[สัมภาษณ์] เจนณรงค์ มุ่งทวีพงษา : ผมจะสร้างรถสปอร์ตสัญชาติไทยคันแรกให้ได้!!!

ความฝันที่เราจะมีรถยนต์สัญชาติไทยแท้สักคัน เป็นความฝันที่คนในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอยากเห็นแต่ก็ยอมรับว่าเกิดได้ยาก แต่วานาติเคิล ดีไซน์ และเอเทอโน กำลังจะทำให้ความฝันนี้กลับมาเป็นจริงได้อีกครั้ง

ออโต้สปินน์ ได้บุกไปสัมภาษณ์พิเศษ เจนณรงค์ มุ่งทวีพงษา หรือภูภู ที่แม้จะมีอายุเพียง 15 ปี แต่ก็มีความสามารถในระดับที่ทำให้เราต้องกลับไปคิดว่าตอนเราอายุ 15 ปี เรากำลังทำอะไรอยู่นะ แต่เด็กคนนี้ ในวัย 15 ปี คือคนที่ประกาศก้องอย่างหนักแน่นว่า "ผมจะทำรถสปอร์ตสัญชาติไทยออกมาวิ่งให้ได้"

เอเทอโน คองดิโค คือรถยนต์ต้นแบบสัญชาติไทยแท้ที่แม้ชื่อจะมีกลิ่นอายของแบรนด์ซูเปอร์คาร์จากอิตาลีอยู่บ้าง แต่ภูภูยืนยันว่ารถคันนี้ได้รับการติดต่อและอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อทำการผลิตเพื่อจำหน่ายจริงในอนาคต แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดของรถและช่วงเวลาของการเปิดตัวได้อย่างชัดเจน

"จริง ๆ แล้วยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ แต่สำหรับรุ่นแรกผมอยากทำรถสปอร์ตสมรรถนะสัก 300 แรงม้า วางราคาจำหน่ายที่ประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าจะขายทั้งในประเทศและตลาดโลก อันนี้เป็นแผนที่เราวางไว้เบื้องต้น ซึ่งมีการเจรจากับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยบางรายในเรื่องของการผลิตจริง ในใจผมมองว่าอีกไม่เกิน 2 ปีน่าจะได้เห็น"

ถัดจากคองดิโค ภูภูบอกว่าเป้าหมายต่อไปของเขาก็คือการพัฒนารถสปอร์ตสมรรถนะสูงขึ้นไปอีก โดยคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายระดับ 6 ล้านบาท และหากประสบความสำเร็จ เอเทอโนจะทำการพัฒนารถยนต์นั่งขนาดใหญ่เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง ด้วยราคาจำหน่ายที่ระดับ 1-2 ล้านบาท

ฟังแล้วอาจจะเหมือนความฝัน แต่เขาคนนี้ยืนยันว่าการเจรจาได้เกิดขึ้นจริง และอยู่ระหว่างการทำข้อสรุปทั้งหมดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ซึ่งหากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็หมายความว่าเด็กอายุ 15 ปีคนนี้ จะกลายเป็นเจ้าของรถยนต์สปอร์ตสัญชาติไทยคนแรกในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษทันที

ย้อนภาพกลับไปในวัยเด็ก ภูภูบอกว่าเขาเริ่มชื่นชมการออกแบบรถยนต์มาตั้งแต่อายุได้ 6 ขวบ โดยมีสมุดวาดรูปคู่ใจที่ทำการออกแบบรถยนต์มากมาย และจากนั้นก็เริ่มเอาจริงในช่วงอายุ 11 ปีเป็นต้นมา ด้วยกาารสนับสนุนของครอบครัวที่ช่วยผลักดันในเรื่องต่าง ๆ ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์

หลังจากลองผิดลองถูกมานาน วานาติเคิล ดีไซน์ สำนักออกแบบรถยนต์สัญชาติไทยก็เริ่มเปิดตัวด้วยการทำภาพจำลองรถยนต์รูปแบบต่าง ๆ จากการลองถูกลองผิดมา 3-4 ปีในที่สุด ภูภูก็พบแนวทางที่ตัวเองถนัดกับงานออกแบบ 3 มิติ ที่เรียกว่าผลงานของเขาได้รับการสร้างสรรค์ออกมา และได้รับการยอมรับจากสื่อมวลชนชั้นนำทั่วโลก

"ผมทำเองหมดเลยนะ ทั้งเรื่องการติดต่อกับสื่อมวลชนต่างชาติ การส่งข้อมูลต่าง ๆ วานาติเคิลที่เป็นชื่อบริษัทเป็นการเล่นคำมาจากคำว่าผู้ที่หลงใหลคลั่งไคล้ในการออกแบบ แต่พอเราทำแบรนด์ออกมาจริง ๆ เราจะใช้แบรนด์เอเทอโน ซึ่งผมตั้งใจกับงานออกแบบของผมทุกชิ้นมาก โดยเฉพาะรถสปอร์ตต้นแบบที่ทำงานมาแล้วหลายเดือน"

แน่นอนว่าเมื่อเป็นการออกแบบรถสปอร์ต กลิ่นอายของรถที่เราสัมผัสได้ก็เลยเป็นบรรยากาศแบบรถสปอร์ตสายพันธุ์อิตาลี แต่ภูภูบอกว่าต้นกำเนิดความสนใจของเขาที่แท้จริงกลับเป็นแบรนด์รถอังกฤษอย่างแอสตัน มาร์ตินและแมคลาเรน ซึ่งมาผสานกันให้ได้งานออกแบบที่มีเอกลักษณ์ด้วยลายเส้นที่ไขว้กันเป็นตัวเอ็กซ์ที่ด้านหน้า และการออกแบบไฟท้ายที่ยื่นเด่นออกมาจากตัวรถ

เราถามภูภูตรง ๆ ว่าคิดว่ามันยากเกินไปไหมกับการที่เด็กอายุ 15 ปี จะมาเป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำ เขาคนนี้ที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์หลายรายให้เข้าศึกษาต่อในสถาบันด้านการออกแบบรถยนต์ชั้นนำในประเทศอังกฤษ แต่ติดที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ตอบว่าแม้ว่าจะยาก แต่ถ้าตั้งใจทำอย่างเต็มที่กับมันก็ไม่ยากเกินไป

"ผมมองไปที่เรื่องของความสำเร็จในการออกแบบ หากผมทำได้ สิ่งที่ผมจะทำก็คือการส่งต่อแรงบันดาลใจในการทำงานของเราออกไป ให้กับคนอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นเหมือนกับผมได้ลุกขึ้นมาทำอะไร วานาติเคิลเป็นจุดเริ่มต้นและเอเทอโนจะเป็นตัวที่บอกว่าเรากำลังจะเดินไปในทิศทางไหน ซึ่งแม้จะยังระบุช่วงเวลาทั้งหมดไม่ได้ แต่เรามั่นใจว่าเราทำได้แน่นอน"

และทั้งหมดนี้คือการเปิดใจอย่างเป็นทางการครั้งแรกของน้องภูภู ซึ่งเรามั่นใจว่ามันจะไม่ใช่ครั้งเดียว แล้วเราจะรอสัมภาษณ์น้องเขาอีกครั้งในงานเปิดตัวเอเทอโน คองดิโค ในอนาคตอันใกล้นี้!!!