[ลองขับ] โตโยต้า คัมรี่ เอสสปอร์ต กับช่วงล่างใหม่ หนึบแน่นแต่ไม่กระด้างบนเส้นทาง กรุงเทพฯ-ชะอำ

หลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อช่วงเดือนก่อน ครั้งนี้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ใจดีจัดทริปทดสอบ คัมรี่ เอสสปอร์ต ใหม่ ด้วยระยะทางไป-กลับกว่า 350 กิโลเมตร ซึ่งทำให้พอทราบได้ว่าสมรรถนะของ เอสสปอร์ต คันนี้มีความแตกต่างจากรุ่นปรกติอย่างไร

การทดสอบ โตโยต้า คัมรี่ เอสสปอร์ต ทริปนี้เป็นแบบสบายๆ เน้นการใช้งานของผู้ทดสอบแต่ละคันเป็นหลัก ไม่ว่าจะเส้นทางการทดสอบ วิธีการขับขี่ ล้วนแล้วแต่ตามสไตล์ตัวใครตัวมันเรียกได้ว่าได้ลองกันแบบที่อยากลองไม่มีการบังคับใดๆ ทั้งสิ้น

ต้องบอกว่าการทดสอบครั้งนี้ผมได้ขับแบบปรกติ ไม่ได้ทำความเร็วเท่าไหร่เพราะถนนในวันทดสอบมีรถยนต์ค่อนข้างมากแทบจะตลอดเส้นทาง จึงเป็นการขับกันไปแบบตามน้ำเรื่อยๆ ดีกว่าเมื่อพอมีระยะให้ลองอาจจะมีกดกันบ้างเป็นครั้งคราว

คัมรี่ เอสสปอร์ต กับการทำตลาดด้วยรุ่นใหม่ของ โตโยต้าที่เน้นเรื่องภาพลักษณ์ที่โดดเด่นแก่ผู้ขับ จุดเด่นการดีไซน์คือเน้นความสปอร์ตทั้งภายในและภายนอก เน้นกลุ่มวัยรุ่นถึงช่วงวัยทำงานที่ต้องการรถยนต์ซีดานหรูหราแต่ยังไม่ทิ้งความสปอร์ต

การออกแบบภายนอกใหม่ให้อารมณ์สปอร์ตดุดันทุกมิติ

ในส่วนของภายนอกนั้นมีการออกแบบที่แตกต่างไปจาก คัมรี่ รุ่นปรกติไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งชุดกระจังหน้าโครเมี่ยมแบบรมดำ ชุดโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ดีไซน์ใหม่แบบรมดำ ไฟท้ายแนวสปอร์ตพร้อมสปอยเลอร์หลัง ท่อไอเสียคู่ออกจริง และล้อแม็กซ์ลายใหม่

โดยขนาดและมิติรถมีขนาดเท่ากันกับคัมรี่รุ่นปรกติทุกประการจะแตกต่างแค่รูปลักษณ์ที่เน้นความสปอร์ตขึ้นเท่านั้น ซึ่งในโฉมนี้เป็นกับคนละโฉมที่ทำตลาดในบ้านเรา

หรือจะพูดกันง่ายๆ ก็คือโฉมนี้คือโฉมที่ทำตลาดอยู่ในแถบยุโรป และออสเตรเลียนั้นเอง โดยรุ่นนี้เป็นครั้งแรกที่โตโยต้าได้นำโฉมของทวีปยุโรปมาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการซึ่งมาในนาม เอสสปอร์ตที่มีการปรับแต่งช่วงล่างใหม่ให้ความกระชับอย่างเห็นได้ชัด

เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร กับม้าที่เพิ่มมา 4 ตัว กดเมื่อไหร่หลังติดเบาะได้เหมือนกัน

เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร Dual VVT-I ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับ คัมรี่รุ่นปรกติ แต่ได้มีการปรับแต่งใหม่ จึงทำให้แรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น  184 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 235 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที พร้อมส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ ซีเควนเชียล ซิฟท์ 6 สปีด จากรุ่นปรกติแรงม้าและแรงบิดจะอยู่ที่ 182 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 231 นิวตันเมตร

ในโหมดการขับขี่แบบอัตโนมัติการตอบสนองของเครื่องยนต์ถือว่าจัดจ้านพอตัว จังหวะการเร่งแซงการคิกดาวน์ทำได้ดีให้ความมั่นใจทุกการเร่งแซง หรือถ้าอยากสนุกเพียงแค่คุณตบเกียร์เข้าหาตัวให้อยู่ในช่อง +,- และใช้ แพดเดิลชิฟท์ ในการเปลี่ยนเกียร์เอง ความสนุกในการขับขี่จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งการเร่งแซง การทำความเร็ว เอสสปอร์ต สามารถทำให้ได้ดั่งใจต้องการ

มีบางช่วงได้ลองทดสอบทำความเร็ว ซึ่งทำได้มากสุดประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและช่วงตีนปลายค่อนข้างจะไหลมากน่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีกเยอะ แต่ผมต้องถอนคันเร่งก่อนเนื่องจากรถยนต์เยอะจึงทำได้ประมาณนี้

ภายในแทนที่ลายไม้ด้วยลายตาข่ายเงินแบบสปอร์ต เบาะนั่งยังสบายเหมือนเดิมเมื่อเดินทางไกล

