้ดี
ทาง MG ได้มีการจัดทดสอบสมรรถนะรถยนต์แบบเต็มสูบด้วยการจัดพื้นที่บริเวญสนามบินหนองค้อให้เราได้ทดสอบ ระบบการควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อล๊อคขณะเบรคฉุกเฉิน ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการเบรดระหว่างเข้าโค้ง ระบบป้องกันการลื่นไถลซึ่งหลังจากทดสอบระบบความปลอดภัยต่างๆ MG3 สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าเอาอยู่ทุกสถานีการทดสอบเลยทีเดียว
การตอบสนองเครื่องยนต์จากที่ผมได้ใช้ทดลองขับระยะไกล ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดี การเร่งแซงก็สามารถทำได้โดยไม่ยากเย็น ในช่วงขากลับผมได้ทดลองขับด้วยความเร็วสูงเท่าที่จะสามารถทำได้ ซึ่งความเร็วที่ทำได้มากที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ต้องถอนคันเร่งออกก่อนเพราะในช่วงทดสอบมีรถยนต์ค่อนข้างมากและมีฝนตก ซึ่งคาดว่า MG3 จะสามารถทำความเร็วได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน
ผมขอยืนยันตามที่ทางออโต้สปินน์เคยทดสอบไปแล้วว่า MG3 มีช่วงล่างที่เซตมาอย่างดีเยี่ยมนั้นเป็นความจริงด้วยระยะทางราวๆ 300 กิโลเมตร ความแน่นของช่วงล่าง การทรงตัว การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน การเก็บเสียงภายในรถยนต์ จัดว่าค่อนข้างดีมาก ถ้าเทียบกับ รถยนต์ในเซกเมนต์เดียวกัน โดยในช่วงความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวรถยังไม่แสดงอาการสั่นให้เห็น ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นจริงๆสำหรับรถยนต์ในระดับนี้
สุดท้ายนี้อยากฝากบอกเพื่อนๆ อยากให้ลองขับดูด้วยตนเอง ไม่แน่คุณอาจจะหลงรัก MG3 อย่างง่ายดายก็เป็นได้ แล้วถ้าทาง ออโต้สปินส์ ได้รับรถ MG3 มาเทสเดี่ยวเมื่อไหร่เราจะรีวิวเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่ได้ทดลองแน่นอน
ขอขอบคุณ MG SALES (THAILAND) สำหรับการจัดการทดสอบรถยนต์ในครั้งนี้
ทดสอบและเขียนรีวิวโดย Cokeautospinn
สามารถติดตามอัพเดตข่าวสารรถยนต์และมอเตอร์ไซค์เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ความคิดเห็น