เมนทาแกรมเปิดตัวโกโปรสองรุ่นใหม่ เพิ่มกิจกรรมเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น คาดยอดปีนี้แตะ 8 ร้อยล้าน

สาวกกล้องสปอร์ตแอคชั่นคงไม่มีใครไม่รู้จักโกโปร กล้องสปอร์ตแอคชั่นอันดับหนึ่งที่ใครๆ ต่างอยากเป็นเจ้าของ และที่ไม่ธรรมดาคือต้องแรงแบบทวีคูณในทุกๆ ปี อีกด้วย

นอกจาก ฮีโร่ ฮีโร่4 ซิลเวอร์ และ ฮีโร่4 แบล็ค อิดิชั่น แล้ว ล่าสุดโกโปรได้เปิดตัวอีกสองผลิตภัณฑ์เสริมไลน์อัพสินค้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย โกโปร ฮีโร่4 เซสชั่น และ โกโปร ฮีโร่+แอลซีดี

โกโปร ฮีโร่4 เซสชั่น กล้องโกโปรที่เล็กที่สุด เบาที่สุดและสะดวกที่สุดโดยมีขนาดที่เล็กลง 50% และเบาลง 40% เมื่อเทียบกับฮีโร่4 อีกสองรุ่น ออกแบบให้กันน้ำได้ในตัวเองโดยไม่ต้องเพิ่งอุปกรณ์เสริม ใช้งานง่ายด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว

ตามมาด้วย โกโปร ฮีโร่+แอลซีดี ที่ต่อยอดมาจากโกโปร ฮีโร่ แต่ครั้งนี้มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสและการเชื่อมต่อผ่านระบบ WiFi และการบันทึกภาพวีดีโอความละเอียดถึง 1080p60 และภาพนิ่ง 8 เมกะพิกเซล และฟีเจอร์การตัดวีดีโอในตัว

ทางผู้บริหารของเมนทาแกรมเชื่อว่าการเปิดตัวโกโปรอีกสองรุ่นจะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีและยังช่วยเสริมให้โกโปรในผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ปีนี้โกโปรยังได้เพิ่มกิจกรรมเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้กล้องสปอร์ตแอคชั่นกำลังเป็นที่ต้องการของทุกเพศทุกวัยคาดเป้าของบริษัทปีนี้จะแตะถึง 8 ร้อยล้านบาท ซึ่ง 80% นั้นมาจากผลิตภัณฑ์ของโกโปร ด้านส่วนแบ่งการตลอดแม้จะลดลงแต่ตลาดรวมก็กว้างขึ้นจากเมื่อก่อนที่มีส่วนแบ่งอยู่ 90% ปัจจุบันนี้หากทำได้สัก 60-70% ก็ถือว่าดีแล้ว

ด้วยกิจกรรมโร้ดโชว์ ป๊อปอัพสโตร์ และเทรนนิ่งที่มากขึ้น ทำให้ผู้คนเข้าถึง รู้จัก และเข้าใจในการใช้งานโกโปรมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเข้าไปสนับสนุนในกิจกรรมกีฬาและกิจกรรมต่างๆ เช่นเดียวกันกับที่โกโปรในต่างประเทศทำทั้งในโมโตจีพีและตูร์ เดอ ฟร้อง

หากสังเกตจากสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ โกโปร ฮีโร่จะมีสัดส่วนที่ 10% ซิลเวอร์60% แบล็ค30% นั่นหมายความว่าลูกค้าที่มองหาสิ่งที่ดีที่สุดนั้นจะมุ่งเป้ามาที่โกโปรก่อน การเปิดตัวอีกสองรุ่นจะช่วยเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับราคาของโกโปร ฮีโร่4 เซสชั่น นั้น วางจำหน่ายที่ราคา 14,800 บาท และฮีโร่+แอลซีดี จำหน่ายที่ราคา 10,999 บาท โดยพร้อมจำหน่ายในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมกันที่ตัวแทนจำหน่ายทั้ง 250 แห่งทั่วประเทศ

แม้สัดส่วนจะโดนดึงไปจากบรรดาแบรนด์กล้องสปอร์ตแอคชั่นยี่ห้อใหม่ๆ ที่เปิดตัวเข้ามาแย่งลูกค้าระดับล่างไป แต่ทางผู้บริหารเชื่อว่าวันหนึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นจะต้องขยับขึ้นมาสู่โกโปร

อ่านข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจจาก ออโตสปินน์ คลิก