ในส่วนของภายในการออกแบบจะเน้นโทนสีดำและความสปอร์ตเป็นหลักทั้ง เบาะหนังทรงสปอร์ตพร้อมสีแบบทูโทน (ดำ-น้ำตาล) ในส่วนของแผงคอนโซลในรุ่นเก่าที่เป็นลายไม้ในรุ่นนี้จะปรับเป็นสีเงินลายสปอร์ต ซึ่งโดยรวมน่าจะถูกอกถูกใจสำหรับวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่ยังหัวใจสปอร์ตแน่นอน

การใช้งานอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบนแผงคอนโซลใช้งานง่ายการออกแบบเน้นเรียบหรู ไม่รก และเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หน้าจอทัชสกีนขนาด 7 นิ้ว มีความไวและลื่นตามนิ้วดีมาก แต่ไม่สามารถเล่นได้เมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวต้องรอให้รถจอดนิ่งสนิทถึงจะสามารถกดใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้

ระบบนำทาง นาวิเกเตอร์ แม่นยำไว้ใจได้ แม้บางช่วงจะมีการพูดย้ำหลายรอบจนอาจจะเกิดความรำคาญได้ แต่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับผู้ที่ไม่ชินกับเส้นทางการเดินทาง

เครื่องยนต์เรี่ยวแรงเหลือๆ ช่วงล่างหนึบแน่นทุกสภาพถนน แต่ถ้าต้องการแบบนุ่มนวลอาจต้องทำใจหน่อย

คัมรี่ เอสสปอร์ต มีการปรับจูนใหม่ทั้งระบบเครื่องยนต์และระบบช่วงล่าง โดยช่วงล่างมีความหนึบแน่นมั่นคงขึ้นจนสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่างกับรุ่นปรกติแต่ไม่ถึงกับกระด้างตึงตังจนขับแล้วเหนื่อย ในช่วงทำความเร็วที่ 140-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวรถยังมีการทรงตัวที่นิ่งสนิทไม่มีการโครงเคลงให้เห็นแต่อย่างใด

ในส่วนนี้หลังจากทดลองขับแล้วพบว่าระบบช่วงล่างมีความแตกต่างจากรุ่นปรกติค่อนข้างชัดเจนการซับแรงกระแทกอาจจะไม่นุ่มนวลเท่ารุ่นปรกติแต่ก็แลกมาด้วยความมั่นใจทุกสภาพถนน ซึ่งอาจไม่ถูกใจสำหรับผู้สูงอายุที่อยากได้ความนุ่มนวลมีคนขับให้นั่ง แต่สำหรับวัยรุ่นต้องบอกว่าตอบโจทย์อย่างแรง

ผมได้ขับทดสอบสมรรถนะทั้งการวิ่งบนทางเลียบและทางที่ค่อนข้างขรุขระเพราะบนเส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ-ชะอำ ในบางช่วงได้มีการปรับปรุงถนนใหม่ ทำให้ต้องเบี่ยงไปขับบนไหล่ทาง รวมถึงช่วงขากลับได้มีฝนตกอีกทำให้ คัมนี่ เอสสปอร์ต ได้โชว์สมรรถนะการเกาะถนนช่วงเข้าโค้งและในช่วงที่ถนนเป็นรอนคลื่นอย่างเต็มที่

จากการใข้งานระบบเกียร์ซีเควนเชียลชิฟท์ 6 สปีด มีความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ การใช้งาน แพดเดิลชิฟ ให้ความสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น เครื่องยนต์ตามเท้าอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่แตะคันเร่งลงนิดเดียว เรี่ยวแรงมหาศาลก็สามารถพา เอสสปอร์ต แซงคันหน้าได้อย่างมั่นใจ

การเข้าโค้ง การขับบนทางขรุขระด้วยจังหวะของช่วงโช๊คที่สั้นลงจากการปรับจูนใหม่เฉพาะ เอสสปอร์ตนี้ ทำให้มีความมั่นคง ความหนึบมากขึ้น แต่ต้องบอกกันตามตรงว่าสำหรับผู้ที่อยากได้การขับขี่แบบนุ่มนวลสบายๆ เรื่อยๆ อาจจะไม่ชอบกับช่วงล่างของ เอสสปอร์ต ที่มีความกระชับพอตัว

โดยร่วมถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากสำหรับขาซิ่งขาสปอร์ตที่ชอบระบบช่วงล่างที่หนึบแน่นแต่ไม่ถึงกับกระด้างมั่นใจทุกการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ที่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะทำให้หลังติดเบาะได้เมื่อต้องการ 

รวมถึงรูปทรงที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต สวยงามแปลกตาไปจากคัมรี่รุ่นก่อนๆ ซึ่งเป็นที่สนใจต่อสาธารณชน ทั้งยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่และระบบรักษาความปลอดภัยที่อัดแน่นทั้งคัน เรียกได้ว่าตอบโจทย์สำหรับวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่ยังต้องการความสนุกในการขับขี่

รายละเอียดทางเทคนิค โตโยต้า คัมรี่ เอสสปอร์ต

ขอขอบคุณ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ที่ให้เกียรติทีมงาน ออโต้สปินน์ ได้เข้าร่วมทดสอบ คัมรี่ เอสสปอร์ต ในครั้งนี้ด้วยครับ